มุกดาหาร Bike Tour ในแบบของ มานิตย์ เดชสุภา ช่างภาพมืออาชีพ ผู้ชอบขี่จักรยานท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และเพื่อเล่าเรื่อง
Bike Tour ไม่รู้ความเป็นมาเป็นไปเท่าใดนัก สำหรับเมืองนี้ได้มาครั้งแรก ก็ชอบสิครับ (เมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงตรงข้ามแขวงสะหวันนะเขต ของ สปป. ลาว เคยมีนักธุรกิจท้องถิ่นบอกว่า มุกดาหาร ฮวงจุ้ย ดี เปรียบเสมือนท้องมังกร สืบเนื่องจากเป็นช่วงโค้งของแม่น้ำโขง ถึงมีความเชื่อเรื่องพญานาค) นอกจากติดกับ สปป. ลาว แล้ว ยังเป็นเส้นทางที่สามารถไปยังเมืองดาลัต ประเทศเวียดนามได้อีกด้วย มุกดาหาร เป็นจังหวัดที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติของแม่น้ำโขงอันงดงาม เหมาะกับการปั่นจักรยานชมเมือง
ในเมืองถนนหนทางมีเนินสูงๆ ต่ำๆ คนชอบปั่นจักรยานแบบเราก็สนุกสิครับ เวลาออกไปซื้อของจากร้านค้าส่งแห่งหนึ่ง ขากลับมันจะไหลดิ่งลงมาอย่างเร็ว ก็เลยปั่นส่งด้วยเกียร์หนัก พอเลี้ยวหักศอกเข้าซอยทางเข้าบ้าน มันก็ชันอีกแล้ว เปลี่ยนเกียร์ที่ยังหนักอยู่ไม่เคยทัน ก็คาเนินอยู่อย่างนั้นสิครับ นี่ไงเสน่ห์แห่งการปั่นจักรยานในเมืองนี้ เป็นการออกกำลังกาย ได้เหงื่อดี
#วัดภูมโนรมย์
สถานที่ปั่นจักรยานสำหรับการซ้อมก็มีหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะผ่านทุ่งนาอากาศสดชื่นใสใส หรือซ้อมขาปั่นขึ้นเนินภูมโนรมย์ ชมพระใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ และพญานาค ที่ทางวัดสร้างขึ้นมาให้เยี่ยมชม ซึ่งตั้งบนภูสูงระดับน้ำทะเล 366 เมตร ด้วยความชัน 8% ระยะทาง 1,100 เมตร สั้นๆ แต่ถ้าไม่ใช่เจ้าถิ่นก็สำเร็จยาก เหนื่อยแฮ่ก
วัดภูมโนรมย์ หรือ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ตั้งห่างจากตัวเมือง 5 กิโลเมตร เสมือนเป็นจุดเยี่ยมชมสำคัญของมุกดาหารเลยก็ว่าได้ นอกจากจะมีรอยพระพุทธบาทแล้ว ยังมีพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ให้สักการะ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ความสูงจากฐาน ถึงยอดเศียร 84 เมตร เป็นพระพุทธรูปเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 องค์ใหญ่สีขาว อยู่บนยอดเขา ด้านบนเป็นจุดชมวิวเมืองมุกดาหาร แม่น้ำโขง รวมถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 พร้อมรูปปั้น พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช รูปปั้นพญานาคองค์ใหญ่สีน้ำเงิน ลำตัวยาวม้วนเกลียวพัน 122 เมตร ลำคอสูง 20 เมตร เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2561 นี้เอง นับเป็นพญานาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตามตำนานเก่าแก่เล่าว่า มีชาวบ้านเห็นงู ลำตัวสีดำ ยาว 10 เมตร เมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ จะเห็นเกล็ดเป็นประกายระยิบระยับ ชูคอดูชาวบ้านทำงาน แล้วจะหลบเลื้อยหายไป เข้าไปในบ่อน้ำทิพย์ ภายหลังได้มาขอบวช แต่เป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่สามารถบวชเรียนได้ หลวงตาจึงมอบบาตรและผ้าไตรจีวร บวชเพียงสามเณร จากนั้นพญานาคก็บำเพ็ญสมณะธรรม เราสามารถเข้าไปขอพรได้ โดยไม่เสียค่าเข้าชม
ตอนเย็นๆ มีทั้งคนปั่นจักรยาน คนเดิน ออกกำลังกันประปรายพอควร ไอ้เราก็เคยปั่นในกรุงเทพฯ คำนวณเวลาผิดสิครับ ออกจากบ้านประมาณเกือบห้าโมงเย็น ถึงทางขึ้นก็ห้าโมงพอดี ก็เริ่มปั่นแถไปแถมา ไถขึ้นไปพักก็หอบเป็นระยะๆ ไปค่อนๆ ใกล้ถึงยอดแล้ว ก็มีโทรศัพท์เรื่องงานเข้ามาคุยสาย ถือโอกาสพักหายใจเลย พอคุยสายจบ อ้าว เฮ้ย! มืดสนิทเหมือนอยู่กลางป่า มองแทบจะไม่เห็นทางอยู่แล้ว มีแต่เสียงจั๊กจั่นเรไร ดังขึ้นอยู่ในความมืด ดูนาฬิกาพึ่งจะ 17.45 น. เอง เลยต้องค่อยๆ ไหลลงเขามาด้วยความงง มากระจ่างอีกที เมื่อฟังข่าวเช้าจากสถานนีวิทยุแห่งประเทศไทย กรมอุตุจะแจ้งว่าพระอาทิตย์จะขึ้นตกเวลาเท่าใด เราไม่เคยสนใจ ทีนี้ลองฟังใหม่ จึงรู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก แตกต่างจากกรุงเทพฯ เกือบ 20 นาที นั่นว่าแล้วไง
หากมาเยือนวัดภูมโนรมย์ ในช่วงหน้าหนาวยามเช้า นอกจากแวดล้อมด้วยพืชพรรณไม้นานาชนิดแล้ว ยังจะมีทะเลหมอกแห่งภาคอีสานให้ชมอีกด้วย
วัดรอยพระบาทภูมโนรมย์ตั้งอยู่ หมู่ที่ 5 ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF มานิตย์ เดชสุภา
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเท็นต์ การท่องเที่ยว อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่