รีวิวหลังดูจบแบบไม่สปอยล์ : การกลับมาของละครเพลงระดับตำนานฉบับรีบูทจากวรรณกรรมเด็กสุดคลาสสิค Roald Dahl’s Matilda the Musical
หากการผจญภัยของลูกสาวคนโตจากครอบครัวแอดดัมส์ในซีรีส์ Wednesday ของ Netflix ยังไม่ทำให้คุณจุใจกับชีวิตในโรงเรียนประจำ ครูใหญ่ใจร้ายและความขบถของเด็กสาว จนทำให้คุณอยากจะหาอะไรที่ใกล้เคียงกันชมในช่วงวันหยุดยาว ก็ได้เวลาสนุกกับภาพยนตร์แนวแฟนตาซีเรื่องใหม่ส่งท้ายปี จากวรรณกรรมสุดคลาสสิคของโรอัลด์ ดาห์ล (Roald Dahl) อย่าง Matilda the Musical แล้วล่ะ!
Roald Dahl’s Matilda the Musical เป็นผลงานภาพยนตร์ฉบับรีเมคที่หยิบเอาบรอดเวย์ระดับตำนานที่มีต้นฉบับเป็นวรรณกรรมเยาวชนเปี่ยมอารมณ์ขันขื่นแบบตลกร้ายตามสไตล์ โรอัลด์ ดาห์ล อย่าง Matilda : มาทิลดา นักอ่านสุดวิเศษ (1988) มาสร้างมนต์ขลังบนแผ่นฟิล์มอีกครั้งในรูปแบบละครเพลงมิวสิคัลความยาว 116 นาที
โดยเล่าเรื่องราวของมาทิลดา เวิร์มวูด (Matilda Wormwood) เด็กสาวตัวจิ๋วที่ฉลาดเป็นกรด เธออ่านวรรณกรรมเล่มโตจบสบายๆ 8 เล่มภายใน 1 สัปดาห์ แก้โจทย์เลขสุดโหดได้คล่อง แต่กลับไม่ได้รับการดูแลที่ดีจากพ่อและแม่ จนกระทั่งเธอถูกส่งมาเรียนที่โรงเรียนครันเช็มฮอลล์ การได้พบเพื่อนใหม่ ครูประจำชั้นและป้าบรรณารักษ์ใจดี ก็ทำให้มาทิลดาเกิดความคิดที่จะแก้แค้นพวกผู้ใหญ่ใจร้ายดูบ้าง ด้วยการเลือกเส้นทางชีวิตเป็นของตนเอง
เรื่องราวในมาทิลดาฉบับใหม่ของ Netflix ยังคงได้ แมทธิว วอร์ชัส (Matthew Warchus) ผู้เคยรับหน้าที่ผู้กำกับในฉบับบรอดเวย์ซึ่งคว้ารางวัลโทนี่ (Tony Awards) ถึง 4 สาขา มาสานต่อเรื่องราวในครั้งใหม่นี้ และได้มือเขียนบทคนคุ้นเคยอย่างเดนนิส เคลลี่ (Dennis Kelly) ที่เป็นผู้เขียนบทให้กับต้นฉบับบรอดเวย์ มาสานต่อเรื่องราวในฉบับปรับปรุงใหม่นี้ โดยอ้างอิงมาจากบทละครเดิมและวรรณกรรมต้นฉบับ
โดยแมทธิวเผยว่า ‘มาทิลดาในเวอร์ชันนี้ เป็นการนำบรอดเวย์มิวสิคัลเดิมมาปรับโฉม เพิ่มความแปลกใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งสอดแทรกพลังเหนือจินตนาการที่เติมความแฟนตาซีให้กับเรื่องราว เพื่อให้แฟนๆ รุ่นเยาว์ทั่วโลกได้สัมผัสกับเรื่องราวสุดคลาสสิคที่เคยครองใจผู้ชมทั่วโลกมาแล้วในอดีต’
จึงไม่น่าประหลาดใจเลยที่การต่อยอดเรื่องราวจากบรอดเวย์ระดับตำนานสู่แผ่นฟิล์มในครั้งนี้ จึงเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา และชวนให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินกับเพลงด้วยฉากร้องเล่นเต้นรำกันแบบจัดเต็ม ด้วยการกำกับการแสดงที่ประณีตและเอาใจใส่ ทำให้ฉากร้องเต้นมีความอลังการพอตัว โดยไม่ลืมจะสอดแทรกปมดราม่า ฉากตลกเปี่ยมอารมณ์ขันตามวรรณกรรมต้นฉบับ และชวนให้ผู้ชมในวัยผู้ใหญ่ ร่วมขบคิดเกี่ยวกับความเยาว์วัย ไร้เดียงสาและความต้องการที่แท้จริงซึ่งเด็กต้องการ ด้วยแก่นเรื่องและประเด็นสำคัญที่ยังคงถูกรักษาเอาไว้อย่างครบถ้วน
เพราะหากใครพอจะรู้จักอัตชีวประวัติของตัวผู้เขียนอย่างโรอัลด์ ดาห์ล คงทราบกันว่าเขาเองก็มีชีวิตวัยเด็กที่ขมขื่นราวกับตลกร้ายที่ตัวเขามักแทรกไว้ในงานเขียน เพราะหลังจากสูญเสียพ่อไปตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 4 ปี แม่ก็แต่งงานอีกครั้งและย้ายบ้านไปอยู่ที่เมืองของสามีใหม่ ก่อนจะส่งโรอัลด์ ดาห์ลให้เข้าเรียนโรงเรียนประจำที่เต็มไปด้วยกฏระเบียบและผู้ใหญ่ที่ไร้เหตุผล
แก่นแท้ที่เขาซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้เรื่องราวสดใสของนิทานเด็กซึ่งมีวัตถุดิบในการเขียนมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเขาเอง จึงเป็นเสมือนข้อความที่เขาต้องการส่งต่อไปยังเหล่าผู้ใหญ่ด้วยกันรวมทั้งตัวเขาเอง เพื่อเตือนให้เราไม่เผลอเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่แบบที่เราเกลียดชังในวัยเยาว์ และในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะผลักดันให้เด็กๆ ยึดมั่นในความดี เป็นคนซื่อสัตย์ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน รักการอ่าน และปลูกฝังให้แฟนๆ รุ่นเยาว์เชื่อว่าแม้เราจะเป็นเด็กที่ไม่มีอำนาจอะไร แต่ก็สามารถทำสิ่งยิ่งใหญ่ หรือมีชีวิตที่ดีขึ้นได้เช่นกันหากเติบโตโดยแวดล้อมด้วยผู้คนที่ดี
นอกจากงานกำกับการแสดงและบทภาพยนตร์ที่ถูกสร้างสรรค์มาอย่างดี ผลงานการกำกับศิลป์ในเรื่องก็เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแฟนตาซีที่น่าประทับใจ ดูลึกลับแต่ก็ไม่ดาร์คจนเกินขอบเขตของหนังเด็ก ทั้งฉากห้องกล้องวงจรปิดของครูใหญ่ทรันช์บูลที่เต็มไปด้วยจอโทรทัศน์เล็กๆ มากมายซึ่งใช้จับตาดูพฤติกรรมเด็กในโรงเรียน ตู้ขังยืนสุดโหดที่ออกแบบมาเพื่อกำราบเด็กดื้อที่ไม่เชื่อฟัง และนิทานสุดเร้าใจของนักหลบหนีและโชว์กายกรรมสุดตื่นตา ต่างก็สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างน่าสนใจ
โดยได้นักแสดงสาวมากประสบการณ์อย่างเอ็มมา ทอมป์สัน (Emma Thompson) ในบทบาทครูทรันช์บูล (Trunchbull) ครูใหญ่ใจร้ายประจำโรงเรียนครันเช็มฮอลล์ ซึ่งก็นับเป็นการพลิกบทบาทอีกครั้ง เพราะความร้ายกาจของครูครันช์บูลนี้เป็นอีกหนึ่งสีสันที่แตกต่างจากบทร้ายกาจหยิ่งยโสของเจ้าแม่แฟชั่น บารอนเนส ฟอน เฮลแมนจาก Cruella (2020) และมีความเป็นครูเจ้าระเบียบจิตใจคับแคบ ต่างจากบทบาท ศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ อาจารย์สอนวิชาพยากรณ์ศาสตร์ในภาพยนตร์ชุดระดับตำนานอย่าง Harry Potter (ค.ศ. 2001-2011)
และยังได้ลาชานา ลินช์ (Lashana Lynch) มารับบทครูฮันนี่ (Miss Honey) ครูประจำชั้นผู้อ่อนโยนที่มักจะรับฟังเรื่องราวต่างๆ และช่วยผลักดันให้มาทิลดามีความกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ ซึ่งแม้บทบาทของเธอจะเป็นตัวละครที่ไม่ได้มีมิติทางอารมณ์ที่ซับซ้อนนัก แต่ลาชานาก็ถ่ายทอดบทบาทนี้ รวมถึงการร้องเพลงในพาร์ทที่เป็นมิวสิคัลออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
เช่นเดียวกันกับนักแสดงเด็กหน้าใหม่อย่างอลิชา เวียร์ (Alisha Weir) ที่มารับบทมาทิลดาซึ่งเป็นตัวละครหลักที่ต้องแบกเส้นเรื่องทั้งหมดเอาไว้ แม้ว่าเธอจะอายุเพียง 13 ปีเท่านั้นแต่ทักษะการแสดงรวมทั้งการขับร้องของเธอก็เต็มไปด้วยความโดดเด่น เข้าถึงอารมณ์ และชวนให้ผู้ชมรู้สึกเอ็นดูและเอาใจช่วยให้มาทิลดาผ่านเรื่องราวร้ายๆ ที่เธอเจอไปให้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง
เอาเป็นว่าใครที่ติดใจซีรีส์แฟนตาซี ยังไม่จุใจกับการชมเรื่องราวแนวโรงเรียนเวทย์มนตร์ Dark Academia Vibes ของซีรีส์ Wednesday (2022) และอยากจะลองมองหาอะไรที่ไม่ดาร์คจนเกินไป สดใสกว่า เบาสมองกว่า ภาพยนตร์มิวสิคัลจากบทประพันธ์สุดอมตะของโรอัลด์ ดาห์ลเรื่องนี้ก็น่าจะตอบโจทย์และสร้างความประทับใจให้กับทั้งครอบครัวในช่วงสุดสัปดาห์ส่งท้ายปีได้ดีเลยทีเดียว
CREDIT:
PHOTOS: COURTESY OF NETFLIX
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co
- IU ประกาศเลิกร้องเพลงซิกเนเจอร์ Good Day และ Palette ต่อหน้าผู้ชม 44,000 คนในคอนเสิร์ต IU The Golden Hour 2022 : under the orange sun คอนเสิร์ตฉลองครบรอบเดบิวต์ 14 ปี
- Pink Venom แผลงฤทธิ์! Blackpink คัมแบ็กสุดปัง ทุบสถิติ 100 ล้านวิวภายในเวลาเพียง 30 ชั่วโมง นำเสนอมิวสิควีดีโอ Pink Venom พรี-ซิงเกิ้ลสุดร้อนแรงจากอัลบัม BORN PINK และการกลับคืนบัลลังก์อีกครั้งของราชินีผู้พาวงการ K-POP ไปสู่ระดับโลก
- ลองฟัง: NIRUN (นิรันดร์) ผลงานใหม่จาก Txrbo และการร่วมงานกับ BAY6IX และ LALA สองศิลปินจากสปป.ลาวในโปรเจค ASEAN SOUND โปรเจกต์เชื่อมสัมพันธ์วงการเพลงไทยไปสู่ตลาดเพลงโลก ของค่ายเพลง High Cloud Entertainment
- เปิดสองเรื่องเล่าจากถ้ำหลวงใน Thirteen Lives : สิบสามชีวิต และ Thai Cave Rescue ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง 2 ผลงานใหม่บนสตรีมมิ่งเจ้ายักษ์ Netflix และ Disney+ Hotstar ที่สร้างจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ภารกิจกู้ชีพนักกีฬาและโค้ชรวม 13 ชีวิตจากทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ในปีค.ศ. 2018
- Squid Game กวาด 6 รางวัลจาก Emmy Awards อีจองแจ คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เตรียมโกอินเตอร์ร่วมงาน Lucus Film ผู้กำกับเผย อยากชวนลีโอนาโด ดิคาปริโอมาร่วมแสดงรับเชิญในภาค 3 ที่กำลังอยู่ระหว่างการเขียนบท