เช็คสุขภาพเล็บด้วยตัวเองแบบง่ายๆ กับ 4 เช็คลิสต์ลักษณะเล็บบอกโรค สัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมเทคนิคเลือกอาหารบำรุงเล็บ และ Nail Oil เติมความชุ่มชื้นให้เรียวเล็บสวยสุขภาพดี
หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างว่าเล็บบอกโรคหรือภาวะสุขภาพบางอย่างได้ โดยความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเล็บ เช่น เล็บเหลือง เล็บเป็นดอก เล็บเปราะแตกหักง่ายนั้นไม่เพียงแต่ทำให้เล็บดูไม่สวยงามเท่านั้น แต่อาจบ่งบอกถึงภาวะสุขภาพบางอย่างได้เช่นกัน ก่อนอื่นมาเช็คกันก่อนว่าสุขภาพเล็บของเราเป็นอย่างไร
เล็บสุขภาพดี คือเล็บที่มีสีออกชมพูจางๆ จากสีผิวของเนื้อข้างใต้เล็บ พื้นผิวเล็บเรียบ ผิวหนังรอบเล็บมีความแข็งแรงไม่ถอยร่น และเล็บมีความหนาไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ถ้าเล็บมีความแตกต่างไปนอกเหนือจากที่กล่าวแล้วอาจเป็นเล็บที่ไม่ปกติ และอาจเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติในร่างกาย
เล็บที่ผิดปกติ เกิดได้จากหลายสาเหตุ คือ อาจเกิดจากการติดเชื้อ สารเคมีระคายเคือง การกระแทก มะเร็ง หรือเกิดจากโรคทางกายอื่นๆ อย่างไรก็ตามในบางครั้ง เล็บที่ผิดปกติอาจเกิดขึ้นเองโดยไม่มีสาเหตุได้เช่นกัน ซึ่งเราสามารถสังเกตลักษณะของเล็บได้ง่ายๆ ดังนี้
1. ความหนา-บางผิดปกติ
เล็บที่หนามากผิดปกติ มีหลายโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น เชื้อราที่เล็บ ซึ่งนอกจากเล็บจะหนาขึ้นแล้ว เล็บอาจมีสีเปลี่ยนแปลงร่วมด้วยเป็นสีเหลืองหรือขาวหรือดำ ผิวเล็บอาจมีความขรุขระร่วมด้วย นอกจากนี้ โรคสะเก็ดเงิน ก็อาจจะมีเล็บหนาได้ แต่ต่างกับเชื้อราที่โรคสะเก็ดเงินมักจะมีอาการเล็บหนาหลายๆ เล็บ ตรงข้ามกับโรคเชื้อราที่มักเป็นไม่กี่เล็บ
2. เล็บที่มีพื้นผิวขรุขระ
ผิวเล็บอาจเป็นหลุมเล็กๆ ถ้าเป็นหลายเล็บ อาจบ่งบอกถึงโรคสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ รวมทั้ง ผมร่วงเป็นหย่อมๆ และอาจพบได้ในบางคนโดยไม่มีสาเหตุ
ในคนสูงอายุ เล็บจะเป็นเส้นที่ขนานๆ กัน ดูเป็นระเบียบ และเป็นเหมือนๆ กันแทบทุกเล็บ ลักษณะเหล่านี้เปรียบเหมือนริ้วรอย หรือ ความเหี่ยวย่นของเล็บนั่นเอง
3. ผิวหนังรอบเล็บบวมแดง
เล็บเป็นสิ่งที่บ่งบอกของลักษณะนิสัยบางอย่างได้ เช่น ในคนที่ขยันมากๆ ทำงานบ้านตลอดเวลา สัมผัสกับน้ำบ่อยๆ หรือในบางอาชีพ เช่น เป็นช่างทำผม จะเกิดการระคายเคืองบริเวณเล็บได้ง่าย เช่น จากสารเคมี น้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาดบ้าน ทำให้ผิวหนังรอบเล็บหรือจมูกเล็บมีการเปื่อยยุ่ย บวมแดง ลักษณะนี้ไม่ใช่เชื้อรา ต้นเหตุจริงๆ คือการอักเสบของโคนเล็บ แต่หากเป็นต่อเนื่องนานๆ ในบางครั้งอาจเกิดการติดเชื้อราตามมาได้เช่นกัน
นอกจากนี้ สาวๆ บางคนอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนังที่อ่อนแอ ทำให้ผิวหนังรอบเล็บบวมแดงปวดและมีหนองร่วมด้วย อาการบวมแดงมักเป็นมาไม่นาน ซึ่งต่างจากคนที่มีผิวหนังรอบเล็บบวมจากการระคายเคืองของสารเคมีซึ่งอาจเป็นมานานกว่า
4. เล็บเปลี่ยนสี ภาวะโรคทางกายมีผลกับสีของเล็บได้
• เล็บมีสีดำ อาจเป็นจากมะเร็งผิวหนัง เชื้อรา ไฝ หรืออาจเป็นขึ้นมาเอง กรณีมะเร็งผิวหนังมีข้อสังเกตคือ ลักษณะเล็บที่ดำจะมีลักษณะเป็นปื้นสีดำสีไม่สม่ำเสมอ เป็นแค่เล็บเดียว มีประวัติเป็นมาไม่นาน อาจมีผิวหนังที่โคนเล็บเป็นสีดำร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
อีกภาวะหนึ่ง คือ ภาวะเลือดออกใต้เล็บ ที่เกิดจากการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกาย วิธีการสังเกตคือ ถ้าดูใกล้ๆ จะเห็นสีของเลือดเป็นลักษณะสีแดงเข้มหรือสีม่วง และมักเกิดขึ้นกะทันหัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากเลือดออกเยอะ ปวดมาก สามารถเจาะเอาเลือดออกได้
• เล็บที่มีสีขาวครึ่งเล็บ พบได้ในคนที่เป็นโรคไตวายเรื้อรัง
• เล็บที่มีสีขาวสองในสามของเล็บ พบได้ในคนเป็นโรคเบาหวาน โรคตับแข็งและหัวใจวาย
• เล็บที่มีสีขาวเป็นแถบขวาง อาจเป็นโรคโปรตีนในร่างกายต่ำ เล็บดังกล่าวเมื่อใช้มือกดไปที่เล็บ สีขาวที่เห็นจะจางลง
• เล็บเหลือง หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการเล็บสีเหลือง คือการติดเชื้อรา โดยส่วนใหญ่มักพบในเล็บเท้า แต่ก็สามารถพบที่เล็บมือได้เช่นกัน ถ้าการติดเชื้อรุนแรงขึ้น เล็บอาจหนาและงอร่วมด้วยได้
หลายคนพยายามหาวิธีที่จะทำให้เล็บแข็งแรงและมีสุขภาพดี เพราะการมีเล็บที่แข็งแรง มักเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของการได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็สามารถบำรุงสุขภาพเล็บของเราได้ ดังนั้นหากเล็บของเราอ่อนแอ เปราะบาง งอกช้า หรือไม่แข็งแรง การเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงเล็บได้ก็จะเป็นเรื่องดี
เล็บของเราก็เหมือนกับส่วนอื่นๆ ในร่างกายที่ต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพื่อช่วยให้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง หากเราขาดสารอาหาร ขาดวิตามินหรือแร่ธาตุไม่เพียงพอ หรือขาดโปรตีน เล็บของเราก็มักจะเป็นส่วนแรกของร่างกายที่แสดงอาการออกมาให้เห็น
• เติมวิตามินบีด้วย “ข้าวกล้อง” ช่วยป้องกันเล็บขุ่นไม่สดใส
การรับประทานข้าวกล้องช่วยป้องกันอาการเล็บขุ่นมัน ไม่วาวใสได้ เพราะถ้าเล็บมีลักษณะดังกล่าว อาจเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังขาดโฟเลตอย่างมาก ดังนั้น สาวๆ จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบีเยอะๆ อย่างเช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ผักใบเขียวเข้ม ผักโขม และพืชตระกูลถั่ว เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของวิตามินบี แหล่งรวมของโฟเลต จึงมีส่วนช่วยในการบำรุงเล็บให้แข็งแรงได้
• เสริมกรดไขมันด้วยปลาแซลมอน ช่วยป้องกันเล็บเปราะบาง
สาวๆ ที่กำลังนอยด์เรื่องเล็บเปราะบางหรือเล็บลอก อาจเป็นสิ่งที่กำลังบอกว่าร่างกายของเราขาดกรดไขมัน ดังนั้นการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันสูงอย่างเนื้อปลาแซลมอน จึงสามารถช่วยบำรุงเล็บได้ เพราะกรดไขมันจะช่วยบำรุงเนื้อใต้เล็บให้มีความชุ่มชื้น ลดปัญหาเล็บเปราะบางหรือลอกง่าย ซึ่งนอกจากปลาแซลมอนแล้ว ยังมีแหล่งอาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันอยู่หลายชนิด เช่น ปลาทูน่า น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ อะโวคาโด อัลมอนด์ เป็นต้น
• รับประทานเนื้อสัตว์ เสริมเคราตินให้ร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงให้เล็บ
ที่สาวๆ หลายคน ต้องเคยเจอกับปัญหาเล็บเปราะ ฉีกหักง่าย กันอยู่บ่อยๆ เพราะสาเหตุส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่ร่างกายของเราขาดสารอาหารเคราติน จึงควรเสริมเคราตินให้ร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารกลุ่มโปรตีนเป็นประจำ เนื่องจากเคราตินมีส่วนประกอบมาจากโปรตีน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ไข่ไก่ ถั่ว ฯลฯ ต่างก็ช่วยเสริมความแข็งแรงให้เล็บมีสุขภาพดีได
• ผิวเล็บขรุขระ ไม่เรียบเนียน ป้องกันได้ด้วยอาหารที่มีธาตุเหล็ก
ใครที่ลองสังเกตดูเล็บของตัวเอง แล้วพบว่าผิวเล็บมีลักษณะขรุขระเป็นคลื่นๆ ไม่เรียบเนียน ควรหันมารับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงเป็นประจำ เพราะธาตุเหล็กจะเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยปรับสภาพเล็บให้กลับมาเรียบเนียน ดูมีสุขภาพ โดยแหล่งอาหารของธาตุเหล็ก ได้แก่ ไข่แดง ผักโขม เนื้อแดง เนื้อปลา เนื้อไก่ เป็นต้น ที่สำคัญหากเรารับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงๆ ควบคู่ไปด้วย ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้นด้วย
• ป้องกันและรักษาดอกเล็บด้วยอาหารที่อุดมด้วย “สังกะสี”
ดอกเล็บ คือ จุดที่มีลักษณะเป็นปื้น สีขาว ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบริเวณเล็บ หากใครพบว่าเล็บของตัวเองมีปื้นขาวเกิดขึ้น แสดงว่าร่างกายอาจกำลังขาดสารอาหารประเภทสังกะสีและวิตามินบี ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานอาหารจำพวก อาหารทะเล ถั่วฝัก กระเทียม พืชหัว และธัญพืชไม่ขัดขาว เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารที่มีธาตุสังกะสีเยอะ นอกจากจะช่วยบำรุงเล็บแล้ว ยังช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกายอีกด้วย
• บำรุงเล็บด้วย Nail Oil
น้ำมันบำรุงเล็บ หรือ ออยล์บำรุงเล็บ (Oil Nail) เป็นน้ำมันบำรุงที่ถูกผลิตขึ้นสำหรับใช้ในการบำรุงเล็บ และจมูกเล็บโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำมันบำรุงนั้นสามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับเล็บและจมูกเล็บได้ จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาเล็บที่แห้งแตกหรือเปราะหัก รวมถึงแก้ปัญหาจมูกเล็บที่แห้งเป็นขุยได้ นอกจากนี้ในออยล์บำรุงเล็บบางตัวก็ยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยในการบำรุงเล็บอีกด้วย เช่น แคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บ หรือเคราตินโปรตีนที่ช่วยเติมเต็มโครงสร้างของเล็บที่สึกหรอได้
และนี่คือ 8 Nail Oil ที่เราคัดสรรมาแล้วว่าช่วยเยียวยาเล็บพังๆ ให้กลับมาปังได้
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF BAREFOOT SCIENCTIST, CND, DR.HAUSCHKA, ESSIE, HERMÈS, JINSOON, OPI, SUSANNE KAUFMANN
STOCK PHOTOS:
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่