ฉลอง 150 ปีหลังการสร้างสรรค์นาฬิกาตีระฆังบอกเวลาขึ้นเป็นครั้งแรกของแบรนด์ Jaeger-LeCoultre พร้อมเผยโฉมผลงานใหม่ใน Reverso Tribute Minute Repeater ที่ผลิตขึ้นจำนวนจำกัดเพียง 10 เรือนเท่านั้น
นอกจากเป็นปีสำคัญของการฉลองครบรอบ 90 ปี แห่งการถือกำเนิดคอลเลกชั่นระดับตำนานอย่าง Reverso แล้ว ปีนี้ Jaeger-LeCoultre (เจเกอร์-เลอคูลทร์) ยังถือโอกาสฉลอง 150 ปี หลังการสร้างสรรค์นาฬิกาตีระฆังบอกเวลาหรือมินิท รีพีทเตอร์ (minute repeater) ขึ้นเป็นครั้งแรกของแบรนด์อีกด้วย โดยการเผยโฉมนาฬิกาตีระฆังบอกเวลาชั้นยอดสำหรับนักสะสมโดยเฉพาะ อย่าง Reverso Tribute Minute Repeater ที่จะนำเสนอในจำนวนจำกัดเพียง 10 เรือนเท่านั้น และยังเป็นเรือนเวลาใหม่อันวิจิตรประณีต ที่หลอมรวมระหว่างสองธีมหลักๆ เข้าไว้ด้วยกันอันเป็นนิยามความเชี่ยวชาญของ La Grande Maison แห่งนี้ ทั้งความชำนาญพิเศษในนาฬิกาตีระฆังบอกเวลา และเรื่องราวอันเหนือกาลเวลาของตำนานแห่ง Reverso นั่นเอง
หากจะว่าไปแล้ว ความโดดเด่นของ Reverso นั้นยังคงไ้ด้รับยกย่องและเป็นที่จดจำได้ทันทีด้วยเอกลักษณ์ของเส้นสายสไตล์อาร์ตเดโค กับตัวเรือนซึ่งพลิกกลับด้านได้ นั่นทำให้ Reverso เป็นหนึ่งในนาฬิกาข้อมืออันเป็นที่จดจำสูงสุดในโลกเรือนเวลาเสมอ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ยังได้ผสมผสานไว้ด้วยเอกลักษณ์ความสวยงามและความประณีตในงานฝีมือที่นับเป็นอีกหนึ่งทักษะชั้นสูงของ Jaeger-LeCoultre และได้ขยายพรมแดนมาสู่ทายาทหลากรุ่นและหลายเจเนอเรชั่นของ Reverso ตลอดเส้นทางเก้าทศวรรษที่ผ่านมา
แต่ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่ Jaeger-LeCoultre ได้พัฒนาต่อยอดควบคู่มากับวิวัฒนาการด้านความสวยงามและความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวภายใต้คอลเลกชั่นนาฬิกาต่างๆ ของแบรนด์ด้วยนั้นก็คือการสร้างสรรค์ความก้าวหน้าทางเทคนิคและการประดิษฐ์คิดค้นซึ่งนวัตกรรมและแนวคิดของการพัฒนากลไกจักรกลอัจฉริยะคาลิเบอร์ต่างๆ ที่ล้วนเป็นต้นกำเนิดของความสลับซับซ้อนอันน่าสนใจ และเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ด้านสมรรถนะและความเที่ยงตรงของนาฬิกาอีกด้วย
เช่นเดียวกันกับ Reverso ที่การผสมผสานระหว่างจักรกลและโครงสร้างของตัวเรือนพลิกกลับด้านได้เข้ากับกลไกอันซับซ้อนภายในนั้น ได้กลายเป็นวิวัฒนาการที่คนรักนาฬิกาและนักสะสมต่างยังคงติดตามและชื่นชอบหลงใหลเป็นพิเศษ นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ครั้งนี้แบรนด์ได้จับสองธีมและสองเรื่องราวอันเป็นต้นตำรับสูงสุดนี้มาไว้ด้วยกันใน Reverso Tribute Minute Repeater
ในช่วง 1990s และท่ามกลางการถือกำเนิดใหม่อีกครั้งของประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาจักรกลที่เพิ่งฟื้นตัวกลับมาหลังจากยุควิกฤตการณ์ควอตซ์ (Quartz Crisis) นาฬิกา Reverso กับเอกลักษณ์ความโดดเด่นของตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมนั้นได้กลายเป็นอีกหนึ่งคอลเลกชั่นผลงานที่แบรนด์และโรงงานการผลิตแห่งนี้ต้องการพลิกฟื้นคืนกลับมา พร้อมทั้งบรรจุไว้ด้วยการพัฒนาขึ้นอีกครั้งของกลไกจักรกลสลับซับซ้อน ซึ่งนับเป็นความท้าทายและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษในการสร้างสรรค์กลไกจักรกลทรงสี่เหลี่ยมที่มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงไปจากกลไกทรงกลมตามประเพณีทั่วไป และยิ่งเสริมไว้ด้วยจักรกลสลับซับซ้อนสำหรับการตีระฆังบอกเวลาด้วยแล้ว นั่นนับได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับผู้ผลิตนาฬิกา แต่กระนั้น Jaeger-LeCoultre ก็ประสบความสำเร็จกับการเปิดตัวแนะนำผลงานรุ่น Reverso Répétition Minutes ขึ้นในปีค.ศ. 1994 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของ Maison แห่งนี้ที่สามารถย่อส่วนจักรกลมินิท รีพีทเตอร์สำหรับติดตั้งในนาฬิกาข้อมือได้อย่างสมบูรณ์ และยังเป็นกลไกมินิท รีพีทเตอร์ทรงสี่เหลี่ยมชุดแรกของโลกอีกด้วย
ทว่า จริงๆ แล้วความเชี่ยวชาญในการประดิษฐ์กลไกจักรกลมินิท รีพีทเตอร์ของแบรนด์นั้นเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการก่อตั้งในปีค.ศ. 1833 และความเชี่ยวชาญนี้ก็ยังคงได้รับการสืบทอดและพิสูจน์ความสามารถเสมอมาผ่านมรดกกลไกตีระฆังบอกเวลากว่า 200 คาลิเบอร์ของ Maison และนับตั้งแต่นาฬิกามินิท รีพีทเตอร์ Reverso เรือนแรกของยุค 1990s ทีมวิศวกรและนักออกแบบก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาความเชี่ยวชาญนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะการพัฒนาและปรับปรุงความประณีตละเอียดอ่อนของทั้งคุณภาพของเสียง ความกลมกลืน และการผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่เช่นกัน
เหมือนกับในผลงานรุ่นใหม่ในวันนี้เป็นการตีความ และการแสดงออกครั้งใหม่ของตำนานแห่งนาฬิกามินิท รีพีทเตอร์ โดยมาพร้อมการติดตั้งด้วยค้อนแบบแขนเหวี่ยงจดสิทธิบัตรโดย Jaeger-LeCoultre และระบบเรกูเลเตอร์เดินเงียบแบบไร้เสียงรบกวน รวมถึงฆ้องเจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งในนาฬิการุ่นใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือประยุกต์ใหม่ของเวอร์ชั่น Calibre 944 ที่ผ่านการคิดค้น ออกแบบ และผลิตขึ้นทั้งหมดภายในโรงงานของตนเอง โดยมอบพลังงานสำรองได้ 35 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นด้วยหน้าปัดทั้งบนด้านหน้าและด้านหลังที่ถ่ายทอดไว้ด้วยงานดีไซน์เหนือกาลเวลาของ Reverso เช่นกันกับเปิดโชว์ให้เห็นจักรกลมินิท รีพีทเตอร์ พร้อมทั้งการตกแต่งอย่างประณีตทั้งบนกลไกและองค์ประกอบของหน้าปัดทั้งสองด้าน ซึ่งแม้จะแสดงเวลาแบบเดียวกัน แต่ต่างกันด้วยบุคลิกระหว่างหน้าปัดด้านหนึ่งตกแต่งด้วยสัมผัสอันสดใสมีชีวิตชีวา กับอีกด้านตกแต่งในแบบเข้มขรึมกว่า
ระหว่างหน้าปัดด้านหน้าแบบสเกเลตันที่เผยให้เห็นความสลับซับซ้อนของจักรกลมินิท รีพีทเตอร์ โดยเฉพาะการทำงานของชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวเมื่อจักรกลตีระฆังถูกเปิดใช้งาน ส่วนข้างใต้นั้นยังเผยให้เห็นสะพานจักรทรงโบขนาดใหญ่ที่พาดจากตำแหน่ง 11 นาฬิกา ไปจนถึง 7 นาฬิกา จึงทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ ดูคล้ายกับกำลังลอยอยู่กลางหน้าปัดอย่างมีมิติของภาพที่ตัดกันกับงานตกแต่งองค์ประกอบหน้าปัดอื่นๆ เช่น เครื่องหมายบอกชั่วโมง ฆ้อง สะพานจักร และอื่นๆ ในโทนสีทองสง่างาม รับกับไปกับตัวเรือนพิงค์โกลด์ของนาฬิกา
ขณะที่อีกด้านของหน้าปัดนั้นมีความเข้มขรึม และสะท้อนความคมชัดของเส้นสายบนตัวเรือน Reverso โดยเฉพาะลายเส้นตรง โดยหน้าปัดด้านหลังแบบสเกเลตันนี้เผยให้เห็นงานการตกแต่งลายแถบ Côtes de Genève แนวตั้งที่พาดไปตามความสูงของแท่นเครื่องกลไกซึ่งทำหน้าที่เป็นหน้าปัดของด้านนี้ด้วย พร้อมทั้งโชว์ให้เห็นการทำงานของจักรกลแสดงเวลา กับรายละเอียดและการตกแต่งอันประณีตคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็น สกรูสีน้ำเงิน เข็มชี้และเครื่องหมายบอกชั่วโมงสีทอง และสีเงินของโลหะที่เป็นจุดตัดและสร้างความสมดุลกลมกลืนในเวลาเดียวกันไปกับโทนสีพิงค์โกลด์อันอบอุ่นของตัวเรือน
สำหรับการควบคุมจักรกลมินิท รีพีทเตอร์นั้น ด้านข้างของตัวเรือนนาฬิกายังบรรจุไว้ด้วยตัวสไลด์สำหรับเปิดใช้งานระบบตีระฆังที่ออกแบบขึ้นพิเศษสำหรับนาฬิการุ่นใหม่นี้โดยเฉพาะ เพื่อมอบความบางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และยังคงรับไปกับสรีระข้อมือ เช่นเดียวกับรักษาภาพแห่งเส้นสายสไตล์อาร์ตเดโคของตัวเรือนได้อย่างโดดเด่นชัดเจน ซึ่งนั่นไม่เพียงตอกย้ำความคลาสสิกร่วมสมัยและความทันสมัยเหนือกาลเวลาของงานดีไซน์ Reverso แต่ยังสามารถรองรับไว้ด้วยความก้าวหน้าทางเทคนิคและความสวยงามที่ยังคงได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งของโรงงานการผลิต Jaeger-LeCoultre ได้ด้วยเช่นกัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF JAEGER-LECOULTRE
MUSIC: “Ethernight Club” Kevin MacLeod (incompetech.com)
Licensed under Creative Commons: By Attribution 4.0 License
http://creativecommons.org/licenses/by/4.0/
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่