Speedmaster ’57 อันโด่งดังของ OMEGA หวนกลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันเพรียวบางลง แต่อัปเกรดสมรรถนะยิ่งขึ้นในนาฬิการุ่นล่าสุด
เปิดตัวและสร้างความสนใจในหมู่นักสะสมและคนรักนาฬิกาสไตล์วินเทจร่วมสมัยได้อย่างมาก กับผลงานสร้างชื่อ อย่าง Speedmaster ’57 ที่เปิดตัวแนะนำครั้งแรกในปี ค.ศ. 2013 พร้อมสถานะของการเป็นตัวแทนแห่งมรดกการสร้างสรรค์มาจากตำนานนาฬิกาโครโนกราฟของตน และถ่ายทอดโดยการผสมผสานเข้ากับนวัตกรรมแห่งนาฬิกาข้อมือสมัยใหม่ รวมถึงงานออกแบบ ที่สะท้อนถึงประสบการณ์และการผจญภัยบนเส้นทางของการประดิษฐ์เรือนเวลาสำหรับ OMEGA (โอเมก้า) อีกด้วย
โดยในนาฬิกา Speedmaster ’57 นั้นได้เพิ่มสัมผัสอันละเอียดอ่อนให้กับคอลเลกชัน ซึ่งรวมไปถึงการบรรจุเข็มชี้สไตล์ “broad arrow” และดีไซน์หน้าปัดที่มีคุณสมบัติเชื่อมโยงถึงนาฬิการุ่นดั้งเดิมของ Speedmaster Professional ดังนั้น ไม่ว่าด้วยรูปทรงและหน้าตาของนาฬิกาคอลเลกชันนี้จึงมีความคล้ายคลึงกับนาฬิการุ่นโด่งดังในอดีตค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ยังเสริมด้วยขอบตัวเรือนที่บรรจุไว้ด้วยสเกลทาคีมิเตอร์ (tachymeter scale) อีกหนึ่งมรดกด้านสมรรถนะและความสามารถของนาฬิกาที่สืบทอดมาจาก Speedmaster และถูกใจบรรดาแฟนๆ ของนาฬิการะดับตำนานนี้เป็นอย่างมาก
“แซนด์วิช” บรรจุมาร์กเกอร์บอกชั่วโมงแบบช่อง เติมด้วยสารเรืองแสงสีวินเทจ
โดยองค์ประกอบที่นับเป็นการสืบทอดมาจากนาฬิกา OMEGA Speedmaster รุ่นแรกในปี ค.ศ. 1957 นั้นยังรวมไปถึงหูตัวเรือนแบบแนวตรงซึ่งขยายออกจากตัวเรือนนาฬิกา และสร้อยข้อมือที่ชวนให้หวนนึกถึงนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นไอคอนิกในอดีต ส่วนหน้าปัดยังคงเน้นความบริสุทธิ์ของสไตล์และการออกแบบซึ่งรับไปกับนาฬิกาทั้งเรือน โดยการจัดวางหน้าปัดย่อยสองวงบนหน้าปัดกลาง แทนที่จะเป็นหน้าปัดย่อยสามวงเหมือนกับนาฬิกา Speedmaster ทั่วไป ซึ่งได้มาจากการจัดวางหน้าปัดจับเวลา 12 ชั่วโมง และ 60 นาที ไว้ในหน้าปัดย่อยเดียวกัน ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ช่วยให้สามารถอ่านค่าโครโนกราฟได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ขณะที่หน้าปัดย่อยวินาทีที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา คงการแสดงเวลาวินาทีอย่างต่อเนื่อง
Co-Axial Master Chronometer Calibre 9906 ของ OMEGA โชว์การทำงานผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์
จากความสำเร็จและดึงดูดความสนใจของเหล่าคนรักนาฬิกาได้ไม่น้อยของ Speedmaster ’57 นับจากปี ค.ศ. 2013 เรื่อยมา นั้น ล่าสุดในปีนี้ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ Speedmaster ’57 Calibre 9906 และเป็นรุ่นที่มาพร้อมความโดดเด่นของตัวเรือนและกลไกซึ่งบางลง แต่อัปเกรดทั้งประสิทธิภาพและสมรรถนะมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจากการติดตั้งด้วยกลไกจักรกล Master Chronometer ที่มีโครงร่างบางลง โดยในคอลเลกชันใหม่ล่าสุดนี้นำเสนอถึงแปดรุ่นใหม่ภายในตัวเรือนสเตนเลสสตีล และทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 9906 ซึ่งเป็นการใช้กลไกจักรกลไขลานด้วยมือ ที่ช่วยให้นาฬิกามีตัวเรือนบางลง และขอบตัวเรือนตกแต่งประณีตยิ่งขึ้น เพื่อมอบลุคใหม่ที่เพรียวและทันสมัยให้กับ Speedmaster ’57 รุ่นใหม่
คงไว้ด้วยเสน่ห์และลุคสปอร์ตปราดเปรียวของหน้าปัด โดยเฉพาะรุ่นที่มาพร้อมหน้าปัดสีดำแบบ “แซนด์วิช” (sandwich) ที่บรรจุด้วยเครื่องหมายหรือมาร์กเกอร์บอกชั่วโมงแบบช่องและเติมด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีวินเทจ นอกจากนี้ยังรุ่นหน้าปัดสีอื่นๆ ที่ถ่ายทอดความทันสมัย รวมถึงผ่านเทคนิคการเคลือบ PVD สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นรุ่นหน้าปัดสีน้ำเงิน สีเขียว และสีเบอร์กันดีเคลือบเงาใหม่ คอลเลกชันนาฬิการุ่นใหม่ทั้งหมดนี้นำเสนอคู่มากับสายสร้อยข้อมือสเตนเลสสตีล หรือสายหนังจับคู่สีเดียวกันกับหน้าปัด
ทว่า จุดเด่นที่สุดของรุ่นใหม่นี้ ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของความเพรียวบางและปราดเปรียวของนาฬิกา กับตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.50 มิลลิเมตร ที่หนาเพียง 12.99 มิลลิเมตร ถือว่าบางยิ่งกว่านาฬิการุ่นดังอย่าง Speedmaster Moonwatch 3861 ซึ่งมีความหนาอยู่ที่ 13.58 มิลลิเมตร โดยเป็นผลลัพธ์มาจากการติดตั้งกลไกซึ่งบางลงด้วย ขณะที่คงไว้กับเรื่องราวแห่งมรดกทางประวัติศาสตร์ด้านการบินอวกาศ ที่บนสายสร้อยข้อมือของนาฬิกาสตีลนี้ยังได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานนาฬิกา Apollo 11 ที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 2019 โดยมาพร้อมการติดตั้งระบบปรับสายได้อย่างสะดวกสบาย จดสิทธิบัตรโดย OMEGA
หัวใจภายในของนาฬิกาใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 9906 นั้นได้ผ่านประกาศนียบัตรรับรองอย่างเป็นทางการโดย METAS กับระดับมาตรฐาน Master Chronometer โดยเป็นกลไกจักรกลไขลานด้วยมือโครโนกราฟ ทำงานความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 เฮิรตซ์ พร้อมทั้งสำรองพลังงานได้ 60 ชั่วโมง และต้านทานแม่เหล็กได้ถึง 15,000 gauss ติดตั้ง OMEGA column wheel, บาลานซ์สปริง Silicon “Si14” และ Co-Axial Escapement รวมถึงตลับลานสองตัวแบบซีรีส์ ซึ่งมอบประสิทธิภาพทั้งด้านความเที่ยงตรงของการแสดงเวลา และความแม่นยำของการจับเวลาได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งความมั่นใจได้ถึงการกันน้ำได้ลึกสูงสุด 5 บาร์ หรือ 50 เมตร หรือ 165 ฟุต กับฝาหลังแบบหมุนเกลียวขัดเงา แกะสลักด้วยคำว่า “Speedmaster ‘57” และ “50m/165ft” รวมถึงกระจกแซฟไฟร์เรียบแบนเคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF OMEGA
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
MUSIC: Long whisper from ccmixter.org by Stefan Kartenberg
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
