Jaeger-LeCoultre โชว์งานศิลป์ผสานความซับซ้อนแห่งจักรกลในเรือนเวลา Rendez-Vous Star ดาวดวงใหม่แห่งปี 2022
Jaeger-LeCoultre Rendez-Vous Star ปรากฏการณ์ทางท้องฟ้าที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลาสั้นๆ ทั้งยังอยู่เหนือการคาดการณ์และลึกลับ อย่าง ดาวตก ได้กลายเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจให้กับทั้งนักกวี ศิลปิน และแม้แต่ Maison ผู้สร้างสรรค์เรือนเวลา อย่าง Jaeger-LeCoultre (เจเกอร์-เลอคูลทร์) ที่ปีนี้ แบรนด์ได้ตีความนาฬิกา Rendez-Vous สำหรับสุภาพสตรีขึ้นใหม่ โดยการหล่อหลอมระหว่างหัตถศิลป์ ดาราศาสตร์ และการประดิษฐ์นาฬิกาไว้รวมกันในผลงานรุ่นล่าสุดของ Rendez-Vous Star
Rendez-Vous เป็นคอลเลกชันที่อุทิศให้กับสุภาพสตรีที่หลงใหลในความเป็นต้นต้นรับของเครื่องบอกเวลาชั้นสูง จากความสามารถทางจักรกล ความซับซ้อนของกลไก ที่ผสานเข้ากับสุนทรียะความสวยงามของงานออกแบบนาฬิกา โดยนับตั้งแต่เปิดตัว Rendez-Vous ก็ได้ความรับสนใจจากลูกค้าเรือนเวลาสุภาพสตรีเป็นอย่างมาก และกลายเป็นหนึ่งในคอลเลกชันอันมีบทบาทและความโดดเด่นสำคัญสำหรับ Jaeger-LeCoultre ซึ่งในปี ค.ศ. 2022 นี้ Maison ได้เผยความฝันและจินตนาการสู่ความเป็นจริงครั้งใหม่ ซึ่งปรากฏมาพร้อมกับความประณีตสวยงามของ Rendez-Vous Star ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปรากฏการณ์ดาวตก
ถ่ายทอดเป็นแสงแวบวาวกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนจากดาวตก มาสู่หน้าปัดของนาฬิกาซึ่งตกแต่งด้วยกระจกแซฟไฟร์เล่นหลายระดับ ทั้งยังประดับรังสรรค์ขึ้นด้วยงานวิจิตรศิลป์ ทั้งการประดับเพชร การวาดภาพย่อส่วนเป็นภาพของก้อนเมฆและดวงจันทร์ ที่ค่อยๆ บดบังและเผยให้เห็นดวงดาว โดยการพัฒนาจักรกลซับซ้อนใหม่ที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง และขับเคลื่อนโดยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Jaeger-LeCoultre Calibre 734 ชุดใหม่ซึ่งสามารถผสมผสานความเชื่อมโยงของดาวตก เข้ากับการแสดงเวลาด้วยการคำนวณทางจักรกลอันแม่นยำ ทั้งยังสามารถบรรจุลงในนาฬิกาข้อมือได้อย่างงดงาม โดยทั้งกลไกและจักรกลอันซับซ้อนนี้ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นภายในโรงงานการผลิตของแบรนด์ และเปิดการทำงานผ่านการเคลื่อนไหวของข้อมือ ที่จะทำให้ดาวตกนั้นปรากฏขึ้นบนหน้าปัด ณ ช่วงเวลาที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ ที่โดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นประมาณ 4 ถึง 6 ครั้งต่อชั่วโมง และด้วยเพราะการไม่อาจคาดเดาได้นี้เอง ที่ทำให้ผลงานนี้มีความพิเศษยิ่งขึ้น หรือหากต้องการชมการแสดงของดาวตกนี้มากขึ้น ก็สามารถควบคุมการปรากฏตัวของดาวตกได้ตามต้องการโดยการหมุนเม็ดมะยมหลายๆ ครั้ง
รังสรรค์ขึ้นโดยเหล่าศิลปิน ณ ห้องปฏิบัติการศิลป์ Métiers Rares® (Rare Handcrafts™) ของ Jaeger-LeCoultre ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความมหัศจรรย์ของดาวตก โดยถ่ายทอดผ่านทักษะและการพัฒนาสู่วิถีใหม่ๆ ในการจำลองภาพความสวยงามและความลึกลับของท้องฟ้ายามค่ำคืนมาสร้างสรรค์สู่หน้าปัด ที่ใน Rendez-Vous Star นำเสนอด้วยสองเวอร์ชันต่างกัน ระหว่างตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 36.0 มิลลิเมตร ทำจากไวท์โกลด์คู่หน้าปัดตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าเงิน และตัวเรือนพิงค์โกลด์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 36.0 มิลลิเมตร คู่หน้าปัดในโทนสีน้ำตาลทองอันนุ่มนวล คงความหนาของตัวเรือนไว้เพียง 11.16 มิลลิเมตร ขณะที่บนหน้าปัดนั้นยังประกอบด้วยโครงสร้างพิเศษ ของการทำจากกระจกแซฟไฟร์โปร่งใส ซึ่งด้านบนของหน้าปัดแบบสามชั้นนี้ตกแต่งด้วยประกายแสงของดวงดาวแบบประทับพิมพ์ และการวาดภาพย่อส่วนด้วยมือทั้งสองด้านเป็นภาพของเมฆ และพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งบดบังดาวตกเมื่อไม่ได้มีการเปิดการทำงาน หรือไม่มีการเคลื่อนไหวของนาฬิกาหรือข้อมือ
โดยใต้กระจกแซฟไฟร์นี้บรรจุดิสก์วงกลมหมุนได้ทำจากไทเทเนียมซึ่งถูกตัดเป็นช่องเปิดรูปดาวตก ตกแต่งด้วยเฉดสีน้ำเงินเข้มสำหรับเวอร์ชันไวท์โกลด์ และสีน้ำตาลอมเทาเข้มสำหรับเวอร์ชันพิงค์โกลด์ โดยเมื่อเปิดการทำงาน ดิสก์นี้จะหมุน และส่งให้ดวงดาวเคลื่อนผ่านเส้นทางโค้งที่พาดผ่านชั้นของหน้าปัดด้านบน และเมื่อเคลื่อนผ่าน ช่องเปิดรูปดาวตกนี้จะเผยให้เห็นชั้นที่ลึกที่สุดของหน้าปัด ซึ่งเป็นดิสก์ยึดกับที่ทำจากโลหะสีเงินหรือสีทอง พร้อมทั้งการตกแต่งด้วยการไล่เฉดและเรืองแสงที่ช่วยตอกย้ำถึงสัมผัสของการเคลื่อนไหว และมอบเป็นวิถีของดาวตก คือรูปทรงสามในสี่ส่วนของวงกลมประดับเพชรที่นำมาตกแต่งลงบนหน้าปัดกระจกแซฟไฟร์ โดยเป็นการผสมผสานด้วยด้ายทองละเอียดที่ประดับโดยตรงลงบนกระจกเพื่อยึดตรึงกับเพชร ขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมมิติของความโปร่งใสและน้ำหนักเบา
ส่วนบนขอบตัวเรือนประดับด้วยวงแหวนของเพชรเปล่งประกายระยิบระยับ ซึ่งดึงดูดสายตามาสู่หน้าปัด และรักษาไว้ด้วยรหัสความสวยงามของ Rendez-Vous ส่วนพื้นผิวด้านบนของหูตัวเรือน และด้านบนของเม็ดมะยมยังประดับด้วยเพชรเช่นกัน และเพื่อเติมเต็มความสวยงามของเรือนเวลานี้ ทั้งสองเวอร์ชันมาพร้อมด้วยสายหนังจระเข้จับคู่เข้ากับสีของหน้าปัด และมอบซึ่งความเรืองรองด้วยงานตกแต่งแบบเหลือบมุก โดยมั่นใจได้กับการสวมใส่บนข้อมืออย่างปลอดภัยด้วยหัวเข็มขัดแบบบานพับ มาพร้อมประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 5 บาร์ หรือ 50 เมตร
ภายในทำงานด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 734 ที่พัฒนาขึ้นใหม่และผลิตขึ้นภายในโรงงานของแบรนด์ สำรองพลังงานได้ 70 ชั่วโมง โดยผสมผสานด้วยจักรกลดาวตกใหม่หรือ shooting star mechanism เพื่อมอบเสน่ห์ของการเกิดปรากฏการณ์ดาวตกบนหน้าปัดเรือนเวลาในแบบสุ่มหรือคาดการณ์ไม่ได้ เหมือนกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่อยู่เหนือความคาดหมายได้เสมอ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF JAEGER-LECOULTRE
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
