เหมือนว่านาฬิกาสีเขียวจะยังคงเป็นความโดดเด่นของปีนี้ และ MB&F ก็ได้ส่งผลงานรุ่นล่าสุดจากตระกูล LM Perpetual มาด้วยลุคสีเขียวใหม่เช่นกัน กับรุ่น LM Perpetual EVO Titanium
MB&F: Perpetual Evo Titanium Edition เปิดตัวเมื่อราวหนึ่งปีที่ผ่านมากับการติดตั้งด้วยจักรกลวิวัฒนาการใหม่ไว้ภายในนาฬิกาตระกูลอันโด่งดังอย่าง Legacy Machine Perpetual ในผลงานรุ่น LM Perpetual “EVO” ของ MB&F (เอ็มบีแอนด์เอฟ) แบรนด์นาฬิกาอิสระโดยการสร้างสรรค์ของ Maximilian Büsser และเหล่า Friends ผู้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานเรือนเวลาเหนือจินตนาการ ซึ่งในบรรดาผลงานชั้นยอดที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น นอกเหนือจากตระกูลบุกเบิกของแบรนด์อย่าง Horological Machine หรือ HM แล้ว ก็ยังต้องนับรวมไปถึง Legacy Machine หรือ LM ที่เป็นอีกหนึ่งคอลเลกชั่นหลักซึ่งกำลังเติบโตและขยายครอบครัวมาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
และล่าสุดนั้น MB&F ยังได้เปิดตัวสมาชิกใหม่ของ LM Perpetual “EVO” กับชื่อต่อท้ายที่ขยายความถึงวิวัฒนาการก้าวใหม่ๆ แห่งเรื่องราวการสร้างสรรค์ของแบรนด์นั่นเอง โดยในรุ่นล่าสุดของ LM Perpetual EVO Titanium นี้ยังเป็นการเปิดตัวมาพร้อมคุณสมบัติอันโดดเด่นของทั้งตัวเรือนไทเทเนียม เกรด 5 ผ่านการออกแบบขึ้นใหม่ให้มีความเพรียวขึ้น รวมถึงปุ่มกดแบบ double-sprung ที่มีรูปทรงรับกับไปกับสรีระข้อมือ บนหน้าปัดแบบสเกเลตันตกแต่งด้วยเฉดสีเขียวและบรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova ติดตั้งระบบรองรับแรงกระแทก ‘FlexRing’ ที่พัฒนาขึ้นพิเศษ พร้อมด้วยเม็ดมะยมหมุนเกลียวล็อกเพื่อมอบประสิทธิภาพของการกันน้ำลึกระดับ 80 เมตรได้เป็นครั้งแรกสำหรับผลงานของ MB&F ขณะที่จับคู่มากับสายยางแบบผสาน ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนี้ให้ผลลัพธ์เป็นความแข็งแกร่งทนทานสูงและยังสวมใส่บนข้อมือได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย
ก่อนหน้านี้ LM Perpetual EVO ยังประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้วจากการเปิดตัวเอดิชั่นต่างๆ ของรุ่นตัวเรือนเซอร์โคเนียม ที่หลังเปิดตัวได้เพียงไม่นานทั้งสามเวอร์ชั่นสีของหน้าปัดเรือนเวลารุ่นนี้ก็จำหน่ายหมดในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้น ในเวอร์ชั่นตัวเรือนไทเทเนียมใหม่นี้จึงไม่เพียงเข้ามาช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของ LM Perpetual EVO เท่านั้น แต่ยังพร้อมที่จะตอกย้ำและต่อยอดความสำเร็จของเรื่องราวความนิยมในนาฬิการุ่นนี้ได้อย่างดีอีกด้วย โดยนอกจากการเปิดตัวด้วยตัวเรือนไทเทเนียม เกรด 5 ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.0 มิลลิเมตรแล้ว รุ่นใหม่นี้ยังบรรจุด้วยหน้าปัดสเกเลตันตกแต่งด้วยการเคลือบ CVD เฉดสีเขียวที่เรียกได้ว่าสวยโดดเด่นสะดุดตามากเป็นพิเศษ ขณะที่เครื่องจักรกลภายในยังคงเป็นผลงานการออกแบบและพัฒนาขึ้นร่วมกับ Stephen McDonnell ที่มีส่วนผลักดันให้นาฬิกาจักรกลแสดงปฎิทินถาวรหรือ perpetual calendar ของ LM Perpetual ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติและเป็นตัวแทนแห่งนวัตกรรมกลไกจักรกลที่ผสมผสานระหว่างประเพณีและความทันสมัยได้อย่างสมบูรณ์
สิ่งที่ Stephen McDonnell ขบคิดและพัฒนาขึ้นร่วมกับ MB&F คือการนำเสนอให้ใช้ “mechanical processor” สำหรับจักรกลสลับซับซ้อนอย่าง perpetual calendar ซึ่งประกอบขึ้นด้วยซีรีส์ของดิสก์วางซ้อนกันหลายชิ้น กลายเป็นระบบโปรเซสเซอร์ปฏิวัติที่ใช้ค่าจำนวนวันที่ไม่ปกติของเดือนที่มี 28 วัน มาเป็นฐานให้กับทุกๆ เดือนซึ่งต้องมีอย่างน้อย 28 วัน จากนั้นจึงเติมวันเพิ่มเติมของแต่ละเดือนเข้าไป ทำให้มั่นใจได้ว่าในแต่ละเดือนนั้นจะสามารถแสดงด้วยจำนวนวันที่ถูกต้องและขจัดปัญหาของการแสดงวันที่ไม่ถูกต้องซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ออกไป โดยในรุ่นนี้ยังมาพร้อมปุ่มกดสำหรับปรับตั้งปฏิทินได้อย่างรวดเร็วและไร้ความเสี่ยงต่อความเสียหายของกลไกอีกด้วย สำหรับ LM Perpetual EVO รุ่นใหม่ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ ประกอบชิ้นส่วนรวม 581 เม็ด และทับทิม 41 เม็ด ทำงานที่ความถี่ 2.5 เฮิรตซ์ และสำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่นปฏิทินถาวรที่ประกอบด้วยการแสดงวัน วันที่ เดือน และปีอธิกสุรทินแบบเรโทรเกรด รวมถึงแสดงพลังงานสำรองคงเหลือ ควบคู่กับการแสดงเวลาของชั่วโมงและนาที
และแม้ว่าตัวเรือนด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.0 มิลลิเมตร จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจาก LM Perpetual รุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ. 2015 แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนงานออกแบบของตัวเรือนเวอร์ชั่น EVO นี้ขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะโครงสร้างซึ่งไร้ขอบตัวเรือนและการหลอมกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโค้งโดมเข้ากับตัวเรือนโดยตรงด้วยวิธีการทางความร้อน ทำให้สามารถเปิดพื้นที่ของหน้าปัดให้ดูกว้างขึ้น รวมถึงมอบความสามารถในการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่ยังคงรักษาสัดส่วนที่สอดคล้องไปกับโครงสร้างตัวเรือนเพื่อการสวมใส่บนข้อมือได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนการแสดงข้อมูลปฏิทินต่างๆ ของฟังก์ชั่น perpetual calendar นั้นยังมีพื้นที่แสดงที่จัดวางได้อย่างสมดุลกับพื้นที่แบบเปลือยโปร่งซึ่งเปิดโชว์ให้เห็นองค์ประกอบและชิ้นส่วนของเครื่องกลไกจักรกลอันซับซ้อนภายใน โดยคงรักษาเอกลักษณ์ของบาลานซ์วีล (balance wheel) ที่ดูเหมือนกำลังลอยอยู่เหนือหน้าปัดและกลางกระจกโค้งโดมไว้เช่นเดิม
ด้วยเหตุนี้ การคิดคำนวณอย่างถี่ถ้วนระหว่างการจัดวางโครงสร้างและชิ้นส่วนจักรกล ไปจนถึงโครงร่างของกระจกคริสตัลแซฟไฟร์โค้งโดมจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งสำหรับนาฬิการุ่นนี้ เพื่อให้ได้อัตราส่วนที่สมดุลลงตัวระหว่างโครงสร้างและความสวยงามในการแสดงจักรกลอันเป็นหัวใจของนาฬิกา เช่นกันกับการปรับโครงร่างของปุ่มกดสำหรับปรับตั้งปฏิทินที่ก่อนหน้านี้มีรูปทรงกลมมาเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่กว้างขึ้นและเป็นระบบ double-sprung ทำให้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นในการใช้งานการปรับตั้ง
จุดเด่นสำคัญอีกหนึ่งจุดสำหรับเรือนเวลารุ่นใหม่นี้คือการนำเสนอเป็นครั้งแรกในผลงานสร้างสรรค์ของ MB&F ที่ LM Perpetual EVO นี้มีประสิทธิภาพการกันน้ำได้ลึกระดับ 80 เมตร จากการพัฒนาเม็ดมะยมแบบหมุนเกลียวล็อก รวมถึงพัฒนาระบบก้านไขลานใหม่ที่ทำให้สามารถแยกเม็ดมะยมออกจากจักรกลไขลานได้ในขณะที่กดและขันเกลียวเม็ดมะยมลง จึงช่วยขจัดโอกาสที่จะเกิดการไขลานด้วยมือมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบใหม่ของ LM Perpetual EVO อย่าง FlexRing วงแหวนแดมเปอร์ที่ติดตั้งระหว่างตัวเรือนและกลไก จึงมอบการปกป้องจากแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งแดมเปอร์นี้ผลิตขึ้นรูปมาจากแท่งของสเตนเลสสตีลชิ้นเดียวจึงมอบทั้งคุณสมบัติของความทนทานพิเศษให้กับจักรกล perpetual calendar ได้อย่างดีอีกด้วย
นับเป็นอีกหนึ่งผลงานการพลิกโฉมของ LM Perpetual EVO สู่ตัวเรือนไทเทเนียมและหน้าปัดตกแต่งด้วยเฉดสีเขียวใหม่ที่น่าจับตามองของ MB&F ซึ่งแบรนด์ตั้งใจรังสรรค์ขึ้นให้เป็น “Watch for Life” อย่างแท้จริง
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF MB&F
MUSIC: Two Pianos by Stefan Kartenberg (c) copyright 2018 Licensed under a Creative Commons Attribution (3.0) license. http://dig.ccmixter.org/files/JeffSpeed68/57454 Ft: Admiral Bob (admiralbob77)
STOCK FOOTAGE: www.vecteezy.com
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
