Nomophobia; Technology and Mental Health


ติดมือถือมากไป อาจทำลายสุขภาพกายและใจโดยไม่รู้ตัว รู้จัก ‘Nomophobia’ อาการเสพติดมือถือขั้นรุนแรง อยากรู้ว่าเข้าข่ายหรือไม่ เรามี 9 เช็คลิสต์พฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่ควรระวังให้ลองเช็คดู


ไหนใครมีอาการแบบนี้บ้างยกมือ! ตั้งแต่ตื่นนอนก็รีบคว้าโทรศัพท์มาใช้งานทันที หรือนอนหลับไปทั้งๆ ที่โทรศัพท์ยังคาอยู่ในมือ และตลอดทั้งวันก็จดจ่ออยู่กับการรับส่งข้อความต่างๆ โดยเฉพาะใครที่ชอบแชะ แชร์ อัพสเตตัส ในโซเชียล แน่นอนว่าถือเป็นอาการเสพติดสมาร์ทโฟนอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งหากวันไหนมีเหตุให้ต้องงดเล่นโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วมีอาการกังวลใจเกินกว่าเหตุ หรือที่เราเรียกว่า ‘Nomophobia’คงไม่ดีแน่

‘Nomophobia’ (โนโมโฟเบีย) คือคำย่อของอาการ “no mobile phone phobia” แปลตรงตัวก็คือโรคขาดมือถือไม่ได้ ซึ่งศัพท์คำนี้ถูกบัญญัติขึ้นเมื่อปี 2008 โดย YouGov หรือองค์การวิจัยของสหราชอาณาจักร เพื่อใช้เรียกอาการที่เกิดจากความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นเมื่อขาดโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ติดต่อสื่อสาร โดยที่อาการ ‘Monophobia’ จัดเป็นโรคจิตเวชประเภทหนึ่ง ที่อยู่ในกลุ่มของอาการวิตกกังวล และด้วยชีวิตยุคดิจิทัลที่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้คนส่วนใหญ่เป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัว มาสำรวจตัวเองกันดีกว่าว่า ติดมือถือแค่ไหน ถึงเรียกว่าเป็น Nomophobia

9 เช็คลิสต์ที่เข้าข่ายอาการ Nomophobia

1. ต้องมีโทรศัพท์อยู่ติดตัวตลอดเวลา ถ้าไม่มีจะรู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวาย

2. หมกมุ่นอยู่กับการอัพเดตข้อมูลในสมาร์ทโฟน ถึงไม่มีเรื่องด่วน ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาดูแทบตลอดเวลา

3. ถ้ามีเสียงเตือนหรือสัญญาณเตือนจากโทรศัพท์มือถือ คุณจะหยุดทุกอย่างเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ถ้าตอนนั้นคุณทำอะไรค้างไว้อยู่และไม่สามารถดูโทรศัพท์ได้ทันที จะทำให้คุณขาดสมาธิจากกิจกรรมที่ทำค้างไว้ทันที

4. หยิบโทรศัพท์เป็นอย่างแรก ทันทีหลังตื่นนอน และก่อนนอนก็ต้องไถมือถือดูก่อนถึงจะนอนได้

5. เล่นโทรศัพท์ระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นตอนรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ ขับรถ นั่งรถเมล์ ขึ้นบีทีเอส รอคิวสั่งอาหาร

6. กลัวโทรศัพท์ตัวเองหายมาก ถึงมากที่สุด แม้ว่าจะเก็บไว้ในที่ปลอดภัยแล้วก็ตาม

7. ไม่เคยปิดมือถือเลย

8. พูดคุยกับเพื่อนออนไลน์มากกว่าคุยกับเพื่อนที่อยู่ตรงหน้าเวลานัดเจอกัน

9. ตั้งใจลองงดเล่นมือถือ 1 ชั่วโมง แต่ทำไม่ได้

ทีนี้มาดูกันว่า Nomophobia จะสามารถทำให้เกิดโรคทางกายอะไรได้บ้าง

นิ้วล็อก

อาการปวดชาตามนิ้ว และข้อมือ เส้นเอ็นข้อมืออักเสบ ซึ่งเกิดจากการเล่นมือถือ ที่ใช้มือกด จิ้ม สไลด์ และถือสมาร์ทโฟนต่อเนื่องเป็นเวลานาน ถ้าเริ่มรู้สึกว่านิ้วมือเริ่มแข็ง ลองกำมือแล้วเหยียดขึ้นไม่ค่อยได้ แนะนำให้ไปพบแพทย์โดยด่วน

เสี่ยงวุ้นในตาเสื่อม

การเพ่งจอเล็กๆ เป็นต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ หรือการเล่นโทรศัพท์ในที่มืด จะทำให้สายตาล้าได้ ซึ่งอาการเริ่มแรกอาจมีอาการตาแห้ง ถ้าปล่อยไว้นานๆ โดยไม่ยอมปรับพฤติกรรมอาจจะทำให้เกิดโรคจอประสาทตาและวุ้นในตาเสื่อมได้ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการตาบอดได้

ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่

ท่าเวลาเล่นมือถือจะทำให้เราก้มหน้า ค้อมตัวลงโดยไม่ตั้งใจ เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่ที่หน้าจอ เป็นสาเหตุให้คอ บ่า ไหล่ เกิดอาการเกร็งอย่างต่อเนื่อง เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และหากเล่นนานๆ ก็อาจจะมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย ควรเปลี่ยนพฤติกรรม หมั่นเปลี่ยนท่านั่ง หรือวางมือถือลงบ้าง แล้วหันมายืดเส้นยืดสายก่อนที่อาการจะลุกลามไปมากกว่านี้

หมอนรองกระดูกเสื่อมก่อนวัยอันควร

เนื่องจากการนั่งผิดท่า และนั่งเกร็งเป็นเวลานาน เวลาที่นั่งเล่นมือถือ ซึ่งอาการหมอนรองกระดูกเสื่อมเป็นอาการที่ต่อเนื่องมาจากการปวดเมื่อย คอ บ่า ไหล่ หากปล่อยไว้จนมาถึงขั้นนี้แล้ว อาจจะต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเลยทีเดียว

โรคอ้วน

โรคนี้ถึงจะไม่ได้เป็นผลกระทบโดยตรงจากการติดเล่นมือถือ แต่ก็เป็นโรคทางอ้อมที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง เพราะการเอาแต่เล่นโทรศัพท์โดยที่ไม่ลุกไปทำกิจกรรมอย่างอื่นเลย ทำให้เราขยับร่างกายน้อยลงมาก และยิ่งถ้ากินเยอะขึ้นแต่ขยับร่างการน้อยลง ทำให้การเผาผลาญพลังงานก็น้อยลง ก็อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันจะกลายเป็นโรคอ้วนได้ง่ายๆ

แม้ว่าอาการ Nomophobia จะจัดเป็นโรคจิตเวชแบบอ่อนๆ ที่ไม่ได้รุนแรงจนต้องไปพบแพทย์เพื่อการรักษา แต่ก็เป็นสาเหตุของโรคทางการที่อันตรายหลายโรคเลยทีเดียว ถ้าสำรวจตัวเองแล้วว่า เราก็เข้าข่ายมีอาการ Nomophobia แล้วล่ะก็ ทางที่ดีแนะนำให้เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ลองหากิจกรรมให้ตัวเองทำที่ไม่ใช่การเล่นมือถือ หรือดูหนังผ่านมือถือดู อาจจะลองเปลี่ยนเป็นการออกกำลังกาย หากิจกรรมทำกับเพื่อนที่ต้องอาศัยการพูดคุย ร่วมทำกิจกรรมกันต่อหน้า หรือจะหันมาดูแลตัวเองอย่างเข้มข้นด้วยการปรนนิบัติความงาม ไม่ว่าจะดูแลผิวหน้า หรือผิวกายก็เวิร์คทั้งนั้น

ทั้งนี้ เรามีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายที่มาพร้อมคุณสมบัติการบำรุงผิวมาฝากเป็นไอเดียในการดูแลตัวเอง เพื่อลดอาการ “ติดมือถือ” ที่เป็นอยู่ให้เบาบางลงบ้าง จะมีไอเท็มอะไรไปดูกัน

Nomophobia; Technology and Mental Health

1. AESOP Geranium Leaf Body Cleanser เจลอาบน้ำสูตรฟองน้อย มอบกลิ่นหอมสดชื่น ปลอดโปร่ง ทำความสะอาดด้วยสารสกัดจากใบเจอเรเนียมพร้อมกลิ่นหอมของเปลือกส้มจีนและเปลือกมะกรูด ถนอมความชุ่มชื้น บรรเทาสภาพผิวแห้งกร้าน

2. CHANEL LES BEIGES Healthy Glow Illuminating Oil สูตรผสมชิมเมอร์สร้างฟินิชผิวแวววาวดุจซาตินและมอบไฮไลท์สีคอปเปอร์อ่อนละมุนที่สวยงามให้กับผิวกาย โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสแบบดรายออยล์ที่ซึมซาบอย่างรวดเร็ว มอบความรู้สึกเนียนนุ่มและชุ่มชื้นให้กับผิว

Nomophobia; Technology and Mental Health

3. CLARINS Eau des Jardins Uplifting Melting Body Lotion เปล่งประกายความสดใสด้วยสูตรที่มีกลิ่นหอมอันเปี่ยมเสน่ห์ที่ผสานกลิ่นสดชื่นของเอสเซนเชียลออยล์ Eau des Jardins เข้ากับสารสกัด Leaf of Life ออร์แกนิก และ Hazelnut Oil ที่มอบความชุ่มชื้นและการบำรุงอย่างล้ำลึก ให้ผิวเนียนนุ่มราวกับแพรไหม ผิวนุ่มนวลและได้รับการปลอบประโลม ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 

4. DIOR Miss Dior Rose Sorbet Shimmering Body Gel เจลที่อุดมไปด้วย Centifolia Rose Water บางเบาและสดชื่น เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวพร้อมมอบชิมเมอร์ประกายมุก เนื้อสัมผัสที่ไม่เหนียวเหนอะหนะผสานเข้ากับผิวได้อย่างง่ายดายและมอบความรู้สึกเบาสบาย

Nomophobia; Technology and Mental Health

5. GIVENCHY Irresistible Perfumed Moisturizing Body Milk น้ำนมบำรุงผิวจากจิวองชี่ เผยเสน่ห์ที่น่าค้นหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ กลิ่นหอมแนวฟลอรัล-วู้ดดี้และฟรุ๊ตตี้ที่เล่นด้วยความแตกต่างระหว่างสองกลิ่นที่ตรงกันข้ามของกุหลาบอันหอมหวานและ Blond Wood ที่สดใส บำรุงผิวกายให้ชุ่มชื้นดุจแพรไหม

6. HERMÈS Un Jardin à Cythère Shower Gel ชะล้างทุกสิ่งสกปรกและมลภาวะโดยไม่ทำร้ายเกราะป้องกันความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว พร้อมกลิ่นหอมจากเอสเซนเชียลออยล์แสนสดชื่นที่จะทำให้ทุกประสาทสัมผัสได้รับความสมดุลอย่างดี

7. LAURA MERCIER Serum Body Cream Ambre Vanille เพิ่มความชุ่มชื้น เสริมสร้างผิวให้เรียบเนียน เปล่งประกาย อ่อนนุ่ม มาพร้อมกลิ่นหอมนุ่มนวลของวานิลลา มอบความผ่อนคลายทุกครั้งที่ปรนนิบัติผิว

8. MAISON FRANCIS KURKDJIAN Baccarat Rouge 540 Scented Body Oil บอดี้ออยล์ที่มาพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่เข้มข้นและชัดเจนของมะลิ หญ้าฝรั่น แอมเบอร์กริส และสนซีดาร์

9. OSEA Salts of the Earth Body Scrub สครับเนื้อเข้มข้นผสมเกลือหิมาลายันเม็ดละเอียดและส่วนผสมจากสาหร่าย ช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยน ไม่บาดผิว ให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

10. SANTA MARIA NOVELLA Angeli di Firenze Body Cream สารสกัดจากดอกพริกลีย์แพร์และเชียบัตเตอร์ มอบความชุ่มชื้นล้ำลึก พร้อมสัมผัสความหอมผ่อนคลายของพีช มะลิ แซนดัลวู้ด และวานิลลา


CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF AESOP, CHANEL, CLARINS, DIOR, GIVENCHY, HERMÈS, LAURA MERCIER, MAISON FRANCIS KURKDJIAN, OSEA, SANTA MARIA
NOVELLA
STOCK PHOTOS: Image by diana.grytsku on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon


สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn
On Key

Related Posts

Breguet blue-thumbnail

Breguet Tradition Chronographe Indépendant 7077

Post Views: 16 Breguet เผยโฉม Tradition Chronographe Indépendant 7077 ดีไซน์สมมาตรและโดดเด่นด้วยสี “Breguet Blue” Breguet (เบรเกต์) เผยโฉม…

Your Tarot Weekly

Post Views: 20 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม – วันเสาร์ที่​ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ นิสัย​ของดาว : ยศศักดิ…

Oxbo Bangkok at Millennium Hilton Bangkok

Post Views: 4 โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ เปิดตัวห้องอาหาร Oxbo Bangkok Dining Detonation ระดับพรีเมียม แห่งแรกในเอเชีย นำเสนอรสชาติธรรมชาติอย่า…

ZEEKR House Srinakarin: Premium EVs with a Sustainable Edge

Post Views: 16 ZEEKR ศรีนครินทร์ โชว์รูมยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชัวรี่ แห่งแรกในโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ไปกับการสัมผัสยนตรกรรมรักษ์โลก เปิดแล้ว! โ…

Maurice Lacroix black&white

Maurice Lacroix Aikon Automatic Ceramic

Post Views: 7 Maurice Lacroix เผยโฉมนาฬิกาอันโดดเด่นด้วยวัสดุเซรามิกรุ่น Aikon Automatic Ceramic Maurice Lacroix (มอริส ลาครัวซ์) แบรนด์นาฬิกาหรูจากสว…