ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญและจิตวิญญาณการเป็นนักสร้างสรรค์ของทั้งคู่ สำหรับ Hublot และ Berluti ที่ล่าสุดได้เผยโฉมนาฬิกาเฉดสีเทาใหม่ใน Hublot Big Bang Unico Berluti Aluminio ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือน
Hublot Big Bang Unico Berluti Aluminio หลังจากจับมือร่วมงานกันมาเป็นเวลาห้าปี นับตั้งแต่ในปีค.ศ. 2016 ของการประกาศความร่วมมือระหว่างสองเฮาส์ใหญ่ต่างโลกแห่งการประดิษฐ์สร้างสรรค์ผลงาน ทั้ง Hublot (อูโบลท์) ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาสวิสที่แตกต่างและล้ำสมัย และ Berluti (เบอร์ลูติ) เฮาส์แห่งแฟชั่นสำหรับสุภาพบุรุษชื่อดังจากปารีส ที่ทั้งคู่ได้สานต่อสัมพันธภาพและความร่วมมือ รวมถึงแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญในสาขาการสร้างสรรค์ของตนเพื่อนำมาสู่การเปิดตัวนาฬิกา Big Bang Unico รุ่นใหม่ๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ ความสง่างาม และความกลมกลืนที่ได้มาจากการหล่อหลอมระหว่างองค์ความรู้ด้านการประดิษฐ์นาฬิกา รวมถึงศาสตร์และศิลปะแห่งโลกแฟชั่น
ซึ่งในรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ยังคงครองความพิเศษสำหรับนักสะสมเรือนเวลาและแฟชั่นชั้นสูง โดยเฉพาะการผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนเท่านั้น และยังคงเป็นการร่วมกันตีความขึ้นใหม่ให้กับนาฬิกา Big Bang Unico ซึ่งถือเป็นรุ่นยอดนิยมและประสบความสำเร็จอย่างสูงตลอดกาลของ Hublot พร้อมทั้งการเดินหน้าสำรวจและค้นพบเฉดสีเทาทรงเสน่ห์ใหม่ที่ได้มาจากวัสดุอันล้ำสมัย ขณะเดียวกันก็เติมเต็มไว้ด้วยเทคนิคชั้นยอดอันป็นต้นตำรับไม่เหมือนใครของ Berluti อีกด้วย
โดยผลลัพธ์ที่ได้นั้น คือการหลอมรวมระหว่างแฟชั่นและการประดิษฐ์นาฬิกาอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสูตรใหม่ของการผสมผสานระหว่างหนังและไทเทเนียม ที่แต่งเติมภายใต้รูปทรงและดีไซน์ที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวภายในผลงานรุ่นใหม่ของทั้งคู่ สำหรับรุ่น Big Bang Unico Berluti Aluminio กับเฉดสีเทาเปี่ยมเสน่ห์ที่ดึงดูดสายตาได้ตั้งแต่แรกเห็น แม้จะดูเรียบง่ายและเคร่งขรึม แต่นี่คือรูปโฉมโมโนโครมที่จะอยู่เหนือกาลเวลา และเหมือนกันกับทุกๆ รุ่นแห่งความร่วมมือของ Hublot และ Berluti ที่รุ่นนี้จะผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษเพียง 100 เรือนสำหรับเหล่านักสะสมและผู้ซึ่งหลงใหลในแฟชั่นและเรือนเวลาตัวจริง
ซึ่งแน่นอนว่า จุดเด่นของรุ่นย่อมหนีไม่พ้นการผสมผสานไว้ด้วยสัญลักษณ์สูงสุดของ Berluti ที่แฟนๆ ของแบรนด์นี้ย่อมสังเกตเห็นได้ในทันที กับการใช้หนังเวเนเซีย (Venezia leather) เหลือบเงาของ Berluti มาตกแต่งเป็นลูกเล่นและเป็นพระเอกหลักของนาฬิกา ไม่ว่าจะเป็นการใช้หนังมาประกอบบนขอบตัวเรือนไทเทเนียมและยึดด้วยสกรูหกตัว หรือบนหน้าปัดหนังซึ่งบรรจุไว้ด้วยตัวเลขอารบิก เครื่องหมายมาร์กเกอร์บอกชั่วโมง รวมถึงคำว่า “Swiss Made” ที่เป็นการปั้มลงบนพื้นผิวของหนังเฉดสีเทานี้โดยตรง โดยติดตั้งและยึดหน้าปัดหนังนี้ไว้ระหว่างกระจกแซฟไฟร์สองชิ้น ส่วนบริเวณศูนย์กลางของหน้าปัดนั้นถูกตัดออก เพื่อเปิดโชว์ให้เห็นชิ้นส่วนขับเคลื่อนการทำงานของกลไก Unico พร้อมทั้งส่วนของหน้าปัดย่อยจับเวลาโครโนกราฟที่ 3 นาฬิกา ซึ่งซ้อนด้วยช่องหน้าต่างแสดงวันที่ และหน้าปัดแสดงวินาทีเล็กที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา โดยแสดงเวลาและการจับเวลาได้อย่างชัดเจนด้วยเข็มชี้บรรจุด้วยสารเรืองแสง
นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันกับ Berluti ยังได้นำมาสู่การพัฒนาเทคนิคพิเศษ เพื่อให้สามารถรักษาเหลือบสีธรรมชาติของหนังให้คงทน ซึ่งด้วยวิธีการนี้ ความสวยงามของหนังและหน้าปัดนาฬิกาเองจึงถ่ายทอดออกมาในรูปลักษณ์ที่เป็นต้นตำรับขนานแท้และมีความคงทนถาวร ขณะที่ตัวสายนาฬิกาก็นับเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของการผสมผสานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างสองโลกแห่งแฟชั่นและการประดิษฐ์เรือนเวลา โดยในรุ่นนี้มีให้เลือกในสองเวอร์ชั่นสาย คือระหว่างสายซึ่งทำจากหนัง Aluminio Venezia เหลือบเงา และอีกสายหนึ่งเป็นหนัง Aluminio Venezia เหลือบเงา ตกแต่งลวดลาย Scritto เอกซ์คลูซีฟสำหรับประเทศญี่ปุ่น
สำหรับเทคนิค Aluminio (อลูมินิโอ) ที่นำมาใช้ผสมผสานเข้ากับการประดิษฐ์สายนาฬิกานี้ยังนับเป็นหนึ่งในศิลปะการทำ patina (พาติน่า) หรือคราบลายบนหนังที่เป็นเอกลักษณ์ของ Berluti ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นๆ นอกเหนือไปจากลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์และมีความเป็นธรรมชาติสูงแล้ว ยังสามารถช่วยในการเหนี่ยวนำแสงมาสู่โทนสีต่างๆ ที่อยู่บนหนัง Venezia และเกิดเป็นเอฟเฟกต์แสงสะท้อนที่สวยงามและแตกต่างกันไปอีกด้วย
ขณะที่ในผลงานสุดพิเศษแห่งความร่วมมือรุ่นนี้ Hublot เองได้รับผิดชอบในการออกแบบขอบตัวเรือนรูปลักษณ์ใหม่ ที่ประกอบด้วยสองส่วนหลักๆ ซึ่งได้มาจากการใช้เรซินแข็งและเหนียวเข้ามาช่วย โดยขอบตัวเรือนชิ้นแรกนั้นทำจากหนังที่มีความหนาราว 1.0 มิลลิเมตร และนำมาแทรกลงบนขอบตัวเรือนชิ้นที่สองซึ่งทำจากไทเทเนียมสีเทา จากนั้นจึงขันสกรูลงบนตัวเรือนนาฬิกา ซึ่งนั่นยังทำให้ขอบตัวเรือนนี้สามารถสร้างพาติน่าได้เมื่อเวลาผ่านไป เหมือนกันกับสายหนังนั่นเอง
และเพื่อนำหนัง Aluminio Venezia เหลือบเงามาผสมผสานไว้อย่างกลมกลืนเข้ากับองค์ประกอบทางจักรกล โรงงานการผลิต Hublot Manufacture จึงได้เลือกสรรจากหลากหลายวัสดุเพื่อนำมาใช้ในการประดิษฐ์นาฬิการุ่นนี้ กระทั่งได้มาเป็นการประกอบด้วยวัสดุสุดทนทานและน้ำหนักเบาอย่างไทเทเนียมที่ผ่านการขัดเงาและขัดด้านซาตินสำหรับผลิตเป็นตัวเรือนอันแข็งแกร่งด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.0 มิลลิเมตร และหนา 15.45 มิลลิเมตร รวมถึงตัวพับล็อกสายปรับระดับได้ทำจากไทเทเนียม ส่วนหูตัวเรือนกลางสำหรับเชื่อมต่อสายทำจากเรซิน และภายในองค์ประกอบของกลไกเองก็ยังมีโรเตอร์ขึ้นลานที่ทำจากทังสเตน และตกแต่งเข็มชี้ด้วยการชุบโรเดียมขัดด้านซาติน รวมถึงฝังด้วยสารเรืองแสงเพื่อช่วยในการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากความเชี่ยวชาญมากกว่า 40 ปีในการสร้างสรรค์งานออกแบบอันสมบูรณ์ลงตัวของ Hublot ที่เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกมิติและความหลากหลายของนวัตกรรมล้ำสมัย ทั้งทางด้านวัสดุสำหรับการประดิษฐ์นาฬิกาไปจนถึงการผสมผสานซึ่งศิลปะต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์ และมอบซึ่งผลลัพธ์เป็นความสง่างามด้วยสไตล์ที่แตกต่าง เช่นเดียวกันกับนาฬิกา Big Bang Unico Berluti Aluminio รุ่นนี้
ขับเคลื่อนภายในด้วยกลไก Unico MHUB1280 ซึ่งเป็นกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Flyback Chronograph ผลิตภายในโรงงานของตนเอง ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนรวม 354 ชิ้น และทับทิม 43 เม็ด ทำงานความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงหรือ 4 เฮิรตซ์ และสำรองพลังงานได้ถึงสามวัน โดยนอกจากสามารถชื่นชมการทำงานของกลไกชุดนี้ได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์สองชิ้นที่ยึดหนังไว้บนด้านหน้าปัดแล้ว ส่วนของฝาหลังยังติดตั้งไว้ด้วยช่องกระจกแซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อน และรายล้อมด้วยไทเทเนียมขัดด้านซาตินที่สลักด้วยคำว่า ‘LIMITED EDITION 100NUM’ และ ‘BERLUTI’ อีกด้วย ทั้งยังคงประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึก 100 เมตร นับเป็นผลงานหายากและร่วมสมัยที่ Big Bang Unico Berluti Aluminio ยังส่งมอบมากับกล่องนาฬิกาสุดพิเศษ และกระเป๋าเก็บนาฬิกาสำหรับเดินทาง รวมถึงพวงกุญแจรูปช้อนรองเท้าประทับโลโก้ Berluti สำหรับผู้ที่ได้ครอบครองนาฬิการุ่นพิเศษเพียง 100 เรือนนี้อีกด้วย
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF HUBLOT and BERLUTI
MUSIC: Death Row by TheDICE (c) copyright 2013 Licensed under a Creative Commons Attribution (3.0) license. http://dig.ccmixter.org/files/TheDICE/43955 Ft: Mana Junkie
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่