Mido เผยเสน่ห์ความโก้หรูเหนือกาลเวลาด้วยนาฬิกาสไตล์วินเทจ ผ่านคอลเลกชันเรือนเวลาใหม่ประจำปี 2023 อย่าง Multifort Powerwind
Mido (มิโด) แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเครือเดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) เผยเสน่ห์ความโก้หรูเหนือกาลเวลาด้วยนาฬิกาสไตล์วินเทจ ผ่านคอลเลกชันเรือนเวลาใหม่ประจำปี 2023 อย่าง Multifort Powerwind (มัลติฟอร์ด พาวเวอร์ไวด์) โดยได้หยิบยกเอานาฬิกาหรูสไตล์คลาสสิกจากยุคปี 1950s มาเสริมดีไซน์ที่สดใหม่ยิ่งขึ้นให้เป็นเรือนเวลาร่วมสมัยที่คนรุ่นใหม่สามารถหยิบมามิกซ์แอนด์แมทช์กับสไตล์การแต่งตัวในทุกโอกาส
Mido แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ Georges Schaeren (จอร์จ แชแรน) เริ่มก่อตั้งบริษัท Mido G.Schaeren & Co.Ag (มิโด้ จี แชแรน แอนด์ โค เอจี) ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ปี 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน
คอลเลกชันเรือนเวลา Multifort Powerwind ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1954 เป็นอีกหนึ่งคอลเลกชันเรือนเวลาที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Mido จากการบรรจุด้วยกลไกขึ้นลาน Powerwind ที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลไกแห่งการปฏิวัติวงการนาฬิกาก็ว่าได้ จนกระทั่งในปี 2022 ที่ผ่านมา Mido ได้ปลุกเรือนเวลาแห่งตำนานเรือนนี้ขึ้นมาอีกครั้งโดยผลิตขึ้นเป็นเรือนเวลาคอลเลกชันพิเศษ Multiford Powerwind Limited Edition (มัลติฟอร์ด พาวเวอร์ไวด์ ลิมิเต็ด เอดิชัน) จำนวนเพียง 1,954 เรือน และจากกระแสตอบรับอันดีเยี่ยม ทำให้ปีนี้ Mido ได้นำเอาเรือนเวลา Multiford Powerwind มาผลิตในรุ่นมาตรฐานเพื่อให้คนรักนาฬิกาได้มีโอกาสสวมใส่นาฬิการุ่นนี้กันมากยิ่งขึ้น
สำหรับเรือนเวลาคอลเลกชัน Multifort Powerwind รุ่นใหม่นี้ ยังคงรักษาคุณลักษณะของการออกแบบที่ได้จากเรือนเวลา Multifort Powerwind รุ่นแรกจากปี 1954 อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ได้มีการเสริมรายละเอียดอันทันสมัยและประสิทธิภาพการทำงานของกลไกที่ดีขึ้นตามเทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วย ปรากฎในตัวเรือนทรงกลม ผลิตจากสเตนเลสสตีล เกรด 316L ขนาด 40.0 มิลลิเมตร หนา 12.1 มิลลิเมตร ได้รับการขัดแต่งพื้นผิวให้เงางาม กันน้ำได้ลึก 50 เมตร โดยนำเสนอมาใน 3 รูปแบบให้เลือก ได้แก่ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลคู่กับพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินซันเรย์ หรือสีดำซันเรย์ และตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบสีทองคู่กับพื้นหน้าปัดสีทองซันเรย์
รายละเอียดบนพื้นหน้าปัดที่เรือนเวลาทุกรุ่นต่างมีเหมือนกันคือ ดีไซน์ของสเกลนาทีรอบขอบหน้าปัดเป็นแบบรางรถไฟ แสดงตัวเลขอารบิกขนาดใหญ่ เฉพาะที่ตำแหน่ง 3, 9 และ 12 นาฬิกา ส่วนหลักชั่วโมงตำแหน่งอื่นๆ แทนไว้ด้วยมาร์กเกอร์ทรงสามเหลี่ยมที่เคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova (ซุปเปอร์ลูมิโนวา) รวมถึงเข็มชั่วโมงและนาทีทรง Alpha (อัลฟา) จัดวางโลโก Mido ในสไตล์คลาสสิกใต้ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และแสดงหน้าต่างวันที่เหนือตำแหน่ง 6 นาฬิกา
ในส่วนของกลไกภายในเรือนเวลา Multifort Powerwind รุ่นใหม่ทุกรุ่น ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ Cal. 80 อันมาจากกลไกพื้นฐานคือ Cal. ETA C07.621 มาพร้อมบาลานซ์สปริงที่ผลิตจาก Nivachron™ (นิวาครอง) อันมีคุณสมบัติในการต้านทานสนามแม่เหล็กและป้องกันกลไกจากการกระแทกได้ดี ทำให้กลไกสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเที่ยงตรงแม่นยำ ทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 80 ชั่วโมง กลไกเครื่องนี้ได้ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงระดับ Chronometer จากสถาบัน COSC เรียบร้อยแล้ว
เรือนเวลา Multifort Powerwind รุ่นใหม่นี้เข้ากันอย่างลงตัวกับสายสร้อยข้อมือแบบ 3 ข้อสาย โดยมีสายสเตนเลสสตีลเงินสำหรับรุ่นพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินและสีดำ และสายสเตนเลสสตีลเคลือบทองสำหรับรุ่นตัวเรือนสตีลสีทอง ทั้งนี้ยังสามารถทอดเปลี่ยนสายได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือด้วยระบบ Quick Release (ควิก รีลิส)
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF MIDO
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon