Richard Orlinski ศิลปินและประติมากรที่ทั่วโลกคุ้นเคยกับผลงานของเขาเป็นอย่างดี ได้มาร่วมพลิกโฉมนาฬิกา Hublot Classic Fusion Orlinski Bracelet ด้วยสไตล์อันทันสมัยของสายสร้อยข้อมือโลหะใหม่
Hublot Classic Fusion Orlinski Titanium Bracelet ศิลปินชื่อดังชาวฝรั่งเศส Richard Orlinski (ริชาร์ด ออร์ลินสกี) จับมือร่วมงานกับแบรนด์นาฬิกา Hublot (อูโบลท์) มาตลอดระยะเวลาห้าปีแล้ว พร้อมทั้งได้ฝากผลงานศิลปะและประติมากรรมนาฬิกาข้อมือที่สร้างสรรค์ขึ้นร่วมกันและสร้างความสำเร็จของทั้งคู่มาแล้วผ่านนาฬิกา Orlinski รุ่นต่างๆ ซึ่งล่าสุดในปีนี้ Hublot และ Richard Orlinski ยังได้เปิดตัวนาฬิกาลุคใหม่ กับดีไซน์โดดเด่นของหน้าปัดเซรามิกตกแต่งด้วยเหลี่ยมมุม สไตล์เอกลักษณ์ในผลงานประติมากรรมของ Orlinski รวมทั้งผสานไว้ด้วยการออกแบบสายสร้อยข้อมือโลหะผสานรูปแบบใหม่ สะท้อนถึงชั้นเชิงและเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานอันเลื่องชื่อของศิลปินคนนี้ได้อย่างลงตัว
เมื่อ Hublot เผยโฉมนาฬิการุ่นแรกซึ่งผ่านการสลักปั้นโดยฝีมือของ Richard Orlinski ขึ้นในไมอามี เมื่อเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2017 ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และนั่นนับเป็นครั้งแรกที่ผลงานศิลปะของ Orlinski ได้บอกเล่าถึงเวลา โดยนับตั้งแต่การเปิดตัวนาฬิการุ่นแรก Hublot ในฐานะช่างนาฬิกาสวิส และศิลปิน Richard Orlinski ก็ได้มอบมิติใหม่ของเรือนเวลาที่เปรียบเหมือนประติมากรรมและศิลปะที่สามารถสวมใส่ได้บนข้อมือให้กับคอลเลกชันผลงานแห่งความร่วมมือครั้งพิเศษ ทั้งยังคงไว้ด้วยการแสดงออกถึงสไตล์เชิงเหลี่ยมมุมอันเป็นต้นตำรับในผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้นี้ไว้เสมอ
โดยหลังจากนั้น Richard Orlinski ก็ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกครอบครัว Hublot Loves Art เช่นเดียวกับศิลปินชื่อดังอีกมากมาย อย่าง Shepard Fairey (เชพเพิร์ด แฟรี่), Maxime Pleascia-Buchi (แม็กซิม เพลสเซีย-บุชชี), Marc Ferrero (มาร์ค เฟอร์เรโร) และ Takashi Murakami (ทาคาชิ มุราคามิ) ขณะที่ Orlinski เองยังนับเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยชาวฝรั่งเศสที่มีผลงานขายดีที่สุดในโลก
และในวันนี้ Hublot และ Richard Orlinski ได้เริ่มต้นออกเดินทางอีกครั้ง สู่ขั้นใหม่แห่งเส้นทางความร่วมมือ ผ่านการนำเสนอผลงานาฬิกาทั้ง 4 เวอร์ชันของ Classic Fusion Orlinski Bracelet ที่โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะการประกอบคู่มากับ สายสร้อยข้อมือโลหะผสานรูปแบบใหม่ ซึ่งเหล่าบรรดาช่างนาฬิกาต่างรู้ดีว่ามันคือความท้าทายอย่างมากในการออกแบบสายสร้อยข้อมือประเภทนี้ขึ้น โดยต้องมั่นใจว่าสายสร้อยข้อมือนี้จะสามารถผสานทั้งเชิงจักรกลและความสวยงามได้อย่างสมบูรณ์แบบเข้ากับตัวเรือนนาฬิกา ทั้งยังต้องมอบความสะดวกสบายในการสวมใส่ ที่พร้อมจะรับไปกับทุกๆ ขนาดของข้อมือ
กระนั้น ความท้าทายนี้ก็สามารถพิชิตความสำเร็จได้โดยทีมวิศวกรของ Hublot ที่อาศัยความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคทั้งหมดในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีเหลี่ยมมุม รวมถึงขอบขัดเงาและเหลี่ยมด้านต่างๆ มาเพื่อรังสรรค์นิยามและบุคลิกอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับนาฬิการุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น บนตัวเรือน ขอบด้านข้าง เม็ดมะยม และสายสร้อยข้อมือโลหะ ซึ่งถ่ายทอดไว้ด้วยเทคนิคเชิงสถาปัตยกรรมอันประณีต ผ่านการขัดขอบลบมุมและเหลี่ยมด้านจากวัสดุไทเทเนียมที่มีองค์ประกอบถึง 83 ส่วน ทั้งยังได้แรงบันดาลใจมาจากประติมากรรมของ Richard Orlinski ด้วยรูปทรงขอบขึ้นมุมต่างๆ ที่ล้วนเผยเป็นภาพของการเล่นกับแสงสะท้อนบนพื้นผิวเหลี่ยมด้านต่างๆ ซึ่งผ่านการขัดเงาแบบกระจก ส่วนบนข้อสายรูปทรง ‘H’ ยังชวนให้นึกถึงโลโก้สัญลักษณ์ของ Hublot ขณะที่สายสร้อยข้อมือรูปแบบใหม่นี้ถูกเชื่อมต่อเข้ากับตัวเรือนนาฬิกาได้อย่างกลมกลืน จากเหลี่ยมด้านที่ขยายออกและบรรจบเข้ากับตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.0 มิลลิเมตร และหนา 11.1 มิลลิเมตรได้อย่างสมบูรณ์ จึงเหมาะสำหรับทุกขนาดข้อมือและทุกเพศทุกวัย
และภายใต้ตัวเรือนไทเทเนียมขัดเงายังผสานไว้ด้วยการทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre HUB1100 ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 เฮิรตซ์ ที่มอบการสำรองพลังงานได้นาน 42 ชั่วโมง โดยประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนกลไก 63 ชิ้น และทับทิม 21 เม็ด พร้อมฟังก์ชันการแสดงเวลา ชั่วโมง นาที และวินาที ด้วยเข็มชี้กลาง ที่ติดตั้งบนหน้าปัดทำจากเซรามิกสีดำหรือสีขาว สะท้อนเหลี่ยมด้านเชิงมุมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Richard Orlinski ไว้อีกด้วย รวมถึงยังคงประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 5 ATM หรือ 50 เมตร
อัญมณีแห่งศิลปะของนาฬิกา Classic Fusion Orlinski Bracelet มีให้เลือกทั้งในเวอร์ชันประดับตกแต่งด้วยเพชรไว้บางส่วนของสายสร้อยข้อมือแบบผสานใหม่ รวมถึงบนเหลี่ยมด้านมุมของตัวเรือน ซึ่งรับไปกับสไตล์ของเรือนเวลาได้อย่างดีด้วยการเล่นกับแสงและเงา บนเหลี่ยมด้านที่ชัดเจนของตัวเรือน ขอบตัวเรือน และสายสร้อยข้อมือซึ่งประดับตกแต่งด้วยเพชร น้ำหนักรวม 3.79 กะรัต
“ในฐานะประติมากร การแสดงออกถึงศิลปะของผมบนนาฬิกาข้อมือซึ่งมีพื้นที่เพียงไม่กี่เซนติเมตรของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางนั้น เปรียบเสมือนผืนผ้าใบแห่งความท้าทายอย่างแท้จริง และด้วยผลงานสร้างสรรค์บนสายแบบสร้อยข้อมือด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เรือนเวลานี้มีความซับซ้อนมากขึ้นสำหรับทีมวิศวกร ณ โรงงานการผลิตของ Hublot กระนั้น ด้วยองค์ความรู้ทางเทคนิคที่ไม่อาจเทียบเคียงได้ของ Hublot เราจึงสามารถบรรลุถึงภารกิจอันท้าทายนี้ได้อย่างงดงาม” Richard Orlinski, Hublot Ambassador”
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF HUBLOT
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่