เพราะบ้านที่เป็นระเบียบ ไม่ใช่แค่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ แต่ยังดีต่อสุขภาพกายและใจ Padthai.co ชวนทุกคนงัดสกิลนักจัดระเบียบบ้านพิชิตความรกและข้าวของเป็นกองพะเนิน พร้อมอัพเดทเทียนหอมหลากหลายแนวกลิ่น สร้างบรรยากาศสุดโฮมมี่อย่างมีสไตล์
บ้านใครรกจนรังหนูยังอายยกมือขึ้น! มาทำความสะอาด เคลียร์บ้านให้โล่งโปร่งสบาย เพื่อสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงกันเถอะ ว่าแต่การเก็บกวาดบ้านให้สะอาด จัดบ้านเป็นประจำแล้วดียังไง ไปดูกันเลย
1. ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์
ผลการศึกษาและงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า คนที่อาศัยและทำงานในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและเป็นระเบียบ จะสามารถโฟกัสกับงานและสร้างสรรค์งานได้ดีกว่าคนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมรกๆ เมื่อผลงานของเราออกมาดี หน้าที่การงานก็จะเติบโตก้าวกระโดดได้อย่างรวดเร็ว หรือหากเป็นฟรีแลนซ์ เมื่อผลงานดีมีคุณภาพในทุกๆ ชิ้น ก็จะมีงานเข้ารัวๆ มีรายได้เป็นกอบเป็นกำตามมา
2. ช่วยคลายเครียด
การเก็บบ้านให้สะอาด จัดบ้านให้เป็นระเบียบ สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ จากงานวิจัยพบว่าผู้หญิงที่อยู่บ้านรกๆ จะมีระดับของคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด สูงกว่าผู้หญิงที่อยู่ในบ้านที่สะอาด เก็บกวาดเป็นระเบียบ เรียกว่าใครอยากหาวิธีคลายเครียดแบบที่ไม่ต้องเสียทรัพย์ แถมดีต่อสุขภาพ แนะนำให้รีบกลับไปจัดบ้านโดยด่วน
3. เก็บบ้านให้สะอาด เท่ากับออกกำลังกาย
การทำความสะอาดบ้านหรือจัดบ้านเท่ากับได้เคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา แม้ผลลัพธ์ที่ได้ จะไม่ได้เหมือนกับการออกกำลังกายแบบฮิต (HIIT) หรือการคาร์ดิโอแบบหนักหน่วง แต่การเก็บบ้านให้สะอาดก็ยังเผาผลาญพลังงานและช่วยเพิ่มความฟิตได้ดีกว่าการนั่งเฉยๆ โดยผู้เชี่ยวชาญเผยว่า การทำความสะอาดบ้าน หรือทำงานบ้านหนึ่งชั่วโมง จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 100-300 กิโลแคลอรี่ แล้วแต่ประเภทของกิจกรรมที่ทำ งานนี้ นอกจากบ้านจะสะอาดขึ้นแล้ว ยังอาจช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย
4. ช่วยลดอาการภูมิแพ้และหอบหืด
การอยู่ในบ้านรกๆ ฝุ่นเขรอะ พรมไม่เคยดูดฝุ่น ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนไม่เคยถอดไปซัก หรือตามซอกมุมของบ้านชื้นแฉะจนราขึ้น ถือเป็นสุดยอดตัวกระตุ้นปฏิกิริยาภูมิแพ้ ทั้งยังทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง และสามารถทำให้อาการของโรคหอบหืดกำเริบได้ด้วย ฉะนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า ใครที่เป็นภูมิแพ้ หอบหืด หรือมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเหล่านี้ ควรทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ เพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้และมลพิษทางอากาศ หากของชิ้นไหนไม่จำเป็นต้องใช้ ก็ควรเก็บทิ้งหรือนำไปบริจาคบ้าง อย่าปล่อยให้บ้านรกเกินไป
5. ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
หลายคนอาจคิดว่าห้องน้ำเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่น่าเป็นห่วงที่สุดในบ้าน แต่จริงๆ แล้ว ภายในบ้านยังมีอีกหลายจุดที่มักมีเชื้อโรคสะสม และเราอาจมองข้ามไป หนึ่งในนั้นก็คือ ห้องครัว นั่นเอง เพราะทั้งบริเวณพื้นที่ทำครัว อ่างล้างจาน หรือแม้แต่ในตู้เย็น ก็อาจมีเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ก่อตัวอยู่โดยที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน เมื่อเราทำอาหาร หรือหยิบอาหารในตู้เย็นออกมากิน ก็อาจทำให้ติดเชื้อและป่วยได้ เช่น โรคอาหารเป็นพิษ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ควรทำความสะอาดทั่วบ้านให้สะอาด โดยเฉพาะในห้องน้ำ และห้องครัว
6. บ้านสะอาด = คนในบ้านปลอดภัย
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า อุบัติเหตุ ลื่น หกล้ม และไฟไหม้ ถือเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บและการเสียชีวิตในบ้านที่พบได้บ่อยที่สุด ลองนึกภาพตามดูว่าหากเราเดินลงบันได แต่ดันสะดุดกล่องพัสดุที่แกะแล้ววางทิ้งส่งๆ ไว้ ไม่เก็บไปทิ้งให้เรียบร้อย แถมยังซวยซ้ำซวยซ้อน เหยียบโดนเศษอาหารที่ทำหกไว้ สุดท้ายเลยลื่นตกบันได หัวแตก ข้อเท้าแพลง ต้องรีบหามส่งห้องฉุกเฉิน
เหตุการณ์ที่ยกตัวอย่างมานี้ เรียกได้ว่าแค่น้ำจิ้ม เพราะบ้านรกๆ ข้าวของกองระเกะระกะ ไม่ทำความสะอาด ยังสามารถก่อให้เกิดอุบัติไม่คาดคิดที่รุนแรงได้มากกว่านี้ ในบางกรณีอาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้เลยด้วย ฉะนั้น หากใครอยากอยู่บ้านอย่างปลอดภัย ก็ควรเก็บบ้านให้สะอาด จัดบ้านบ่อยๆ อย่าปล่อยให้บ้านรกเกินไปเป็นดีที่สุด
ในเมื่อจัดระเบียบบ้านได้ดั่งใจ การสร้างบรรยากาศชวนอบอุ่นสำหรับบ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน เทียนหอมหลากหลายแนวกลิ่นจึงเป็นไอเท็มที่คนรักบ้านต้องมี เพื่อสร้างกลิ่นหอมและมู้ดแอนด์โทนชวนอบอุ่นผ่อนคลาย
ก่อนจะเลือก ‘เทียนหอม’ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแต่ละห้องของบ้าน…ลองมาดูความสัมพันธ์ของกลิ่นหอมและความรู้สึกกันก่อนว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร และทำไมคนเราถึงชอบอะไรหอมๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมจากร่างกาย, อาหาร, เสื้อผ้า หรือกลิ่นหอมจากสถานที่ที่เราไปเช็กอิน
นั่นเป็นเพราะ ‘กลิ่น’ มักส่งผลกับความรู้สึก และอารมณ์ของเรา โดยทุกครั้งที่เราได้กลิ่นหอม สมองจะกระตุ้น และดึงความทรงจำของเราขึ้นมา ส่งผลให้เรานึกถึงสิ่งต่างๆ ตามกลิ่นที่ได้รับ และทำให้ความรู้สึกของเราเปลี่ยนไปตามกลิ่นนั้นๆ ได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า ถ้าลองสังเกตกลิ่นจะเห็นได้ชัดว่า บางห้างฯ สร้างกลิ่นให้ดูสนุก บางห้างฯ สร้างกลิ่นให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบ และในส่วนกลางคอนโด หรือบ้านก็มักเลือกออกแบบกลิ่นหอมให้มีลักษณะเฉพาะแต่ละห้อง แต่ละโซน เพื่อออกแบบความรู้สึกของผู้ที่ได้รับกลิ่นตั้งแต่ก้าวแรก
ซึ่ง ‘เทียนหอม’ ก็เป็นหนึ่งในไอเท็มสุดฮิตที่คนนิยมนำมาสร้างอโรม่ากลิ่นหอม เปลี่ยนบรรยากาศในห้องของคอนโด หรือบ้าน เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องกลิ่นหอม และดีไซน์ที่หลากหลายเข้ากับได้ทุกโซน ทุกห้องของเราอย่างกลมกลืน
แต่ที่มักจะเป็นคำถามชวนสงสัยก่อนซื้อว่า ‘แล้วห้องเราควรเลือกเทียนหอมกลิ่นไหน?’ ‘แต่ละห้องกลิ่นไม่ซ้ำกันได้ไหม?’ วันนี้ถ้ายังไม่มีกลิ่นหอมที่ชอบในใจ ลองมาค้นหาคำตอบไปพร้อมๆ กันได้เลย
ห้องนั่งเล่น :
ที่เป็นทั้งห้องต้อนรับชาวแก๊งเพื่อนซี้ และเป็นห้องแรกที่ต้อนรับเราจากความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน ดังนั้นเป็นควรเลือกกลิ่นที่มีความหอมสดชื่นแนว Fruity หรือ Citrus เช่น กลิ่นตระกูลเบอร์รี่ ตระกูลส้ม เลม่อน แอปเปิ้ล หรือเนโรลี เพื่อให้ความรู้ผ่อนคลายทั้งความอ่อนล้า แต่ในทางกลับกันก็สร้างบรรยากาศสดชื่นไว้ต้อนรับแขกได้
ห้องนอน :
พื้นที่แห่งการพักผ่อนที่แท้จริง ไม่ว่าจะนอนหลับ หรือนอนเล่นระหว่างวัน ดังนั้นภายในห้องนอนสามารถออกแบบกลิ่นเทียนหอมให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และนอนหลับสบายได้กับกลิ่นแนว Floral อย่างกลิ่นลาเวนเดอร์, มะลิ, กุหลาบ หรือกระดังงา
ห้องทำงาน :
สำหรับคนที่ยัง Work From Home หรือยกงานกลับมาทำที่บ้าน สามารถเลือกเทียนหอมที่สร้างฟีลการทำงาน ช่วยเปลี่ยนภาพจำจากคอนโด หรือบ้านเป็นสถานที่ทำงานได้ช่วงเวลานึง ซึ่งแนะนำให้เลือกกลิ่นเทียนหอมแนวๆ กลิ่นกาแฟ หรือแนว Herb & Spicy เช่น ยูคาลิปตัส, โรสแมรี่, ขิง และสะระแหน่ ซึ่งเป็นกลิ่นสดชื่นจากสมุนไพรเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง กระตุ้นความกระฉับกระเฉง คิดโปรเจ็คได้โลดแล่น
ห้องน้ำ :
เป็นห้องที่เพลิดเพลินไม่แพ้ห้องไหนๆ มีทั้งช่วงเวลาผ่อนคลาย ช่วงเวลาสบายใจมากมาย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียอารมณ์หรือขัดสุนทรีย์ ต้องเลือกกลิ่นหอมที่กลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น สมุนไพรไทยอย่างกลิ่นตะไคร้ หรือมะกรูด
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่แนวทางกลิ่นเทียมหอม ที่นำมาฝากสำหรับคนที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าจะซื้อเทียนหอมกลิ่นไหนไปเปลี่ยนบรรยากาศในห้อง แต่สุดท้ายแล้วกลิ่นที่เราชอบที่สุดก็คือกลิ่นที่สร้างความสุข ผ่อนคลายให้กับเราได้นั่นเอง
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF PRADA, FORNASETTI, LLADRÓ, DIPTYQUE, GINORI 1735, LOEWE, JO MALONE, PAUL SMITH
STOCK PHOTOS: Image by rawpixel.com on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่