Louis Vuitton พามาสคอตสุดลึกลับและแสนซน อย่าง Vivienne มาสู่เรือนเวลา พร้อมทั้งสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยกลไกการแสดงแบบ jumping-hour อันแสนอัศจรรย์
มาสคอตแสนซน Vivienne ของ Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) นั้นปรากฏโฉมครั้งแรกในปีค.ศ. 2017 ด้วยบุคลิกอันแสนเปี่ยมเสน่ห์และซุกซน แต่ซ่อนไว้ด้วยความโดดเด่นของสไตล์และการแสดงออกถึงตัวตนอันเหนือความคาดหมายอยู่เสมอ เพราะหลายๆ ครั้ง Vivienne ก็มักสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเผยโฉมอย่างไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น การปรากฏตัวบนแคนวาสลายโมโนแกรมไอคอนิกของ Louis Vuitton หรือในรูปแบบของจี้และเข็มกลัดขนาดจิ๋วจากคอลเลกชัน Vivienne Travellers และแม้กระทั่งกับการกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรือนเวลาแห่งเมซง เช่นในรุ่น Tambour Spin Time Air Vivienne ที่เธอนั้นแยกเป็น 12 ร่าง พร้อมทั้งปรากฏอยู่บนโมดูลชั่วโมงแบบหมุน หรือในรุ่น Vivienne Bijou Secret ที่เหมือนกับการเล่นซ่อนหา ที่ Vivienne รับหน้าที่ในการแสดงเวลาได้อย่างแสนซนและสนุกสนานในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ ล่าสุด Louis Vuitton ยังได้สร้างสรรค์ผลงานใหม่รุ่น Tambour Slim Vivienne Jumping Hours พร้อมกับพลิกบทบาทครั้งใหม่ให้กับมาสคอตไอคอนิกนี้ โดยใช้พื้นที่ของหน้าปัดนาฬิกาเป็นเสมือนเกมแห่งเซอร์ไพรส์ โดยเฉพาะการปรากฏตัวของ Vivienne บนหน้าปัดกับธีมของเกมที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน ถ่ายทอดผ่านนาฬิกาทั้งสามรุ่นที่ผสมผสานด้วยความซับซ้อนของการแสดงเวลาแบบจัมปิ้งอาวร์ (jumping-hour) ขณะที่ไม้แวนด์แห่งเวทมนตร์ซึ่งดูเหมือนกำลังลอยวนรอบตัวและยื่นมาจากหัวใจของ Vivienne นั้นยังทำหน้าที่เป็นเข็มแสดงนาทีได้อย่างแม่นยำ โดยก้านของเข็มชี้เป็นแบบโปร่งใส ส่วนปลายไม้ประดับตกแต่งด้วยสัญลักษณ์อย่างไพ่ทาโรต์ สำหรับรุ่น Fortune, ประดับไพ่ สำหรับรุ่น Casino และประดับลูกบอลโมโนแกรมฟลาวเวอร์ ในรุ่น Circus ที่เป็นสัญลักษณ์ของแต่ละเกมในแต่ละรุ่น ที่ Vivienne ได้ถ่ายทอดบทบาททั้งการเป็นหมอดูผู้ทำนายอนาคต หรือพนักงานคาสิโน และนักเล่นกลในคณะละครสัตว์
บรรจุภายในเรือนเวลาที่ตกแต่งด้วยมืออย่างประณีตวิจิตร กับตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38.0 มิลลิเมตร หนา 12.21 มิลลิเมตร ซึ่งทำจากไวท์โกลด์ พิงค์โกลด์ หรือเยลโลโกลด์ พร้อมทั้งเม็ดมะยมประดับเพชรเจียระไนโรสคัตอันล้ำค่า ซึ่งนาฬิกาทั้งสามรุ่นถือเป็นคอลเลกชันล่าสุดจากการสร้างสรรค์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงของ Louis Vuitton โดยรุ่น Fortune ซึ่งถ่ายทอดภาพของ Vivienne ผู้สวมบทบาทเป็นหมอดูทำนายอนาคตกับดวงตาประดับด้วยเพชรสีดำนั้น นำเสนอภายในตัวเรือนพิงค์โกลด์ ประดับด้วยหน้าปัดอเวนจูรีนสีน้ำเงินเข้ม พร้อมด้วยประกายแวววาวระยิบระยับราวกับท้องฟ้ายามราตรีที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ส่วนรุ่น Casino ที่ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยกรีนซาวอไรต์ได้สวมบทเป็นพนักงานคาสิโน ซึ่งประกอบด้วยตัวเรือนเยลโลโกลด์ และหน้าปัดทำจากสการ์น (skarn) หินแร่ธรรมชาติที่ไม่ค่อยพบเห็นนักในการนำมาประดิษฐ์และตกแต่งเรือนเวลา โดยถ่ายทอดด้วยเฉดสีเขียวรุ่มรวยเสน่ห์อันเป็นสัญลักษณ์ของโต๊ะคาสิโน ปิดท้ายด้วยรุ่น Circus อีกเวอร์ชันของ Vivienne ด้วยดวงตาประดับบลูแซฟไฟร์ในบทนักเล่นกลของคณะละครสัตว์ ที่เธอปรากฏตัวด้วยชุดนักแสดงมายากลอยู่เหนือหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาว คู่กับสีเงินแวววาวของตัวเรือนไวท์โกลด์ แต่ละรุ่นเหล่านี้ยังขับเคลื่อนการแสดงเวลาด้วยนวัตกรรมโมดูลกลไกอันซับซ้อนที่สร้างสรรค์และผลิตขึ้นทั้งหมดภายในโรงงานและห้องปฏิบัติการที่มีความเชี่ยวชาญด้านกลไก La Fabrique du Temps ของ Louis Vuitton
อ่านค่าเวลาได้อย่างแยบยลและคงความเที่ยงตรงแม่นยำ ด้วยช่องหน้าต่างสองช่องซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเลือกของการแสดงเวลาชั่วโมงที่เปลี่ยนได้อย่างฉับพลันในทุกๆ 60 นาที และสลับกันแสดงระหว่างช่องหน้าต่างที่จัดวางตำแหน่งใกล้กับมือทั้งสองข้างของ Vivienne
เมื่อแสดงเวลาชั่วโมงใหม่บนช่องหน้าต่างหนึ่ง อีกช่องหน้าต่างหนึ่งจะเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์และลวดลายที่ตกแต่งตามธีมของนาฬิกาแต่ละรุ่น นับเป็นการสร้างสรรค์ครั้งแรกในโลกของเรือนเวลาสมัยใหม่ที่มีการแสดงเวลาแบบ jumping-hour ด้วยหน้าต่างสองช่องสลับกัน โดยช่องหน้าต่างทั้งคู่นี้ยังพรางตัวไว้อย่างเรียบง่าย เสมือนเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบการตกแต่งหน้าปัด ผลลัพธ์จากการหลอมรวมไว้ด้วยศิลปะและเทคนิคการตกแต่งในหลากหลายสาขา ทั้งการตกแต่งขึ้นรูปของ Vivienne การเขียนภาพขนาดเล็กหรือจุลจิตรกรรมที่รังสรรค์ด้วยมือ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยนำมาใช้เป็นครั้งแรกมาแล้วในผลงานนาฬิกา Louis Vuitton เมื่อปีค.ศ. 2014 อย่างรุ่น Escale Worldtime โดยผสมผสานด้วยศิลปะลวงตาแบบ trompe l’oeil ทั้งบนไพ่ทาโรต์ ไพ่ โมโนแกรมฟลาวเวอร์ และตัวเลขต่างๆ ที่ล้วนลงสีโดยศิลปินภายในห้องปฏิบัติการของแบรนด์เอง
นอกจากนี้ยังประดับตกแต่งด้วยเพชรล้ำค่า และรังสรรค์หน้าปัดจากหินธรรมชาติและวัสดุอันงดงามประณีต ทั้งอเวนจูรีน เปลือกหอยมุก ตลอดจนถึงหินสการ์น อัญมณีชนิดใหม่สำหรับตกแต่งเรือนเวลาที่ขุดค้นได้จากปากีสถาน หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Sannan ด้วยความโดดเด่นของเฉดสีเขียวเข้มที่เกิดจากโครเมียม รวมถึงลวดลายแบบเกรนที่ได้มาจากการก่อตัวภายใต้ผืนโลกนานนับล้านๆ ปี โดยอัญมณีแต่ละชนิดที่นำมาใช้นี้ล้วนได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อบอกเล่าถึงโลกแห่งการตีความอย่างสนุกสนานของ Vivienne ได้อย่างสมบูรณ์แบบและสวยงาม
ส่วนภายในนาฬิกาทั้งสามรุ่นขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ LV180 Calibre ประกอบด้วยชิ้นส่วน 112 ชิ้น รวมถึงองค์ประกอบของ Maltese Cross ที่ผนวกเข้ากับ multi-lever cam และลูกบอลทับทิมในการแสดงชั่วโมงสุดซับซ้อนและล้ำสมัย ซึ่งมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าระบบดั้งเดิมที่ใช้เฟืองและจัมเปอร์สปริง โดยเฉพาะในแง่ของประสิทธิภาพของการส่งพลังงาน ความแม่นยำของการแสดงเวลา และการเปลี่ยนชั่วโมงแบบฉับพลัน รวมทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของกลไกได้อีกด้วย สำหรับคาลิเบอร์นี้ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 เฮิรตซ์ และสำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง โดยปกป้องหน้าปัดและฝาหลังเปิดโชว์ให้เห็นกลไกผ่านกระจกแซฟไฟร์ คงไว้ด้วยการมอบประสิทธิภาพการกันน้ำได้ลึกระดับ 50 เมตร ทั้งสามรุ่นจับคู่ลงตัวมากับสายหนังจระเข้เฉดสีรับกันกับแต่ละรุ่น มาพร้อมกล่องบรรจุทรง trunk สำหรับเรือนเวลาชั้นสูงของ Louis Vuitton
CREDITS:
PHOTOS/VIDEO: COURTESY OF LOUIS VUITTON
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
