คาร์เทียร์จัดงานนิทรรศการเครื่องประดับชั้นสูง และกาล่า ดินเนอร์ ณ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
Cartier (คาร์เทียร์) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส จัดงานนิทรรศการเครื่องประดับชั้นสูงระดับภูมิภาคเป็นครั้งแรก ณ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยมีผลงานการสร้างสรรค์กว่า 300 ชิ้น ประกอบด้วยเครื่องประดับชั้นสูง เรือนเวลาชั้นสูง เรือนเวลาประดับอัญมณีชั้นสูงและผลงานจากคอลเลกชัน Cartier Tradition มาจัดแสดงในโอกาสพิเศษนี้ โดย ต่อ ธนภพ Cartier Ambassador จากประเทศไทย และ ปอย ตรีชฎา ได้เข้าร่วมงานครั้งนี้ในฐานะแขกคนสำคัญจากประเทศไทย และสวมใส่เครื่องประดับจากคาร์เทียร์
แบรนด์มีความผูกพันอันยาวนานและลึกซึ้งกับประเทศออสเตรเลียเลือกและสานต่อความสัมพันธ์ดังกล่าว โดย Sydney Opera House หนึ่งในสถานที่ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดสำหรับศิลปะการแสดงของโลกจึงได้กลายมาเป็นสถานที่สำหรับจัดงานกาล่าแสนเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งนี้ โดยแขกผู้มีเกียรติคนสำคัญของเมซงได้รับเชิญจากค Yanina Novitskaya (ญานีน่า โนวิทสกาญ่า) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคาร์เทียร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย และ Alban du Mesnil (อัลบัน ดู เมสนิล) กรรมการผู้จัดการคาร์เทียร์ภูมิภาคโอเชียเนีย เพื่อเข้าร่วมสัมผัสหัวใจของการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์ที่จัดขึ้น ณ สถานที่อันเป็นมรดกโลกตลอดจนเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเลิศทางด้านศิลปะ
แขกผู้มีเกียรติได้รับการต้อนรับจาก Cartier Bell Boy ก่อนที่จะเข้าร่วมรับประทานอาหารเย็นและดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาอันแสนพิเศษ พร้อมรับชมการแสดงจากนักเปียโนชื่อดังอย่าง Van Anh Nyugen, Cathy Di-Zhang นักร้องโซปราโน และการแสดงจาก Sydney Dance Company ที่สนับสนุนโดย Chorus Collective ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่โดดเด่นทางด้านการเต้นรำร่วมสมัยของออสเตรเลีย
ในครั้งนี้ ต่อ ธนภพ ลีรัตขจร ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนอันน่าจดจำในฐานะ ‘Cartier Ambassador’ จากประเทศไทย โดยมาในลุคเรียบสง่าสวมทักซิโด้สีดำ เพิ่มความหรูหราด้วยเครื่องประดับในคอลเลกชันต่างๆ ของคาร์เทียร์ ทั้งเข็มกลัดไวท์โกลด์ประดับมรกต ออนิกซ์และเพชร จากคอลเลกชันเครื่องประดับชั้นสูง Panthère de Cartier (ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์) แหวนเยลโลว์โกลด์ โรสโกลด์ และไวท์โกลด์ จากคอลเลกชัน Trinity (ทรินิตี้) แหวนไวท์โกลด์ฝังเพชร จากคอลเลกชัน Love (เลิฟ) รวมทั้งสวมใส่เรือนเวลา Pasha de Cartier (พาช่า เดอ คาร์เทียร์)
และปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ เข้าร่วมงานกาล่าดินเนอร์ในลุคแสนโดดเด่น ด้วยชุดเดรสสีดำตัดกับกระโปรงสีชมพูแต่งโบว์ขนาดใหญ่ เสริมความหรูหราด้วยชุดเครื่องประดับเพชรและสร้อยคอไวท์โกลด์ประดับมรกต และออนิกซ์ จากคอลเลกชันเครื่องประดับชั้นสูง Panthère de Cartier (ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์) และต่างหู เครื่องประดับชั้นสูงจากคอลเลกชัน [SUR]NATUREL
งานนิทรรศการ จัดขึ้น ณ ท่าเรือประวัติศาตร์หมายเลข 2/3 บริเวณปากอ่าวของซิดนีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญ โดยครั้งนี้ได้รับการแปลงโฉมอย่างสมบูรณ์แบบตลอดระยะเวลาการจัดแสดงโดยสองศิลปินท้องถิ่นชื่อดังอย่าง Jacquie Fink และ Tracey Deep เพื่อการจัดแสดงชิ้นงานอันแสนวิจิตรจากเมซงโดยเฉพาะ โดยผู้เข้าร่วมจะได้ชื่นชมผลงานศิลปะของศิลปินไปกับเดินทางเข้าสู่จักรวาลของไฮจิวเวลรี และค้นพบสไตล์อันโดดเด่นของเมซงอย่างประณีต ซึ่งรวมไปถึง woolen art installation (ผลงานศิลปะการจัดวางขนสัตว์) อันแสนทรงพลังที่รังสรรค์โดย Jacquie Fink ซึ่งผลงานชิ้นเอกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อจุดประสงค์เดิมของสถานที่แห่ง ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในร้านขายผ้าขนสัตว์ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองซิดนีย์ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
การตกแต่งภายในงานนิทรรศการนั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากลักษณะเฉพาะตัวของประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่การใช้สีเอิร์ธโทนของพื้นผิวหินทรายและเฉดสีแดงสดใสที่ชวนให้ระลึกถึงช่องเขา Kimberley อันโด่งดังใน Western Australia โดยรังสรรค์ขึ้นเพื่อฉลองแก่ Sydney Opera House ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ทางด้านสถาปัตยกรรมของประเทศออสเตรเลียที่รายล้อมไปด้วยความบริสุทธิ์ของน้ำทะเลที่กระทบแสงอาทิตย์ นอกจากนี้งานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Tracey Deep รังสรรค์ขึ้นจากวัสดุอินทรีย์ที่ชวนให้นึกถึงภูมิทัศน์ทะเลทรายในออสเตรเลีย เป็นผลงานศิลปะที่สร้างความเชื่อมโยงด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวที่สืบทอดต่อกันมา
นอกจากแขกคนสำคัญจากทั่วโลกแล้ว ต่อ ธนภพ และ ปอย ตรีชฎา ได้รับเชิญเข้าร่วมชมความสวยงาม สัมผัสประสบการณ์ของการจัดแสดงไฮจิวเวลรีในคอลเลกชันต่างๆ โดยทั้งสองคนมาในลุคลำลอง เลือกสวมใส่เสื้อผ้าในโทนสีขาวดำที่แสนเรียบง่าย เปี่ยมไปด้วยสไตล์ของตนเอง ซึ่งต่อ ธนภพ เสริมเครื่องประดับจากคาร์เทียร์หลากหลายคอลเลกชันประกอบไปด้วย ชุดเครื่องประดับฝังเพชรสร้อยคอและกำไลข้อมือไวท์โกลด์ จากคอลเลคชั่นเครื่องประดับชั้นสูง คอลเลกชัน Panthère de Cartier (ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์) แหวนไวท์โกลด์ฝังเพชร และแหวนเยลโลว์โกลด์จากคอลเลกชันเลิฟ (Love) เสริมความโดดเด่นด้วยเรือนเวลา Santos de Cartier (ซานโตส เดอ คาร์เทียร์) ที่มีขอบตัวเรือนและตัวเรือนทำจากสตีลและ ADLC สีดำ
ส่วนปอย ตรีชฎา สวมใส่เสื้อสูทเบลเซอร์แขนยาวสีขาวและกระโปรงชีฟองยาวสีดำ สวมใส่เซ็ตต่างหูและกำไลข้อมือจากคอลเลกชัน Panthère de Cartier (ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์)
Architecture and Purity
เนรมิตจินตนาการให้มีชีวิตด้วยพลังแห่งเส้นสาย เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการสร้างสรรค์ผลงานของคาร์เทียร์ โดยทุกการรังสรรค์เครื่องประดับที่มีจุดศูนย์กลาง คือความบริสุทธิ์ของเส้นสาย ความสมดุลของรูปทรงและปริมาตร กับสัดส่วน และผลลัพธ์ของชิ้นงานที่กลมกลืนในทุกส่วน ผสานรูปทรงเรขาคณิตและความแตกต่าง ทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเครื่องประดับที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ของคาร์เทียร์
Grattacielo Necklace
การออกแบบสร้อยคออันทรงพลังผ่านอัญมณีในหลากหลายรูปแบบทั้งเพชรหรือมรกต ชวนให้นึกถึงสถาปัตยกรรมขนาดเล็กที่เปี่ยมไปด้วยความสมบูรณ์แบบอันล้ำค่าที่มาในรูปทรงเรขาคณิต ได้รับการจัดเรียงในโครงสร้างที่แลดูสะอาดตา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคาร์เทียร์ โดยหัวใจของการออกแบบเครื่องประดับชิ้นนี้คือมรกตจากประเทศโคลัมเบีย ที่ได้รับการเจียระไนด้วยความประณีต สะท้อนให้เห็นถึงจี้เพชรอันแสนพิเศษ โดยโครงสร้างในรูปสี่เหลียมจัตุรัสที่แบ่งออกและทวีคูณเพิ่มขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด สร้างความโดดเด่นอันก้องกังวาน
Maxima Necklace
คำว่า Maxima มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละตินและอารบิก ซึ่งหมายถึงความอลังการและยิ่งใหญ่ที่สุด ถือเป็นชื่อที่เหมาะสมสำหรับสร้อยคอชิ้นนี้ โดยได้รับการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในสถาปัตยกรรมของคาร์เทียร์ เรียงร้อยเพชรให้เป็นแถวขนาน ซึ่งจัดวางช่องว่างระหว่างอัญมณีแต่ละชิ้นได้คัดสรรและปรับเทียบ เพื่อค้นหาจังหวะ ความสมดุล เสริมความโดดเด่นให้กับทับทิมที่อยู่ตรงกลางทั้งสองชิ้น ช่วยกระจายสีสันอันแสนงดงามของผลงานชิ้นนี้อีกด้วย นอกจากนั้นสร้อยคอนี้สามารถปรับให้เป็นมงกุฎได้ ตามแบบฉบับดีไซน์ที่มีมาอย่างยาวนานของเมซง ในด้านการสร้างสรรค์เครื่องประดับที่สามารถปรับเปลี่ยนได้
Giving Life to Nature
คาร์เทียร์เลี่ยงการสร้างภาพแทนธรรมชาติในแนวโรแมน เลือกสรรสร้างความสมจริง เชิงสร้างสรรค์ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น hyper-realism (แบบเสมือนจริง) stylisation (ถ่ายทอดธรรมชาติแบบเกินจริง) หรือ abstraction (แบบนามธรรม)
Splendeds Necklace
สร้อยคอชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากปลากัด ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ไม่เคยมีมาก่อนในคอลเลกชันเครื่องประดับของคาร์เทียร์ โดยออกแบบควบคู่ไปกับการรักษารสนิยมในการออกแบบเชิงนามธรรมอันเป็นสัญลักษณ์ของเมซง เปรียบเสมือนครีบอันเพรียวบางที่ยาวสละสลวยของปลากัด ที่กำลังพริ้วไหวอย่างนุ่มนวลท่ามกลางน้ำตกสปิเนลและเพชร โดยมีลูกปัดร้อยเรียงกันอย่างอ่อนช้อยโดยมีสปิเนลในทรงรีเปรียบเสมือนดั่งลูกแพร์ห้อยประดับอย่างสวยงาม
Trovoada Necklace
สร้อยคอเส้นนี้ประกอบไปด้วยสปิเนล โมร่าสีม่วงและเพชรเม็ดงามที่เรียงรายซ้อนกันมากมาย โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความซับซ้อนของสีสันที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุ ความกลมของลูกปัด ทำให้เกิดการตัดกันเล็กน้อยกับแรงทางรูปทรงเลขาคณิตของเพชรพลอยที่เจียระไนอย่างประณีตเป็นทรงวงรีและสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน โดยทุกองค์ประกอบของผลงานชิ้นเอกชิ้นนี้ สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อมอบความรู้สึกของการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ
Cartier Tradition
ความมุ่งมั่นของคาร์เทียร์ คือ การสืบทอดพันธกิจในฐานะของผู้สร้างสรรค์เครื่องประดับที่เปี่ยมไปด้วยอัญมณีอันล้ำค่า โดย Cartier Tradition เสนอชิ้นงานเก่าแก่อันน่าหลงใหลเหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นอัญมณี เรือนเวลาและวัตถุมีค่าให้กับเหล่านักสะสม โดยสรรค์สร้างชิ้นงานในแต่ละชิ้น ได้คัดสรรก่อนจะได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญของเมซงก่อนนำไปบูรณาการอย่างพิถีพิถัน โดยช่างฝีมือผู้ชำนาญการ ซึ่งมีจดหมายเหตุเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการมอบชีวิตให้แก่ชิ้นงานอันแสนเลอค่า
Tiger Bracelet
กำไลข้อมือเสือปองแตร์สองตัวประดับด้วยการฝังเพชรสีเหลืองแบบพาเว่ มอบความหรูหราไปทั่วตัวเรือนด้วยลวดลายสีดำที่พาดอยู่ทั่วลำตัวและจมูกประดับด้วยโอนิกซ์ ในขณะที่ดวงตาประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าอย่างมรกตในรูปทรงรีสวยงาม รวมทั้งมีการออกแบบบานพับด้านข้างที่ช่วยในการสวมใส่กำไลข้อมือชิ้น นับว่าเป็นการออกแบบที่สมบูรณ์ ลงนาม: 1979, Cartier Paris
สร้อยคอและจี้รูปทรงโล่
จี้รูปทรงโล่ที่ถอดออกได้ของสร้อยเส้นนี้ประดับพาเว่ด้วยเพชรทั่วตัวเรือน เสริมความสง่าด้วยเพชรอันเก่าแก่ขนาดใหญ่ ที่เจียระไนแบบยุโรปด้วยกันสองเม็ด ด้านข้างและด้านหลังของสร้อยคอต่างประดับด้วยบักเกิลเพชรและข้อต่อรูปตัว D ที่เชื่อมเข้าหากัน แต่เดิมสร้อยคอเส้นนี้ได้รวมเป็นส่วนหนึ่งของกำไลข้อมือที่สามารถถอดออกได้ โดยตัวล็อกทั้งสองด้านที่มีอยู่ด้านข้าง เผยความเอนกประสงค์ของการใช้งานเครื่องประดับในยุคสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี โดยสร้อยเส้นนี้สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับสมาชิกของเหล่าขุนนางอังกฤษ ลงนาม: 1928, Cartier Ld London.
Australian Inspiration
ความใคร่รู้และรสนิยมของคาร์เทียร์ที่มีต่อโลกใบนี้ ทำให้คาร์เทียร์ได้พบกับความอุดมสมบูรณ์ทางด้านวัฒนธรรมที่แตกต่าง ซึ่งการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างมนุษยศาสตร์ ศิลปะ บรรยากาศที่แปลกใหม่และสไตล์ของเมซง เผยความงดงามและความวิจิตรอันเป็นเอกลักษณ์ของโลกใบนี้
สร้อยคอโอปอลสีขาว 103.780 กะรัต จากประเทศออสเตรเลีย โอปอลทั้ง 48 เม็ดบนสร้อยเส้นนี้มีความงดงามที่แตกต่างกันไปตามความหลากหลายของสี ซึ่งขึ้นอยู่กับมุมของอัญมณีแต่ละชิ้น โดยมีตั้งแต่สีฟ้าบริสุทธิ์หรือสีฟ้าอมม่วง สีส้ม สีเหลือง สีเหลืองอมเขียวไปจนถึงสีเขียวแกมน้ำเงิน ซึ่งโอปอลเหล่านี้เดิมเป็นสีขาวโปร่งแสงที่มีคุณสมบัติในการเล่นสีที่สวยงาม ซึ่งเป็นอัญมณีที่จะพบเป็นเซ็ตเดียวกันได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดของโอปอลที่มีความเล็กใหญ่เท่าๆ กัน โดยโอปอลเหล่านี้ได้มีต้นกำเนิดมาจากแหล่งโอปอลที่สมบูรณ์ที่สุดอย่างประเทศออสเตรเลีย ซึ่งโอปอลที่พบมักจะมาในสีขาวและสีดำเป็นส่วนใหญ่
เรือนเวลาชั้นสูง โอปอลและมรกตประดับเรือนเวลาข้อมือชั้นสูง ชิ้นงานร่วมสมัยชิ้นนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องประดับผมของเจ้าหญิง Andress ในปีค.ศ.1934 โดยออกแบบที่ตรงข้ามกันผ่านความกลมมนของลวดลายผสานเข้ากับสายนาฬิกาที่มีความตรงและประดับไปด้วยอัญมณีที่มีความอ่อนโยนของโอปอลและมรกตที่แกะสลักซึ่งเข้ากันได้อย่างสวยงาม
Ocelle Necklace
นกยูงคือสัตว์ที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของคาร์เทียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสวยงามของเส้นขนในโทนสีเขียวและสีน้ำเงิน และลวดลายของนกยูงอันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของเมซง ที่ได้รับการเชิดชูให้โดดเด่นด้วยโอปอลสองชิ้นและเพิ่มความลงตัวของเฉดสีให้มากขึ้นด้วยมรกตจากแซมเบีย ซึ่งนอกเหนือจากพาเลตต์สีแล้ว ถ่ายทอดดีไซน์ของนกยูงผ่านการออกแบบลวดลายที่มีรูปทรงเรียวเพรียว องค์ประกอบเหล่านี้ได้สร้างสรรค์ขึ้นอย่างมีสไตล์และเกือบจะเป็นจุลศาสตร์ Ocelli หรือตาบนหางของนกยูงได้ถ่ายนทอดผ่านการจัดเรียงกราฟิก โดดเด่นไปด้วยสัมผัสอันแสนประณีตของแลคเกอร์สีดำอันให้ความรู้สึกถึงการแพร่กระจายของสี ความเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะของการจัดเรียงอัญมณี เอฟเฟกต์ของรูปทรงเลขาคณิตและการเปล่งประกายของสีสันอันงดงาม ส่วนหนึ่งของสร้อยคอเส้นนี้ สามารถสวมใส่เป็นเข็มกลัดได้เช่นเดียวกัน
Special Order
การสั่งทำชิ้นงานพิเศษ ถือเป็นโอกาสของลูกค้าคนสำคัญของแบรนด์ ที่ได้สัมผัสและดื่มด่ำไปกับประสบกาณ์เหนือระดับอย่างแท้จริง ในครั้งนี้นักออกแบบไฮจิวเวลรีของเมซง ได้ร่างภาพของเครื่องประดับชั้นสูงที่รอการสร้างสรรค์ให้สมบูรณ์ทั้งหมดสองชิ้นด้วยกัน นอกจากเสือปองแตร์ทอันเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมซง แรงบันดาลใจในการรังสรรค์เครื่องประดับจากสัตว์ของคาร์เทียร์ยังประกอบไปด้วยสัตว์อีกมากมาย ทั้งจระเข้ นกฟลามิงโก้ งู สุนัขพันพุดเดิ้ล แอนติโลปและจิงโจ้ ซึ่งคาร์เทียร์ได้ค้นพบตัวอย่างสัตว์ป่า อันเป็นที่รู้จักของประเทศออสเตรเลียหลากหลายชนิดในจดหมายเหตุของคาร์เทียร์ ในปีค.ศ.1905 คาร์เทียร์ได้สร้างสรรค์เครื่องประดับในรูปร่างของคู่จิงโจ้สองตัว ตัวหนึ่งจากอาเกตสีเทาและอีกตัวหนึ่งจากเนไฟร์ต รายล้อมไปด้วยเพชรที่แกะสลักเป็นรูปดอกกุหลาบ และเป็นการฉลองไฮจิวเวลรีที่ซิดนีย์ในครั้งนี้ คาร์เทียร์ออกแบบเครื่องประดับในดีไซน์จิงโจ้และโคอาล่า ดีไซน์ขึ้นโดยยึดโอปอลจากออสเตรเลียเป็นหัวใจหลักและสรรหาอัญมณีที่มีสีสันเข้ากันกับโอปอลเม็ดหลักได้อย่างลงตัว
Koala Brooch
เข็มกลัดโคอาล่าไวท์โกลด์ ประดับไปด้วยเพชรสีขาวที่และสปิเนลสีเทาเจียระไนอย่างประณีตแบบ Brilliant-cut โดยตัวโคอาล่ากำลังโอบอุ้มมรกตขนาด 2.61 กะรัต เจียระไนให้เป็นรูปแตงโมและกิ่งยูคาลิปตัส ในขณะที่ตาและจมูกอันแสนดำขลับ ประดับไอด้วยโอนิกซ์ เกี่ยวกับโอปอล: โอปอลขนาด 3.22 กะรัต จากประเทศออสเตรเลีย มีพื้นหลังที่โปร่งแสงที่สวยงามและเป็นเนื้อเดียวกัน โดยมีความแวววาวของเฉดสีที่หลากหลายตั้งแต่สีม่วงจนถึงสีเขียว
Kangaroo Brooch
เข็มกลัดจิงโจ้โรสโกลด์ประดับเพชรเม็ดงามสีขาวและสีน้ำตาลที่เจียระไนอย่างประณีตแบบ Brilliant-cut ซึ่งกำลังถือเพชรแซฟไฟร์ขนาด 2.20 กะรัตสีชมพูที่เจียระไนเป็นรูปดาว โดยมีโอนิกซ์สีดำขลับประดับในส่วนของจมูกและตา และวางหินออบซิเดียนประดับไว้ใต้แท่น เกี่ยวกับโอปอล: โอปอลขนาด 1.25 กะรัตจากประเทศออสเตรเลีย โดยอัญมณีได้แสดงให้เห้นถึงสเปกตรัมของสีที่มีความกลมกลืนกันอย่างลงตัวตั้งแต่สีม่วงจนถึงสีแดง โดยอัญมณีชิ้นนี้ ได้คัดเลือกเนื่องจากความแตกต่างระหว่างพื้นหลังสีขาวและสีแดงที่ชัดเจน (ซึ่งเป็นสีที่หายากและเป็นที่ต้องการที่สุดของโอปอล)
สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: www.cartier.co.th
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF CARTIER