เปลี่ยนเล็บเสียเป็นเล็บสวย ด้วยเคล็ดลับฟื้นฟูเรียวเล็บจากการทำเล็บเจล พร้อมอัพเดทผลิตภัณฑ์บำรุงเรียวเล็บและจมูกเล็บ ให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง
สาวๆ ที่ชื่นชอบการทำเล็บคงคุ้นเคยกับการทำเล็บเจลเป็นอย่างดี ด้วยเป็นการตกแต่งเล็บซึ่งทำให้สีเล็บติดทนทาน ไม่หลุดลอกง่ายเหมือนการใช้ยาทาเล็บทั่วไป เพราะมีการอบด้วยเครื่องอบ UV หรือแบบ LED และแบบอื่นๆ ที่ทำให้สีเล็บแข็งตัว แม้การทาเล็บเจลจะทำให้เล็บสวยน่ามองก็จริง แต่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาเล็บบาง เล็บฉีก เกิดแผล จนอาจนำไปสู่การติดเชื้อ หรือหากทำเล็บเจลบ่อยๆ ก็อาจได้รับอันตรายจากรังสียูวี จนเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน
ว่าแต่ทำไมบางคนถึงทาเล็บเจล เหตุผลหลักๆ ก็คือหากทาสีเล็บเจลถูกวิธี เล็บเจลจะติดแน่นทนทาน อยู่ได้นานโดยไม่ลอกร่อน ต่างจากยาทาเล็บธรรมดา นอกจากจะติดทนแล้ว สีเล็บเจลยังดูมันวาว สวยงามกว่ายาทาเล็บแบบอื่นๆ มากไปกว่านั้น การทาเล็บเจล ยังช่วยให้เล็บสวยน่ามองขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเล็บ เช่น เล็บสีผิดปกติจากโรคบางชนิด เนื่องจากยาทาเล็บทั่วไปอาจกลบสีเล็บที่ผิดปกติไม่มิด แต่การทาเล็บเจลสามารถทำได้สวยเรียบเนียนมากกว่า
ทั้งนี้ ก็อาจมีคนที่ไม่เหมาะกับการทาเล็บเจลเช่นกัน สาวๆ คนไหนมีอาการเข้าข่ายดังต่อไปนี้ ระวังสักนิดก่อนคิดจะทำเล็บเจล
- ผู้ที่มีเล็บอ่อนแอหรือเปราะบาง การทาเล็บเจล ต้องมีการตะไบตกแต่งทรงเล็บ รวมถึงตะไบหน้าเล็บทั้งในขั้นตอนก่อนทาและล้างเล็บ ซึ่งอาจทำให้เล็บบางกว่าเดิมและฉีกขาดได้
- ผู้ที่ผิวบอบบาง หรือแพ้ง่าย การทาเล็บเจลต้องใช้น้ำยาล้างเล็บเช็ดทำความสะอาดเล็บ และผิวหนังโดยรอบ รวมถึงใช้ล้างเล็บด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองได้
- ผู้ที่ไวต่อรังสียูวี การทาเล็บเจลต้องมีการอบเล็บด้วยรังสียูวีเอ เพื่อทำให้ยาทาเล็บเจลแข็งขึ้น และติดแน่นไปกับเล็บ ผู้ที่ไวต่อรังสียูวี ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยทางพันธุกรรม อาการป่วย หรือการใช้ยาหรืออาหารเสริม จึงไม่ควรทาเล็บเจล
ปัญหาสุขภาพที่มาพร้อมเล็บเจล
- จากศึกษาวิจัยพบว่า รังสียูวีจากเครื่องอบเล็บเจล แรงกว่ารังสียูวีจากดวงอาทิตย์ถึง 4 เท่า ผู้ที่ทาเล็บเจลเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มทาเล็บเจลตั้งแต่อายุยังน้อย อาจได้รับรังสียูวีสะสม เป็นเหตุให้เกิดปัญหาผิวหนัง เช่น ผิวหนังถูกทำลายจากรังสียูวี ผิวเสื่อมก่อนวัย รวมไปถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
- การทาและดูแลเล็บเจลผิดวิธี สามารถสร้างความเสียหายทางกายภาพให้กับเล็บได้ เนื่องจากต้องมีการตะไบก่อนทาสีและล้างเล็บ รวมไปถึงการแซะสีเล็บเจลออกจากเล็บ และตัดเล็บ จึงอาจทำให้เล็บบางลง หรือฉีกขาดได้
- การตัดหนังบริเวณโคนเล็บ (Cuticle) ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคออกระหว่างทำเล็บ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราได้
การดูแลสุขภาพเล็บ
เคล็ดลับง่ายๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น เล็บบางลง เล็บหัก ผิวหนังเหี่ยวย่น รวมถึงความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังจากการทำเล็บเจล
- สังเกตให้ดีว่าช่างทาเล็บทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกครั้งหรือไม่ หากไม่แน่ใจให้สอบถามช่างทำเล็บว่า เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ได้มาตรฐาน และผ่านการฆ่าเชื้อแล้วหรือยัง
- ก่อนทาเล็บเจล ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป มีคุณสมบัติกันน้ำ และมีขอบเขตในการออกฤทธิ์กว้าง (Broad spectrum) ช่วยป้องกันรังสีทั้งยูวีเอและยูวีบี เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ให้มือเป็นมะเร็งผิวหนัง และผิวหนังแก่ก่อนวัยจากรังสียูวีที่จะได้รับในขั้นตอนการอบเล็บ หรืออาจสวมถุงมือป้องกันรังสียูวีที่ตัดให้โผล่เฉพาะเล็บออกมาก็ได้
- หากทาเล็บเจล ควรบำรุงเล็บและผิวหนังโดยรอบ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น น้ำมันบำรุงเล็บ (Nail Oil) หรือทรีทเมนต์บำรุงเล็บให้แข็งแรง (Nail Strengthener) เป็นประจำ เพื่อให้เล็บคงความยืดหยุ่น และไม่เปราะฉีกง่าย
- ไม่ทำเล็บเจลติดต่อกันนานเกิน 1 เดือน และควรพักเล็บอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ก่อนทำเล็บครั้งต่อไป ระหว่างพักเล็บ อย่าลืมบำรุงเล็บเป็นประจำทุกวัน
- หากสีเล็บเจลที่ทาไว้เริ่มหลุดลอก อย่าพยายามแกะหรือแงะเล็บเจลออกเอง เพราะอาจทำให้เล็บเสียหายได้
- เวลาล้างเล็บเจล ไม่ควรให้น้ำยาล้างเล็บสัมผัสกับผิวหนังบริเวณอื่นนอกจากเล็บ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง
- หากเล็บอ่อนแอ เปราะบาง หรือผิวหนังแพ้ง่าย ควรทาสีเล็บแบบธรรมดาแทนการทาสีเล็บเจล หรือใช้สติ๊กเกอร์ติดเล็บก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เวิร์คไม่แพ้กัน
1. BLOSSOM Scented Cuticle Oil Cherry
น้ำมันบำรุงจมูกเล็บ โดดเด่นด้วยน้ำมันสกัดธรรมชาติผสมผสานกับดอกไม้จริงที่บรรจุอยู่ในขวด ช่วยบำรุง เพิ่มความชุ่มชื้น
และซ่อมแซมจมูกเล็บให้กลับมานุ่มนวลและสุขภาพดี
2. NAILS INC. NailKale Superfood Nail Oil Capsules
ดูแลเล็บและจมูกเล็บให้แข็งแรงและชุ่มชื้นอยู่เสมอด้วยน้ำมันบำรุงผสานสารสกัดจากเคลและเซเลอรี่
อีกทั้งยังช่วยให้เล็บไม่เปราะหรือแตกหักง่าย ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้งานง่าย
3. GUCCI Nail Art Stickers
เสกเล็บสวยหรูได้ง่ายๆ ด้วยสติ๊กเกอร์ตกแต่งเล็บจากกุชชี่ สามารถใช้ติดตกแต่งได้ทั้งเล็บมือและเล็บเท้า
ช่วยให้เล็บมีลวดลายสวยงามและสามารถตกแต่งเองได้ตามใจชอบ
4. MAC Nail Adornment Set
ชุดสติ๊กเกอร์ตกแต่งเล็บประดับคริสตัล มาในดีไซน์ดอกไม้สุดน่ารัก พร้อมให้สาวๆ ได้รังสรรค์เรียวเล็บให้สดใสไม่เหมือนใคร
5. DEBORAH LIPPMANN The Cure Nail Cuticle Repair Cream Treatment
เชียบัตเตอร์ สาหร่ายสีแดง และสารสกัดจากราสพ์เบอร์รี่ รวมพลังช่วยกักเก็บความชุ่มชื่น คืนผิวนุ่มละมุนสู่จมูกเล็บ อีกทั้งยังช่วยบำรุงเล็บที่เปราะให้แข็งแรงขึ้น
6. SUPERGOOP! Mini Handscreen Sunscreen SPF 40
ครีมกันแดดที่ออกแบบมาสำหรับผิวมือโดยเฉพาะ สูตรบางเบาซึมเร็วที่จะปกป้องหนึ่งในจุดที่ไวต่อแสงแดดของร่างกายอย่างผิวมือ
ด้วย SPF 40 พร้อมการบำรุงจากสารต้านอนุมูลอิสระและน้ำมันสกัดธรรมชาติ
7. CND Rescue RXx Daily Keratin Treatment Pen
ฟื้นฟูเล็บเสียจากการทำเล็บเจลให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ด้วยทรีทเมนต์สูตรเข้มข้น ผสานเคราตินและน้ำมันโจโจ้บา
ในรูปแบบปากกาพกพาง่าย พร้อมให้สาวๆ บำรุงเรียวเล็บได้ทุกที่ทุกเวลา
8. JULEP Oxygen Nail Treatment
ทรีทเมนต์บำรุงจมูกเล็บ ด้วยสารสกัดจากน้ำมันอัลมอนด์ คืนความชุ่มชื้นให้กับจมูกเล็บที่แห้ง
ทาลงบนจมูกเล็บบางๆ แล้วนวดวนเบาๆ ให้น้ำมันซึมเข้าบำรุงได้ดียิ่งขึ้น
9. CUCCIO Naturale Cuticle Revitalizing Oil
น้ำมันบำรุงจมูกเล็บสีชมพูสดใสขวดนี้ จะช่วยให้หนังกำพร้าและเล็บแลดูเปล่งประกายสุขภาพดี
ผลิตจากน้ำมันสกัดเย็นผสานวิตามิน ให้ความชุ่มชื้นเข้มข้นโดยไม่ทิ้งส่วนเกินบนผิว
10. L’OCCITANE Shea Nail & Cuticle Oil
น้ำมันบำรุงเล็บและจมูกเล็บที่อุดมไปด้วยเชียบัตเตอร์ และสารอาหารสำหรับเล็บ ช่วยให้จมูกเล็บเนียนนุ่ม
และเล็บแข็งแรงขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ แนะนำให้ใช้นวดบนเล็บเป็นประจำโดยไม่ต้องล้างออก
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF BLOSSOM BEAUTY, NAILS INC., GUCCI, MAC COSMETICS, DEBORAH LIPPMANN, SUPERGOOP!, CND, JULEP, CUCCIO, L’OCCITANE
STOCK PHOTO: Fingernails photo created by valuavitaly, Racool studio (www.freepik.com)
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่