มหัศจรรย์แห่งกลิ่นหอมที่ไม่รู้จบ กลิ่นหอมเข้มชัด เย้ายวนใจและหรูหราสไตล์ Woody แสนอบอุ่น เผยเสน่ห์ชวนหลงใหลรับลมหนาวส่งท้ายปลายปีอย่างมีสไตล์เกินใคร
น้ำหอมเป็นไอเท็มที่นอกจากจะเสริมบุคลิกภาพของคุณได้แล้ว ยังช่วยเก็บความทรงจำต่างๆ ในรูปแบบของกลิ่น เสริมเสน่ห์น่าดึงดูด รวมถึงช่วยให้รู้สึกปลอดโปร่งและผ่อนคลายขณะใช้งาน ซึ่งหนึ่งในกลิ่นหอมที่มีความเป็น Unisex สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย คือ น้ำหอม Woody หรือน้ำหอมกลิ่นไม้ แม้จะมีความหนักแน่น แต่ก็สามารถผสมผสานกับกลิ่นผลไม้, ดอกไม้, เครื่องเทศ หรือสมุนไพรได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์สาว ๆ ที่มีความโมเดิร์นสไตล์ผู้หญิงสมัยใหม่ทั้งมั่นใจ ให้ความรู้สึกน่าดึงดูด และดึงเสน่ห์ของแต่ละคนออกมาได้อย่างเต็มที่
น้ำหอมกลิ่น Woody คือ น้ำหอมกลิ่นไม้ หรือ Woody Scent หนึ่งในน้ำหอมที่ได้รับความนิยมและมีให้เลือกหลากหลายรุ่นและหลากหลายแบรนด์ ซึ่งมีส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติและสไตล์ความหอมแตกต่างกัน แต่มีความคล้ายคลึงกันตรงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันก็มีความนุ่มลึก, ละมุนละไม, น่าค้นหา, ชวนเคลิบเคลิ้ม และช่วยสร้างบุคลิกเซ็กซี่แบบมีระดับจนกลายเป็นกลิ่นสุดซับซ้อนที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
น้ำหอมแต่ละกลิ่นมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน พร้อมทั้งช่วยเสริมบุคลิกและความมั่นใจได้หลากหลายลุค เราได้รวบรวมทริคในการเลือกน้ำหอม Woody มาให้สาว ๆ ได้ตามหากลิ่นหอมที่ถูกใจและเหมาะสมกับตัวเองกันมากขึ้น
โดยส่วนใหญ่น้ำหอม Woody เป็นน้ำหอมสไตล์ Genderless หรือ Unisex ที่มอบความหอมสุดเย้ายวนแบบมีสไตล์ที่ไม่ว่าใครก็สามารถใช้ได้ จึงไม่มีกำหนดว่าเหมาะสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิง ซึ่งจะมีกลิ่นหลักเป็นแมกไม้นานาพันธุ์ ก่อนจะเพิ่มส่วนผสมต่างๆ เพื่อชูโรงความหอมแปลกใหม่และดูมีมิติมากยิ่งขึ้น โดยประเภทของน้ำหอม Woody สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
1. Woody Aromatic เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของกลิ่นแมกไม้และความคลาสสิกของสมุนไพรหอม เช่น ลาเวนเดอร์, ตะไคร้, โรสแมรี และยี่หร่า เป็นต้น ทำให้กลิ่นของ Base Note มีความหรูหราและสดชื่นในเวลาเดียวกัน
2. Woody Aquatic องค์ประกอบของน้ำหอมประเภทนี้จะรวมกลิ่นสุขุมของแมกไม้ผสานเข้ากับกลิ่นหอมเย็นสดชื่นสไตล์ซิตรัส โดยมักมีส่วนผสมของส้ม เลมอน และมะกรูด โดยนิยมใช้กลิ่นประเภทนี้ในเวลากลางวัน, วันพักร้อน, วันออกแดดเล่นกีฬา หรือฉีดเพื่อเพิ่มความสดชื่นตลอดทั้งวัน
3. Woody Chypre มีกลิ่นที่เข้มข้นใน Base Note โดดเด่นด้วยการรวมตัวระหว่างโน้ตไม้นานาพันธุ์กับโอ๊คมอส ยางไม้ และพิมเสน ซึ่งเป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
4. Woody Floral Musk เป็นกลิ่นที่มีทั้งความหอมหวาน ความสดชื่น และความเซ็กซี่ในกลิ่นเดียว โดยมักเปิดตัวด้วยดอกไม้นานาชนิด เช่น ไวโอเลต, มะลิ, กุหลาบ และฟรีเซีย จากนั้นปิดท้ายด้วยไม้และไวท์มัสก์
5. Woody Spicy เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของไม้ผสมผสานกับความแปลกใหม่ของเครื่องเทศที่อบอุ่น ขมเล็กน้อย และเผ็ดร้อน โดยมีส่วนผสมของพริกไทย, กานพลู, ลูกจันทน์เทศ หรืออบเชย
ว่าแต่สาวๆ เคยสังเกตบ้างไหมว่าน้ำหอมที่มีปริมาณ กลิ่น และแบรนด์เดียวกันอาจมีหลายราคา เพราะระดับความเข้มข้นของน้ำหอมที่แตกต่างกันนั่นเอง ยิ่งความเข้มข้นสูงเท่าไร กลิ่นหอมก็ยิ่งบริสุทธิ์มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งความติดทนนานเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกน้ำหอมเช่นกัน ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับระดับความเข้มข้นของน้ำหอมทั้ง 5 ประเภทกันก่อน
1. Parfum เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นสูงสุด ซึ่งมีปริมาณหัวน้ำหอมมากถึง 20 – 30% และมีความติดทนนาน 6 – 8 ชั่วโมง ทำให้มีราคาค่อนข้างสูงและมีปริมาณน้อยกว่าระดับอื่นๆ
2. Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 15 – 20% พร้อมให้กลิ่นติดทนนานถึง 4 – 5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับใช้งานหลายโอกาส
3. Eau de Toilette เป็นน้ำหอมที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมากที่สุด มาพร้อมปริมาณน้ำหอม 5 – 15% โดยกลิ่นน้ำหอมจะติดประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับประเภทผิวจึงนิยมใช้ในตอนกลางวัน
4. Eau de Cologne มีต้นกำเนิดในเมืองโคโลญในประเทศเยอรมัน มาพร้อมปริมาณหัวน้ำหอม 2 – 5% โดยเฉลี่ยจะมีความติดทนอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งขอแนะนำให้ฉีดซ้ำทุก 3 ชั่วโมง
5. Eau de Fraiche เป็นน้ำหอมที่เจือจางและให้สัมผัสอ่อนเบาที่สุด เนื่องจากมีปริมาณน้ำหอม 1 – 3% และผสมน้ำแทนแอลกอฮอล์ ทำให้ไม่ค่อยติดทน
ด้วยแรงบันดาลใจจากกลิ่นหอมของธรรมชาติ น้ำหอมกลิ่น Woody จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยกลิ่นโน้ตของไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่มีความอบอุ่น ลึกลับ แฝงไปด้วยความสุขุม โดยกลิ่นโน้ตไม้ยอดนิยม ได้แก่ ไม้จันทน์หอม, สนซีดาร์, หญ้าแฝกสุดเข้มข้น, ยางไม้ และอำพัน ซึ่งล้วนแต่เป็นกลิ่นของ Base Note หรือกลิ่นหอมชั้นสุดท้าย ช่วยเพิ่มความซับซ้อนของกลิ่นน้ำหอมที่จะอยู่ติดตัวเราไปตลอดทั้งวัน ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์ความชื่นชอบส่วนตัวและเข้ากับไลฟ์สไตล์ แนะนำให้ตรวจสอบกลิ่นไม้ของ Note ก่อนเลือกซื้อเป็นดีที่สุด
8 BEST WOODY PERFUME FOR THIS WINTER
1. DIPTYQUE L’Eau Papier Eau de Toilette เฉลิมฉลองให้กับพลังแห่งจินตนาการในห้วงเวลาที่หมึก, กระดาษ และมือกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ไวท์มัสก์ได้รับการเจียระไนอย่างละเอียดอ่อนด้วยกลิ่นอายของรวงข้าว ชวนให้นึกถึงเนื้อกระดาษ ผสานกลิ่นหอมเปล่งประกายของมิโมซ่า ได้รับการตีความขวดแบบใหม่ ให้เหมาะกับช่วงเทศกาล ประดับด้วยสีทอง โดยมีมุมมองที่โปร่งใส ช่วยให้มองเห็นความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากหมึกบนกระดาษ
2. DOLCE & GABBANA Velvet Black Patchouli Eau de Parfum เน้นย้ำถึงความสง่างามและความเย้ายวนใจ น้ำหอมที่บ่งบอกถึงความคลาสสิค ทันสมัย และมีชีวิตชีวา กลิ่นเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศบ่งบอกถึงบุคลิกอันทรงเสน่ห์แสนดึงดูด สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างพิมเสน, ใบยาสูบ, ถั่วตองก้า, วานิลลา และคาราเมล
3. ESCENTRIC MOLECULES Molecule 01 + Guaiac Wood Eau de Toilette รังสรรค์ด้วยกลิ่นหอมของไม้ที่เข้มข้นจากธรรมชาติซึ่งพร้อมจะนำความหรูหรารูปแบบใหม่ ก่อเกิดเป็นกลิ่นหอมโทนไม้ผสานควันอันอบอุ่นที่ได้รับการส่งเสริมจากกันและกันด้วยไม้หอมกวาแอกและซีดาร์วูด มอบความประทับใจสุดอบอุ่นอย่างยาวนาน
4. ETAT LIBRE D’ORANGE Une Amourette Eau De Parfum ส่วนผสมจาก Akigalawood มอบกลิ่นหอมอบอุ่นเจือความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศจางๆ ผสานกลิ่นหอมยั่วยวนของพีชที่สุกงอม, วานิลลา, พิมเสน และไอริส ก่อเกิดเป็นกลิ่นซิกเนเจอร์อันยากจะลืมเลือน
5. JO MALONE LONDON Green Almond & Redcurrant Cologne การผสมผสานที่เต็มไปด้วยสีสัน กลิ่นหอมชุ่มฉ่ำที่เจือด้วยรสฝาดของเรดเคอร์แรนท์และซิตรัสแสนสดชื่น ผสานกับกรีนอัลมอนด์ ซีดาร์วู้ด และถั่วตองก้า ทั้งรื่นเริงและแสนสดใส
6. L’ARTISAN PARFUMEUR Abyssae Eau de Parfum เริ่มต้นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของยูคาลิปตัสและผลมะเดื่อ ผสานกับกลิ่นหอมเย้ายวนของกุหลาบ เจือความหอมอบอุ่นร้อนแรงของมัสก์ หลอมรวมเป็นกลิ่นหอมเย้ายวน ชวนหลงใหล เต็มไปด้วยพลัง และสดชื่นดึงดูด
7. LOEWE San Miguel Eau de Parfum กลิ่นไม้หอมสุดคลาสสิกระดับไอคอนิก ด้วยฮาร์ตโน้ตที่งดงามละเอียดลออของกลิ่นหญ้าแฝกผสานด้วยซิตรัสบ่มแดด เครื่องเทศแสนเผ็ดร้อน และน้ำมันดาวาน่าพร้อมพิมเสนที่ยั่วยวนใจ ไต่ระดับไปจนได้กลิ่นความหอมขั้นสุด
8. MAISON MARGIELA Under the Stars Eau de Toilette น้ำหอมกลิ่นหอมเข้มข้นที่ปรับสมดุลระหว่างความงดงามชั้นเลิศกับความหอมอบอุ่นของสนซีดาร์, แผ่นหนัง, ใบอบเชย เจือความเผ็ดร้อนจากพริกไทย ผสานกลิ่นหอมหวานจากวานิลลาและมนต์สะกดจากไม้กฤษณา
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF DIPTYQUE, DOLCE & GABBANA, ESCENTRIC MOLECULES, ETAT LIBRE D’ORANGE, JO MALONE, L’ARTISAN PARFUMEUR, LOEWE, MAISON MARGIELA
STOCK PHOTOS: Image by wirestock on Freepik
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
