อวดผิวสวยสุขภาพดีแบบทันใจด้วย Peeling Gel ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวสูตรอ่อนโยนสำหรับทุกสภาพผิว พร้อมเทคนิคการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่และทริคเด็ดเพื่อผิวสวยปัง
โดยปกติแล้วผู้ที่อยู่ในวัย 20 มักมีการผลัดเซลล์ผิวอยู่ทุกๆ 3 สัปดาห์ แต่เมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆ การผลัดเซลล์ผิวก็จะช้าลง จากทุกๆ 3 สัปดาห์ จะเป็นทุกๆ 4 สัปดาห์ 5 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น จนอายุเข้าสู่เลข 70 ร่างกายจะใช้เวลานานถึง 7 สัปดาห์ในการผลัดเซลล์ผิวเลยทีเดียว ดังนั้นการทำ Peeling ผลัดเซลล์ผิวหน้าจึงเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะช่วยรักษาผิวหน้าโดยตรง ลดปัญหาริ้วรอย ปัญหาสิว หรือรูขุมขนกว้างได้อย่างเห็นผล
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่า “การผลัดเซลล์ผิว” หรือ Peeling คืออะไร? และควรลอกหน้าผลัดเซลล์ผิวดีไหม? สำหรับการผลัดเซลล์ผิว คือ การเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ให้หลุดลอกออกไปจากผิวด้วยความรวดเร็ว เพราะหากเซลล์ผิวเก่ายังไม่หลุดออกไป เซลล์จะจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ปิดกั้นเซลล์ผิวใหม่ที่จะขึ้นมาแทน ส่งผลให้ใบหน้าของเราหมองคล้ำมากกว่าเดิม
การทำ Peeling ดีอย่างไรต่อผิว
- การทำ Peeling ผลัดเซลล์ผิว เป็นวิธีผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ให้หลุดลอกออกไปได้ไวขึ้น
- ช่วยทำให้เซลล์ผิวใหม่ได้เจริญเติบโต
- ช่วยลดปัญหาสิว หรือริ้วรอยได้
- เป็นตัวช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
- แก้ปัญหารูขุมขนกว้างได้อย่างเห็นผล
Peeling Gel กับ Scrub ต่างกันอย่างไร?
การผลัดเซลล์ผิวหน้าแตกต่างกับการสครับผิวอย่างไรมาดูกัน
- สครับ คือ การขัดถูให้เซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไป
- สครับจะมีเนื้อหยาบกว่า ในขณะที่ Peeling Gel จะนุ่มนวลอ่อนโยนกว่า
- สครับไม่เหมาะกับผู้ที่มีสิว หรือผู้ที่ผิวบอบบาง
- การผลัดเซลล์ผิวหน้า (Peeling) คือ การผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไป แต่จะเป็นการใช้เนื้อเจล มาถูเบาๆ ทั่วหน้า
- การผลัดเซลล์ผิวหน้ามีโอกาสการระคายเคืองน้อยกว่าแบบสครับ
เลือก Peeling Gel อย่างไรให้ดีต่อผิว
1. อ่านส่วนผสมอย่างละเอียด
การอ่านฉลากของสกินแคร์ทุกชนิดก่อนใช้นั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการผลัดเซลล์ผิวหน้า เพราะหากเลือกใช้ส่วนผสมบางอย่างที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว ผิวหนังอาจจะลอกล่อนออกมาเหมือนงูลอกคราบเลยทีเดียว ปัจจัยสำคัญที่สุดในการพิจารณาคือการเลือกใช้ประเภทของส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวและวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น หากใครต้องการปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอยิ่งขึ้น ควรเลือกใช้ AHAs ไม่ว่าจะเป็นกรดไกลโคลิกหรือกรดแลคติก ในขณะที่ BHAs อย่างเช่นกรดซาลิไซลิกเหมาะกับผิวที่มีปัญหาเรื่องสิวและต้องการควบคุมความมันส่วนเกิน หรือหากต้องการผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยน ลองเลือกใช้กรดที่สกัดจากผลไม้
2. ทดสอบการแพ้ก่อนทุกครั้ง
ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกอย่างระมัดระวัง เพราะหากใช้ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไป อาจทำให้ผิวไหม้ได้ โดยเฉพาะสาวๆ มีผิวสีเข้ม ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษเวลาผลัดเซลล์ผิวหน้า เพราะอาจเกิดรอยด่างดำหรือรอยไหม้จากสารเคมีได้ง่ายกว่าสาวๆ ที่มีผิวขาว แนะนำว่าให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่มีฤทธิ์เป็นกรดในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำก่อนและค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้นตามลำดับเมื่อผิวเริ่มปรับสภาพได้ สำหรับสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายควรทดสอบการแพ้ก่อนการใช้ครั้งแรกเสมอ โดยทดสอบการแพ้บริเวณท้องแขนหรือหลังใบหู
เตรียมผิวก่อนใช้ Peeling Gel อย่างไร
ไม่ต้องเตรียมผิวอะไรให้วุ่นวายหลายหลากขั้นตอน เพียงล้างหน้าให้สะอาดด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนหรือมีส่วนผสมของกลีเซอรินและคาโมมายด์ที่มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว แต่ต้องให้แน่ใจว่าผิวหน้าสะอาดหมดจด ปราศจากเครื่องสำอาง ไม่มีความมันหรือน้ำมันส่วนเกินตกค้าง และควรงดการสครับหน้า, การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล, วิตามินซี, AHAs และ BHAs อย่างน้อย 2-3 วันก่อนการผลัดเซลล์ผิวหน้า เพราะอาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวได้ หากสาวๆ คนไหนมีเครื่องอบไอน้ำที่ใช้กับใบหน้า สามารถใช้เพื่อเปิดรูขุมขนก่อนการผลัดเซลล์ผิวหน้าได้ เพราะจะช่วยให้ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น
ปัจจัยที่ต้องหลีกเลี่ยงหลังใช้ Peeling Gel
งดการสครับหน้า, การทำเลเซอร์, การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดและการแวกซ์ ในช่วง 24-72 ชั่วโมงแรก รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงไม่ถูกแสงแดดโดยตรง หรือหากมีความจำเป็นควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 เพื่อเป็นเกราะป้องกันการถูกทำลายจากรังสี UV ให้กับผิวที่กำลังอยู่ในสภาพที่บอบบาง
• ไม่ควรสครับหน้าทันทีหลังผลัดเซลล์ผิว
ที่ห้ามการสครับหน้าในที่นี้ รวมไปถึงการใช้เครื่องล้างหน้าแบบซิลิโคนที่กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ตอนนี้ด้วยเช่นกัน เพราะการขัดหน้าหลังจากที่เราเพิ่งผลัดเซลล์ผิวหน้าเสร็จใหม่ๆ จะเกิดการเสียดสีและทำลายผิวชั้นบนที่เพิ่งถูกลอกออกไป และควรงดการแต่งหน้าทุกชนิดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อหลีกเลี่ยงการแพ้หรือระคายเคืองของผิว
• ความถี่ในการผลัดเซลล์ผิว
ความถี่ที่เหมาะสมสำหรับการผลัดเซลล์ผิวหน้าคือ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือทุกๆ สองสัปดาห์ การผลัดเซลล์ผิวที่บ่อยเกินไปเป็นการรบกวนผิวหน้าและทำลายจุลินทรีย์ไมโครไบโอมที่อยู่บนผิว ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ดังนั้นการผลัดเซลล์ผิวหน้าบ่อยๆ จะส่งผลให้ผิวหน้าอ่อนแอกว่าเดิม
• ใช้สกินแคร์ที่อ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมผิว
ปรนนิบัติผิวหลังจากการผลัดเซลล์ผิวหน้า โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เติมน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมามีสุขภาพดี แนะนำให้ลองเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบที่ไม่อุดตันรูขุมขนหรือครีมบำรุงผิวหน้าที่อ่อนโยนและมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา
BEST PEELING GELS TO TRY
ARCONA Raspberry Resurfacing Peel ผสานเอนไซม์จากผลราสเบอร์รี่ พร้อมด้วยกรดแลคติก ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังมีสารสกัดจากน้ำตาลช่วยลดความหมองคล้ำ เผยผิวที่แลดูกระจ่างใส สุขภาพดี
BAREMINERALS Ageless Radiance Facial Skin Peel ช่วยขจัดผิวเก่าที่หมองคล้ำ อ่อนล้าให้หลุดออกอย่างอ่อนโยนด้วยกรดแลคติกและเอนไซม์จากผลไม้ นอกจากนี้ยังช่วยต่อต้านแบคทีเรียพร้อมปลอบประโลมผิวให้สดชื่น
ELEMIS Papaya Enzyme Peel เอนไซม์จากมะละกอจะช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้ผิวลอก เป็นทางเลือกใหม่เพื่อการเผยผิวที่สดชื่น เรียบเนียน ชุ่มชื้นและอุดมไปด้วยแร่ธาตุ
LA MER The Micro Peel ทรีทเมนต์ระดับไมโครเพื่อผิวเนียนละเอียดในองค์รวม ออกแบบมาเพื่อการปรนนิบัติผิวด้วยตัวเองที่บ้าน ช่วยปรับสภาพผิวให้แลดูเนียนละเอียด เรียบเนียนขึ้น และมอบชีวิตชีวาให้ผิวในขณะที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวในเพียงข้ามคืน อีกทั้งยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขนให้แลดูเล็กลง เพื่อผิวที่ดูสุขภาพดีขึ้น เนียนละเอียด มีชีวิตชีวา และแข็งแรง
LANCER Caviar Lime Acid Peel ทำความสะอาดรูขุมขนและสิ่งสกปรกต่างๆ มอบพลังการทำความสะอาดพร้อมผลัดผิวด้วยเอนไซม์จากผลมะนาวคาเวียร์ ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน และ Lemon Peel Oil ที่ปรับผิวให้ดูสว่างกระจ่างใส
MURAD Replenishing Multi-Acid Peel ปรับสภาพผิวและช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนพร้อมเร่งขั้นตอนการผลัดผิวใหม่ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยจากแสงแดด เหมาะสำหรับผิวที่มีความกร้าน เป็นดั่งการบำรุงผิวข้ามคืนที่คิดค้นจากส่วนผสมแอคทีฟมากมาย ทำงานร่วมกันให้ผิวดูกระชับ
PHILOSOPHY Microdelivery Resurfacing Peel 2 ขั้นตอนดูแลผิวแบบไม่ต้องเข้าคลินิก อัดแน่นด้วย AHA 4% วิตามินซี, ไนอะซินาไมด์, เปปไทด์ และกรดไฮยาลูรอนิก เพื่อเผยผิวและปรับให้แลดูกระจ่างใส เริ่มจากสครับเนื้อละเอียด ขัดวนให้ทั่วใบหน้า เน้นนวดเบาๆ บริเวณจมูก และคาง เพื่อกำจัดสิวเสี้ยน จากนั้นตามด้วย Peeling Gel แล้วล้างออกให้สะอาดหมดจด
SATURDAY SKIN Rub-A-Dub Refining Peel Gel เจลขัดผิวสูตรอ่อนโยนต่อผิว ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกพร้อมเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสยิ่งขึ้น พร้อมการบำรุงด้วยสารสกัดจากมะละกอ และสับปะรด
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF ARCONA, BAREMINERALS, ELEMIS, LA MER, LANCER, MURAD, PHILOSOPHY, SATURDAY SKIN
STOCK PHOTOS: Image by cookie_studio on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่