Grand Seiko เผยโฉมเรือนเวลาที่ได้แรงบันดาลใจความงดงามของป่าน้ำแข็งผ่านรุ่น “Ice Forest” Spring Drive U.F.A. Limited Edition SLGB001
Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก) เผยโฉมเรือนเวลาที่ได้แรงบันดาลใจความงดงามของป่าน้ำแข็งผ่านรุ่น “Ice Forest” Spring Drive U.F.A. Limited Edition SLGB001 ที่มากับความก้าวหน้าอันน่าทึ่งของกลไก สปริงไดรฟ์ U.F.A. อัตราความแม่นยำรายปี จากการเปิดตัวครั้งแรกด้วยนาฬิกาลิมิเต็ด เอดิชัน จากความงดงามของป่าน้ำแข็งมรดกแห่งความแม่นยำในการสร้างนาฬิกาได้ก้าวขึ้นสู่ระดับด้วยการเปิดตัวกลไก สปริงไดรฟ์ Caliber 9RB2
ซึ่งได้รับการรับรองด้วยเกณฑ์มาตรฐาน U.F.A. ที่ย่อมาจาก “Ultra Fine Accuracy” (อัลตรา ไฟน์ แอคคิวเรซี) ซึ่งแปลว่า “ความแม่นยำระดับสูงเป็นพิเศษ” กลไกสุดล้ำนี้มอบความแม่นยำในระดับที่มิได้วัดเป็นวินาทีต่อวัน ต่อสัปดาห์หรือต่อเดือน แต่วัดจากความแม่นยำตลอดระยะเวลา 1 ปี กลไกอัตโนมัติ U.F.A. คาลิเบอร์นี้ให้อัตราความแม่นยำในการทำงานต่อปี ไม่เกิน 20 วินาที ทำให้เป็นกลไกนาฬิกาข้อมือขับเคลื่อนด้วยสปริงลานที่ทำงานได้แม่นยำที่สุดในปัจจุบัน
ในปีนี้ Caliber 9RB2 เปิดตัวครั้งแรกมาในคอลเลกชัน Evolution 9 (เอโวลูชั่น ไนน์) นาฬิการุ่นนี้เส้นผ่านศูนย์กลางของตัวเรือนแพลทินัม 950 ขนาดเพียง 37 มิลลิเมตร ดีไซน์หน้าปัดสีฟ้าบนลวดลายจากการกดประทับที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความงามของป่าน้ำแข็งแห่ง อันมีที่มาจากทิศตะวันออกของ Shinshu Watch Studio (ชินชู วอตช์ สตูดิโอ) คือที่ราบสูง Kirigamine (คิริกามิเนะ) ซึ่งสามารถพบเห็นเหล่าต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งได้ในช่วงฤดูหนาว
ลายผิวอันประณีตบนหน้าปัด จับภาพความงามของป่าน้ำแข็งแห่งนี้ด้วยเทคนิคการตกแต่งหลายชนิด ก่อให้เกิดโทนสีฟ้าอ่อนที่ดูละเมียดละไม โดดเด่นด้วยรูปแบบที่เป็นธรรมชาติ นำมาซึ่งการเป็นฉากหลังสุดประณีตให้กับการเคลื่อนไหวอันราบรื่นของเข็มวินาทีสีเงินนาฬิกาลิมิเต็ด เอดิชันรุ่นนี้
กลไกคาลิเบอร์นี้ ให้ความแม่นยำไม่เกิน 20 วินาทีต่อปี อันเป็นผลมาจากการใช้วิธีและกระบวนการการผลิตที่จากการใช้ Quartz Oscillator (ควอตซ์ ออสซิลเลเตอร์) ที่บ่มเป็นเวลา 3 เดือน และการออกแบบวงจรรวมขึ้นมาด้วยความถี่ของควอตซ์ ออสซิลเลเตอร์ แต่ละชิ้นจะวัดอุณหภูมิที่แตกต่างกันหลายระดับ โดยตั้งโปรแกรมไว้ที่วงจรรวมชนิดใช้พลังงานต่ำเช่นเดียวกับกลไก สปริงไดรฟ์ ซีรีส์ 9RA
ทั้งออสซิลเลเตอร์และเซ็นเซอร์ถูกผนึกแบบสุญญากาศ เพื่อลดความแตกต่างของอุณหภูมิและป้องกันผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น ความชื้น ไฟฟ้าสถิตและแสง สามารถปรับตั้งอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ และทำให้ ควอตซ์ ออสซิลเลเตอร์ มีประสิทธิภาพและมีความเสถียร อีกทั้งกลไกคาลิเบอร์นี้ ยังเป็นครั้งแรกที่กลไก สปริงไดรฟ์ มีสวิตช์ควบคุม สามารถปรับตั้งได้เมื่อทำการซ่อมบำรุง เพื่อปรับแก้ไขความคลาดเคลื่อนของความแม่นยำที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อนาฬิกาถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน ซึ่งสำรองพลังงานประมาณ 72 ชั่วโมง (3 วัน) สามารถกันน้ำที่ระดับ 10 บาร์ (100 เมตร) ประดับคู่สายหนังจระเข้ ติดตั้งบานพับสามทบปลดล็อคด้วยปุ่มกด
การตกแต่งกลไกที่สะท้อนถึงความงามตามธรรมชาติของชินชู ความสวยงามของกลไกเผยให้เห็นผ่านฝาหลังกรุกระจกแซฟไฟร์โดยสร้างความแวววาวด้วยพื้นผิว ขัดเงาดุจกระจกบนแนวลาดของส่วนขอบ สลักคำว่า “Limited Edition” และสลักหมายเลขซีเรียลไว้ที่ตัวเรือนด้านหลัง ดีไซน์จากแรงบันดาลใจมาจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ตกแต่งอย่างละเอียดอ่อนถ่ายทอดน้ำค้างแข็งในฤดูหนาวที่ปกคลุมเหล่าต้นไม้ในชินชู ซึ่งเป็นรายละเอียดทางเทคนิค สะท้อนความงามอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของญี่ปุ่นที่โดดเด่นด้วยเสน่ห์ของความสง่างามอันเรียบง่าย
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF GRAND SEIKO
