ก่อนจะถึงเวลานัดสัมภาษณ์ในวันนี้ เราใช้เวลาไปกับการนั่งดูภาพบน Instagram ของ Monsty Planet และครุ่นคิด
ใครสักคนเคยกล่าวคำคมๆเอาไว้ว่า หากอยากจะรู้ว่าศิลปินหรือนักเขียนสักคนเป็นอย่างไร ให้ลองดูที่ผลงานที่เขาสรรค์สร้างขึ้น อย่างน้อยที่สุด เราก็อาจได้เห็นเศษเสี้ยวหรือชิ้นส่วนอะไรบางอย่างของศิลปินจากผลงานนั้นๆ
เพราะประโยคนี้เอง งานภาพประกอบลายเส้นและสีสันสดใส ถ่ายทอดบรรยากาศของร้านกาแฟแสนอบอุ่นและเป็นเอกลักษณ์ที่มักปรากฏตามหน้านิตยสารบ่อยๆ เธอ รวมถึงผลงานหนังสือรวมภาพประกอบในชื่อ 22 ปีแห่งความหวาน (I’m fine / Cafe / And You) ที่เคยผ่านตามาบ้าง จึงทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าตัวจริงของเธอจะเป็นคนแบบไหน
บ่ายแก่ของวันพฤหัสบดี นัท-ณัชณิชา แก้วมังกร เจ้าของลายเส้นที่เราคุ้นกันในชื่อ Monsty Planet ปรากฏตัวในชุดกระโปรงสีขาวกับหมวกเบเร่ต์สีแดงเลือดหมูพร้อมรอยยิ้มที่ติดจะเขินอาย เธอสั่งชากุหลาบและนั่งลงพูดคุยกับเราถึงการทำงานภาพประกอบและนิทรรศการ Unknown Asian Art Exchange Osaka 2018 ที่ประเทศญี่ปุ่นที่จะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนนี้ ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในศิลปินไทยหลายๆคนที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมแสดงผลงาน
เริ่มวาดรูปตั้งแต่เมื่อไหร่
เราเริ่มวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก จำความได้ก็วาดรูปมาตลอด ตอนเด็กๆ ด้วยความที่มันไม่มีโซเชียลมีเดีย ไม่มีเฟสบุ๊คอะไร คุณยายก็จะหาสีกล่องหนึ่งมาให้พร้อมกับกระดาษ ให้เราวาดรูปเล่น แค่นั้นก็อยู่ได้ทั้งวัน
ไม่เบื่อหรอ
ไม่เบื่อเลยค่ะ
แล้วอะไรคือแรงบันดาลใจแรกที่ทำให้อยากเอาจริงเอาจังกับการวาดภาพประกอบ
เราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการวาดรูปมันจะเป็นอาชีพได้ ส่วนหนึ่งอาจเพราะเราเองก็ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่แรก แต่เรารู้สึกว่าคนเราสามารถพัฒนาขึ้นได้ เพื่อให้เป็นงานของเราในแบบที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แค่คุณต้องสม่ำเสมอในการฝึกฝน
จนสมัยเรียน ได้เห็นรุ่นพี่คนหนึ่งคือพี่ซันเต๋อ ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง รวมทั้งมีงาน Commercial แบบเป็นชิ้นเป็นอันต่อเนื่อง ทำให้เกิดความรู้สึกว่าจริงๆแล้ว การวาดรูปมันเป็นอาชีพได้นะ เราสามารถทำสิ่งที่เรารักและมันก็สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้เราได้พร้อมๆกัน
ที่บ้านว่ายังไงบ้าง
แรกๆที่บ้านก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่ามันจะเป็นอาชีพได้ (หัวเราะ) ด้วยธรรมชาติที่บ้านของเราทุกคนเป็นข้าราชการมาตลอด เพราะฉะนั้นเขาก็จะมีความไม่เข้าใจว่า อาชีพฟรีแลนซ์คืออะไร นักวาดรูปมันเป็นการทำงานที่มั่นคงแค่ไหน
แต่เอาเข้าจริงๆ เราว่าทุกอาชีพมีความเสี่ยงทั้งนั้นนะ มันไม่มีอะไรมั่นคงหรอก สิ่งสำคัญคือการที่เราต้องหาความเป็นตัวเราออกมาให้ได้มากกว่า ที่จะทำให้เราสามารถสร้างงานที่โดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่น
สิ่งสำคัญในการทำงาน
สิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับเราคือการรู้จักตัวเองและถ่ายทอดมันออกมาให้ได้ อย่างเราคลุกคลีอยู่กับคาเฟ่ อาหาร ทำให้เรามาค้นพบว่าจริงๆแล้วเราชอบวาดเกี่ยวกับคาเฟ่และอาหารนะ ทำแล้วรู้สึกอิน มีความสุข
หลังจากนั้นก็ฝึกฝนจนเราเชี่ยวชาญจริงๆ มันคือการพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆในทางที่เราถนัด นอกจากภาพประกอบแนวของกินและคาเฟ่ เรามีช็อปออนไลน์ร่วมกับพาร์ทเนอร์อีกคน จะเป็นสินค้าจากคาแรคเตอร์ที่เราออกแบบขึ้นและนำมาต่อยอดเป็นกิฟต์ชอปต่างๆ เช่น เข็มกลัด หรือโปสการ์ด ซึ่งก็จะมีทั้งขายคนไทย และส่งไปขายที่สิงค์โปร์และไต้หวันด้วย
พูดถึงงาน Unknown Asian Art Exchange Osaka 2018 ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 15-16 กันยายนนี้ให้เราฟังหน่อย
งานนี้เป็นงานที่รวบรวมศิลปินภาพประกอบและภาพถ่ายในเอเชีย อย่างญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย ไต้หวัน จีน มาเก๊า ที่อาจจะมีความสามารถ หรือผลงานน่าสนใจ แต่สปอร์ตไลท์ส่องไปไม่ถึง มาเพื่อจัดแสดงผลงาน
โดยในงานก็จะมีทั้งเอเจ้นท์และแกลลอรี่จากหลายๆประเทศมาดูงานเพื่อนำงานของเราไปต่อยอด เป็นการเปิดประสบการณ์ เปิดรับโอกาสใหม่ๆให้กับตัวศิลปินเอง และเป็นพื้นที่ในการพบปะของคนที่ทำงานด้านนี้ด้วย ซึ่งในงานนี้เราเป็นหนึ่งในสิบห้าศิลปินไทยที่จะไปจัดแสดงผลงานค่ะ
งานที่เราเลือกไปจัดแสดง
จะเป็นงานแพคเกจจิ้งและคาเฟ่แบบที่เราถนัด ซึ่งเทียบกับงานศิลปินไทยคนอื่นๆที่ไปโชว์ในงานครั้งนี้ ของคนอื่นจะเป็นงานภาพถ่าย หรือไม่ก็เป็นงานศิลปะ จิตรกรรมที่มีความคอนเซปชวลสักหน่อย เราก็ โอ้โห งานทุกคนอลังการมาก คิดว่างานของเราง่ายที่สุดเลย (หัวเราะ) แต่มองอีกมุมเราก็คิดว่ามันคือจุดเด่นของเรานะ ที่ทำให้คนที่มาดูเข้าใจได้ง่าย สื่อสารตรงไปตรงมา ไม่ต้องคิดอะไรมาก
คิดว่านัทในวันนี้กับนัทในอดีตเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน
เปลี่ยนไปมากเลย อย่างนึงคือการทำงานกับคนต่างประเทศ แต่ก่อนเรากลัวมาก รู้สึกว่าคนที่ดีลงานกับต่างชาติจะต้องเก่งภาษาแน่นอน กลัวคุยไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ) แต่ในความเป็นจริงคืออีกฝ่ายก็พยายามจะทำความเข้าใจและพยายามสนทนากับเราเหมือนกัน เพราะฉะนั้นมันไม่เป็นไรเลย มันเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและสามารถปรับ เรียนรู้ให้ดีขึ้นได้ ขอแค่เรากล้าจะพูด กล้าที่จะสื่อสารออกไป สิ่งที่ประทับใจมากในการทำงานกับคนต่างชาติคือเขา respect งานเรามาก เขาชอบเราและให้เกียรติเราในฐานะที่เราเป็นศิลปินจริงๆ มากกว่าการแค่มองว่าเป็นคนที่วาดรูปได้ วาดรูปเป็น
ช่วงเวลาไหนที่ชอบที่สุดในการทำงาน
ถ้าสังเกตลายเส้นของเรา จะเห็นว่าเส้นเราจะสั่นนิดๆ เป็นเพราะเวลาที่เราวาดรูป เราจะร้องเพลงไปด้วย (หัวเราะ) เวลาที่วาดคาเฟ่เราชอบการจำลองความรู้สึกของเราในสถานที่ตอนนั้นเข้าไปอยู่ในภาพทั้งความรู้สึกอบอุ่น หรือมีความสุข และถ่ายทอดออกมาไม่ว่าจะเป็นด้วยการใช้สี หรือแสงเงา ทำให้ภาพมีความรู้สึกในโมเม้นต์นั้นๆอยู่
ติดตามผลงานจาก MonstyPlanet ทางเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม: monstyplanet