MGC-ASIA ก้าวสู่ปีที่ 25 ผู้นำ lifestyle mobility ครบวงจร พัฒนาธุรกิจเชิงรุกเพื่อความยั่งยืน

บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA ก้าวสู่ปีที่ 25 เดินหน้าตอกย้ำการเป็นผู้นำ ผู้นำ lifestyle mobility ครบวงจร อันดับ 1 ของประเทศ เตรียมพัฒนาธุรกิจเชิงรุกเพื่อความยั่งยืนในการวางแผน 3 ปี (2568-2570) เร่งขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจ สู่การพัฒนาแพลตฟอร์มตอบโจทย์ลูกค้า พัฒนาบุคลากรพัฒนาเทคโนโลยีและดิจิทัล เพื่อมุ่งสู่กลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้าน ‘ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ’ เดินเกมรุกลุยธุรกิจ EV – Alpha X – Howden Maxi สร้างรายได้เพิ่มในอนาคต

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ปี 2568 MGC-ASIA ก้าวสู่ปีที่ 25 ของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งขององค์กรและความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในการเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจร
โดยในปีนี้ บริษัทฯ วางกลยุทธ์การขับเคลื่อนทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโต 4 กลุ่มธุรกิจสู่ความยั่งยืน ผ่าน 3Ps ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักสู่ความสำเร็จ ได้แก่
People : มุ่งพัฒนาบุคลากร มีทัศนคติมุ่งเน้นการให้บริการ และส่งเสริมศักยภาพองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
Process : พัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูง สร้างมาตรฐานการดำเนินงานที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ ประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร
Profit : ขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมุ่งสร้างผลกำไรให้บริษัทฯ ผ่านการจำหน่ายยานยนต์ รวมถึงบริการต่างๆ แบบครบวงจร ผสานกับบริการหลังการขาย รวมถึงศูนย์ซ่อมสีตัวถังและบริการดูแลรถยนต์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่รถเช่า มีแผนนำเทคโนโลยีทันสมัย มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับฟลีตรถเช่า ทั้งระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงเพิ่มจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าในฟลีตรถเช่าระยะยาว รองรับการเติบโตของลูกค้าองค์กร นำไปสู่การสร้างผลกำไรสูงสุด ท่ามกลางระบบนิเวศทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ”


นอกจากนี้ วางยุทธศาสตร์การเติบโต ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. Strategic Growth Objectives : มุ่งเน้นขับเคลื่อนการเติบโตผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ ควบคู่กับแผนการขยายธุรกิจสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการสร้างความน่าเชื่อถือและรักษาการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความประทับใจกับกลุ่มลูกค้าในทุกครั้งที่ใช้บริการ
2. Business Ecosystem Segments : สร้างแบรนด์ร่วม (Co-Branding) สู่การพัฒนา เทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มขีดความสามารถของธุรกิและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงแผนการขยายความร่วมมือกับพันธมิตร ร่วมกับ XPENG และ ZEEKR ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน เพื่อขยายตลาดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า
3. Sustainability and Innovation : เป็นผู้นำธุรกิจยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ต่อยอดสู่พลังงานหมุนเวียน
ในปีนี้ ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มความได้เปรียบสูงให้ธุรกิจในกลุ่มการเงิน ประกันภัยและยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อน MGC-ASIA


สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนในอนาคต สอดรับกับกลยุทธ์การขับเคลื่อนใน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) : รักษาส่วนแบ่งตลาดรถพรีเมียม เพื่อครองอันดับ 1 โดยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และพัฒนา MGC-Mobilife แพลตฟอร์ม loyalty program ที่มอบสิทธิประโยชน์เหนือระดับ และปรับแต่งให้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
2. กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขาย (Aftersales Service) : เตรียมขยายสาขา MMS Car Service & Tire ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร (One-Stop Service) เพิ่มอีก 6 สาขา จากเดิม 22 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อขยายการให้บริการซ่อมสีและตัวถังยานยนต์ไฟฟ้า Tesla Approved Body Shop (TAB) และเพิ่มบริการให้ครอบคลุมในหลากหลายพื้นที่
3. กลุ่มธุรกิจให้บริการรถเช่าและพนักงานขับ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว (Car Rental and Driver Services) ดำเนินธุรกิจครอบคลุมการเดินทางให้ครบวงจรทุกมิติ และปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์การให้บริการตามการเติบโตของการท่องเที่ยว
4. กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) : สำหรับธุรกิจบริการทางการเงินอย่างครบวงจร บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ซึ่ง MGC-ASIA ร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มุ่งเน้นการเติบโตจากการให้สินเชื่อ Wealth Lending ในอัตราที่เพิ่มขึ้น ปรับปรุงกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) นำเสนอการแก้ปัญหาในการชำระหนี้ที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า เพื่อสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (Howden Maxi) ผู้ให้บริการธุรกิจบริการประกันภัย ชั้นแนวหน้า จะเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการ รักษาการเป็นโบรกเกอร์ระดับชั้นนำ

สำหรับเป้าพันธกิจ 3 ปี (2568-2570) ของ MGC-ASIA ที่จะนำพาบริษัทฯ สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ผ่านธุรกิจ AI- Powered Solutions รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร จากการทำ ESG อย่างเป็นระบบ มุ่งมั่นที่จะต่อยอดความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าสร้างประสบการณ์พิเศษแบบเฉพาะตัว ผ่านการบริการที่โดดเด่นและเหนือระดับ นำไปสู่ความพึงพอใจ ภายใต้วิสัยทัศน์ ที่ต้องการเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจร ภายใต้ระบบนิเวศทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะแบรนด์ XPENG จำนวน 12 แห่งทั่วประเทศ และ ZEEKR by Z Mobility Plus อีก 2 สาขา คือ ศรีนครินทร์ และวิภาวดี ซึ่งธุรกิจบริการหลังการขาย รวมถึงศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง Tesla Approved Body Shop (TAB) ที่ได้รับความไว้วางใจจาก TESLA ให้เป็นผู้บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า และได้รับความไว้วางใจจากคอนติเทนทอล ไทรส์ ผู้ผลิตยางรถยนต์ระดับโลก ในการร่วมมือกันทำโครงการที่เอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้า ตอบแทนสังคมอย่างยั่งยืน อีกทั้งมีการขยายธุรกิจสู่เวียดนาม ที่เราได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU กับ City Auto Group ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ เพื่อศึกษาโอกาสธุรกิจร่วมกัน ทั้งบริการ รถใหม่ รถมือสอง รถเช่า บริการทางการเงินและประกันภัย เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจ และสร้างการเติบโตร่วมกันในไทยและเวียดนาม
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF MGC-ASIA
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่