H. Moser & Cie Endeavour Centre Seconds Genesis 


H. Moser & Cie เปิดประสบการณ์ยุคดิจิตัลผ่านเรือนเวลา Endeavour Centre Seconds Genesis 


Endeavour Centre Seconds Genesis ผลงานการเปิดตัวเรือนเวลาครั้งล่าสุดจาก H. Moser & Cie ที่นับเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของทั้งแบรนด์เองในฐานะผู้สร้างสรรค์นาฬิกา และกับลูกค้าของตนเอง ด้วยการนำเสนอเรือนเวลาที่มีรูปคล้าย QR Code แปลกตาอันมีแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยียุค Web 3.0 ให้ลูกค้าเข้าถึงบริการและสิทธิพิเศษผ่านนาฬิกาที่ลูกค้ากำลังสวมใส่อยู่ได้โดยตรง

H. Moser & Cie Endeavour Centre Seconds Genesis 

H. Moser & Cie คือหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาอิสระรายแรกๆ ที่ได้เริ่มเปิดตัวระบบการขายแบบ e-Commerce และ แพลตฟอร์ม CPO และได้พัฒนาโครงสร้างการดำเนินงานที่มีความเชื่อมโยงอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับการรองรับผลิตภัณฑ์ที่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ยกระดับความโปร่งใสและความปลอดภัย รวมถึงสิทธิพิเศษให้กับผู้ครอบครองเรือนเวลาของ H. Moser & Cie ที่สามารถเข้าถึงทั้งในโลกเสมือนที่แบรนด์สร้างสรรค์ไว้เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และพื้นที่พิเศษเฉพาะลูกค้าเท่านั้น

H. Moser & Cie Endeavour Centre Seconds Genesis 
H. Moser & Cie Endeavour Centre Seconds Genesis 

เรือนเวลามีความแปลกตาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในโลกนาฬิกามาก่อน ด้วยการออกแบบให้ขอบตัวเรือนและกระจกหน้าปัดมีลวดลายพิกเซล QR Code ที่นอกจากจะมีหน้าตาที่โดดเด่นแล้ว QR Code นี้สามารถนำมาสแกนผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเพื่อยืนยันตัวตนในระบบรับประกันนาฬิกา รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่างๆ จาก H. Moser & Cie ตัวเรือนสตีลพ่นทราย ขนาด 40 มิลลิเมตร หนา 11.3 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนและเม็ดมะยมรูปทรงพิกเซลผลิตจากไทเทเนียมด้วยวิธีการขึ้นรูปแบบ 3D printing กระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ได้รับการแกะสลักเป็นพิกเซล QR Code ภายใต้กระจกหน้าปัด คือพื้นหน้าปัด Vantablack® เทคโนโลยีแห่งสีดำสนิทที่สุดในโลก นำเสนอในสไตล์มินิมอลลิสที่เรียบง่ายเพียงการแสดงเวลาเป็นชั่วโมงและนาทีด้วยเข็มนาฬิกาสีดำทรงใบไม้ร่วมกับเข็มวินาทีกลางหน้าปัด 

H. Moser & Cie Endeavour Centre Seconds Genesis 

ส่วนภายในทำงานด้วยกลไก in-house ระบบอัตโนมัติ Cal. HMC 200 ขึ้นลานด้วยโรเตอร์โซลิดโกล์ด 18K สลักไว้ด้วยตราสัญลักษณ์ H. Moser hallmark และมีการใช้สปริงสายใยจาก Original Straumann® กลไกทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง ติดทับทิมกันสึกจำนวน 27 ชิ้น และสะสมพลังงานได้ยาวนาน 3 วัน ประกอบกับสายหนัง kudu สีเทา และตัวล็อกแบบหัวเข็มขัดสตีลพ่นทราย เรือนเวลาหรูแห่งยุคดิจิตัลเรือนนี้ ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้น


CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF H. MOSER & CIE
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon


สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn
On Key

Related Posts

“The Voice” Exhibition by Jamsan

Post Views: 21 จากผลงานในซีรีส์ดังเรื่อง “It’s Okay to Not Be Okay” สู่การสร้างสรรค์ศิลปะที่ละเมียดละไมและสะเทือนอารมณ์อย่างลึกซึ้ง ในนิทรรศการเด…

Your Tarot Weekly

Post Views: 57 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม – วันเสาร์ที่​ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ อำนาจพระเคราะห์ : กิร…

BMW The i7: Electrified Elegance. Inspired Innovation

Post Views: 31 บีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้ เผยโฉม  BMW The i7 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The i7 the Incredible 7 Series’ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% และ…

Van Cleef & Arpels L’Île au trésor

Post Views: 43 Van Cleef & Arpels พาไปพบกับคอลเลกชันเครื่องประดับชั้นสูง Treasure Island ถ่ายทอดเสน่ห์ของการออกเดินทางตามล่าขุมทรัพย์ Van Cleef &a…

Franck Muller Vanguard Curvex Cut Flower

Post Views: 38 Franck Muller เสนอเรือนเวลา Vanguard Curvex Cut Flower สะท้อนความงดงามของดอกไม้ที่ผลิบาน สู่เครื่องบอกเวลาประดับอัญมณีชั้นสูง Franck Mu…