‘งานจะสะท้อนรสนิยมของศิลปิน และรสนิยมของศิลปินก็เป็นสิ่งสะท้อนตัวตนของพวกเขา’ ประโยคนี้ดูเป็นความจริงมากยิ่งขึ้นเมื่อเราได้สนทนากับ จอม-พรชนก โภชะเจริญ สาวเชียงใหม่เจ้าของอินสตาแกรม moonlit.sailor แบรนด์สมุดบันทึกเย็บด้วยมือที่ถูกตกแต่งหน้าปกอย่างมีเอกลักษณ์และมีเพียงชิ้นเดียวบนโลก
จอมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ด้านวรรณกรรม เธอเริ่มต้นจากการสะสมโปสการ์ด แผนที่ และหนังสือเก่า ด้วยความหลงใหลที่มีในงานกระดาษทำให้เธอค่อยๆ เรียนรู้และลองลงมือทำสมุดด้วยตัวเอง
“สมัยเรียน ด้วยความที่เรียนสายวรรณกรรม เราเลยขลุกอยู่กับหนังสือเยอะมาก จนมีความฝันว่าอยากจะเปิดสำนักพิมพ์เป็นของตัวเอง หรือไม่ก็ทำงานในสำนักพิมพ์ที่ชอบสักแห่ง
ด้วยความที่ชอบงานกระดาษ ช่วงที่ปิดเทอมว่างๆ เราเข้าไปดูคลิปเย็บสมุดทำมือของคนญี่ปุ่น วันรุ่งขึ้นก็เลยลองไปซื้ออุปกรณ์มาเย็บบ้าง มาทำตามเลย นั่นคือจุดเริ่มต้น เรารู้สึกว่าสมุดสวยๆ ในพินเทอเรสต์ (Pinterest) ของต่างประเทศที่หน้าปกเป็นลายแผนที่หรือรูปภาพ ไม่มีในไทยเลย เราก็เลยทำขึ้นมาใช้เอง ทำขายคนในครอบครัวบ้างแล้วก็ค่อยๆเริ่มเปิดอินสตาแกรมร้านขึ้นมาและลองขายดู แล้วก็มีสติ๊กเกอร์ที่เราวาดเองขายด้วย”
“ช่วงแรกๆ ที่ขายได้รู้สึกมีความสุขมาก เพราะมันเป็นครั้งแรกที่มีคนชอบและสนับสนุนในสิ่งที่เราทำจริงๆ และมันก็เป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้กับเราได้จริงๆ” จอมเล่าทั้งรอยยิ้ม “เรารู้สึกว่ามันไปได้ดี ส่วนหนึ่งเพราะเราฟังในสิ่งที่ลูกค้าอยากได้และเราได้ให้ในสิ่งที่เขาชอบและสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เราชอบและรักที่จะทำด้วย”
ผลตอบรับจากคนที่เข้ามาติดตามในอินสตาแกรมเป็นเสมือนกระจกที่สะท้อนความชอบของตัวเธอเองและค่อยๆพัฒนาให้สไตล์ของ moonlit.sailor ชัดเจนขึ้น ผนวกกับความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเนื้อกระดาษ ทำมุมกระดาษมนเพื่อให้ไม่พับหรือยับง่าย รวมทั้งการเพิ่มสายรัดและกระดุมกลัดขึ้นมาสำหรับคนที่ชอบเหน็บปากกา
ในยุคที่อินเตอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์คกำลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคน หลายคนเลือกที่จะพิมพ์หรือบันทึกเรื่องราวในแต่ละวันลงไปในอินเตอร์เน็ตแทนการเขียนลงบนกระดาษ เราจึงตั้งคำถามกับจอมว่าเธอมองเสน่ห์ของสมุดเขียนมืออยู่ที่ตรงไหน หญิงสาวนิ่งคิดพักหนึ่งและให้คำตอบ
“เราคิดว่าความรู้สึกมันเหมือนเวลาที่มีใครสักคนเขียนโปสการ์ดให้เรากับมีคนส่งไลน์หรือข้อความหาเราทางโทรศัพท์ มันให้ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนแตกต่างกันมาก อย่างเช่นเราเขียนในทวิตเตอร์ว่า ‘รู้สึกเหนื่อยมาก อยากร้องไห้’ แล้วก็กดอัพ กับการที่เรามาเจอสิ่งที่เราเขียนไว้ในสมุดเมื่อปีก่อนว่า ‘รู้สึกเหนื่อยมาก อยากร้องไห้’ เรารู้สึกว่าอิมแพคมันต่างกันมาก คือฉันทุกข์มากขนาดที่ ฉันต้องเขียนให้มันเป็นส่วนตัว ฉันต้องเขียนเพราะฉันทนไม่ไหวแล้ว”
“เรารู้สึกว่าการเขียนมันคือการที่เราต้องพูดคุยกับตัวเองนานขึ้น คิดเพื่อที่จะกลั่นกรองความรู้สึกและเรียบเรียงเป็นคำออกไป ความละเอียดของความรู้สึกมันก็ต่างกัน มันเลยเป็นเสน่ห์ที่ไม่มีวันหายไป ถ้าในอนาคตเราทำธุรกิจเราก็คงอยากทำอะไรที่เกี่ยวกับการเขียนการจดบันทึกต่อไปแบบนี้” จอมปิดท้ายให้เราฟังทั้งรอยยิ้ม
ตามไปชมสมุดทำมือจากจอมและติดตามหน้าปกสมุดดีไซน์ใหม่ๆได้ที่ Instagram: moonlit.sailor