บ๊ายบายออฟฟิศซินโดรมด้วยวิธีง่ายๆ เพียงปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์จากการนั่งทำงานมาเป็นยืนทำงาน ได้ทั้งสุขภาพได้ทั้งสมองที่ไบร์ทขึ้น พร้อมอัพเดทผลิตภัณฑ์ฟื้นบำรุง ปลอบประโลมเรียวขาและเท้าที่เมื่อยล้า มอบสัมผัสที่รื่นรมย์และผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน
ในยุคที่คนเราต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์มากขึ้น ทำให้การนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ ทั้งวันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และด้วยความเคร่งเครียดหรือความเร่งด่วนของงาน อาจทำให้หลายคนไม่มีเวลาที่จะผ่อนคลายความเครียดอย่างเพียงพอ มัวแต่นั่งทำงานหน้าจอจนทำให้เกิดเป็นโรคต่างๆ ที่ทำร้ายร่างกายได้ ทั้งหมดนี้ฟังดูคุ้นๆ ใช่ไหมล่ะสาวๆ
ด้วยเหตุและผลเช่นนี้เอง จึงมีงานวิจัยที่ร่วมกันคิดหาหนทางหรือวิธีการที่จะแก้ไขการนั่งทำงานนานๆ โดยเปลี่ยนมาเป็น “การยืนทำงาน” แทน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้การทำงานนั้นปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น และยังช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้การทำงานออกมาได้ดีขึ้นด้วย แต่การยืนทำงานแบบนี้มีประโยชน์จริงอย่างที่กล่าวไว้หรือไม่? มาลองดูกัน
การนั่งทำงานตลอดทั้งวันย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปวดตามอวัยวะต่างๆ ตั้งแต่คอ บ่า หัวไหล่ ต้นแขน ข้อมือ บั้นเอว หรือแม้กระทั่งหัวเข่า ที่ไม่ว่าจะอยู่ในยุคใดหรือวัยใดก็สามารถเกิดอาการเดียวกันได้ทั้งสิ้น
ทำให้หนึ่งในกระแสการแก้ไขอาการออฟฟิศซินโดรม จากการนั่งนานเกินไปเปลี่ยนมาเป็น “การยืนทำงาน” แทน ซึ่งพฤติกรรมนี้ถือเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นหรือสหรัฐอเมริกา หลายๆ บริษัทใหญ่ในสหรัฐอเมริกาได้นำมาตรการการยืนทำงานมาปรับใช้กับองค์กร โดยมีการจัดสภาวะแวดล้อมในการทำงานให้เป็นโต๊ะที่สามารถยืนทำงานได้ เพราะเชื่อว่านอกจากจะช่วยในการแก้ไขปัญหาการนั่งนานๆ แล้ว ยังสามารถทำให้พนักงานมีความกระตือรือร้นและสามารถที่จะทำให้ผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพที่ดีกว่าเดิมได้
ทั้งนี้ การยืนทำงานไม่ได้หมายความว่าจะต้องยืนตลอดทั้งวันที่ทำงานหรอกนะ แต่จะเป็นการยืนเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น จากเดิมที่จะต้องนั่งติดโต๊ะตลอด 8-9 ชั่วโมงต่อวัน ก็สลับสับเปลี่ยนมายืนทำงานเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง โดยพนักงานสามารถที่จะสลับอิริยาบถระหว่างการนั่งและการยืนเมื่อใดก็ได้ตามที่ตนเองต้องการ
ผลจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงานแบบนี้ พบว่า การเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงาน ทำให้ผลงานที่ออกมาดีกว่ากลุ่มพนักงานที่นั่งทำงานเพียงอย่างเดียว ซึ่งนอกเหนือจากผลงานที่ดีขึ้นแล้ว แน่นอนว่ายังส่งผลถึงสุขภาพของพนักงานด้วย เพราะการยืนทำงานทำให้มีการเคลื่อนไหวร่างกายที่มากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกิดจากการนั่งนิ่งๆ นานๆ โดยไม่เคลื่อนไหวได้ หรือเป็นการกระตุ้นการเผาผลาญไขมันให้สูงมากขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจหรือโรคเบาหวานในระยะยาวได้
ทั้งนี้สาเหตุของการที่การยืนทำงานมีผลที่ดีมากกว่าการนั่งทำงานก็เป็นเพราะการนั่งติดโต๊ะทำงานจะทำให้ร่างกายมีระดับการเผาผลาญไขมันลดลง และทำให้มวลกระดูกเสียความหนาแน่นลงเรื่อยๆ ระดับการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจก็จะน้อยกว่าปกติ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด และทำให้อายุขัยสั้นลงได้ด้วย
การที่เรานั่งนานๆ โดยไม่ขยับร่างกายตั้งแต่ 3 ชั่วโมงขึ้นไป จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง ดังนั้น การยืนทำงานจึงเป็นหนึ่งในวิธีการในการช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น เพราะเวลาที่เรายืนเรามักจะต้องมีการขยับร่างกายที่มากกว่าการนั่งเฉยๆ อยู่แล้ว
สำหรับสาวๆ ที่ไม่ค่อยจะมีเวลาออกกำลังกาย สามารถนำเอาวิธีการยืนทำงานไปใช้ในการทำงานได้ เพราะเพียงแค่เพิ่มเวลาในการยืนทำงานให้มากขึ้น ก็สามารถทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นแล้ว แนะนำว่าระยะเวลาในการยืนทำงานควรจะยืนให้ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน สลับกับการนั่งอีกประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน
สำหรับโต๊ะทำงานก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับพฤติกรรมในการยืนทำงานด้วย โดยโต๊ะที่เลือกใช้ควรที่จะมีความสูงพอที่จะใช้มือเท้าในขณะใช้แป้นพิมพ์ได้ รวมไปถึงจอคอมพิวเตอร์ก็ต้องมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่เพียงพอต่อการทำงาน และสามารถปรับเงยหน้าจอให้เหมาะสมกับระยะสายตาได้
การยืนทำงานจะมีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น หากปฏิบัติตามข้อแนะนำที่ควรทำ นั่นก็คือ ในขณะที่ยืนทำงาน ต้องหลีกเลี่ยงการยืนนิ่งท่าเดียว แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ้างในระหว่างการทำงาน เช่น มีการแกว่งแขน แกว่งขา เพื่อกระตุ้นให้เลือดมีการไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา การยืนค้างท่าเดิมนานๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมงอาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะกำลังโฟกัสอยู่กับงานมากจนเกินไป
การที่ยืนติดกันในลักษณะเดิมอาจจะทำให้เกิดเป็นผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกันกับการนั่งทำงาน ดังนั้น สาวๆ จึงต้องพยายามเปลี่ยนอิริยาบถใหม่เรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาการยืนทำงาน เพื่อช่วยทำให้ร่างกายนั้นได้รับการกระตุ้นและมีแรง รวมไปถึงจะทำให้ไม่รู้สึกเฉยชาเหมือนกับการนั่งทำงานด้วย
หากใครที่รู้สึกเบื่อกับการนั่งทำงานแบบเดิมๆ ก็ลองขอหัวหน้าเปลี่ยนมาเป็นการยืนทำงานดูบ้าง การยืนทำงานที่ถูกต้องและเหมาะสม จะทำให้สมองไบร์ทขึ้น หรือเป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้เราทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมๆ กับการมีสุขภาพที่ดีขึ้น และไม่ต้องกังวลกับอาการออฟฟิศซินโดรมอีกต่อไป
แต่หากสาวๆ คนไหนแอบกลัวว่ายืนนานๆ แล้วจะเมื่อย ลองปรนนิบัติผิวกายด้วยผลิตภัณฑ์ปลอบประโลมและฟื้นบำรุงเรียวขาที่เหนื่อยล้าก็ช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้อย่างดี หรือจะใช้ครีมบำรุงและฟื้นฟูเท้าเพื่อผ่อนคลายจากการยืนนานๆ ก็เวิร์คไม่แพ้กัน
BEST TIRED LEGS AND FOOT RELIEF PRODUCTS
- AVEDA Foot Relief™ Foot Cream ครีมบำรุงเท้าที่มอบความชุ่มชื้นเข้มข้น ที่จะช่วยให้เท้าของคุณเนียนนุ่มและผิวเรียบเนียน มีส่วนผสมของโจโจบาและน้ำมันละหุ่ง ช่วยให้ผิวที่แห้งกลับชุ่มชื้นได้อีกครั้ง
- CELLCOSMET Cellmen Leg n Foot-XT Gel เจลบำรุงผิวในรูปแบบใหม่ มอบสัมผัสผิวละเอียดนวลดุจกำมะหยี่ บางเบา และลื่นละมุน สามารถใช้ร่วมกับเทคนิคการนวดเพื่อเพิ่มความสบาย พร้อมกลิ่นหอมที่แสนผ่อนคลายและสดชื่น จากส่วนผสมธรรมชาติ
- CLARINS Energizing Emulsion for Tired Legs ผลิตภัณฑ์ช่วยปลอบประโลมความรู้สึกเมื่อยล้า ฟื้นบำรุง ผ่อนคลายและปลอบประโลมเรียวขาที่เมื่อยล้าพร้อมสัมผัสที่รื่นรมย์ อุดมไปด้วยน้ำมันหอมระเหยและสารสกัดจากพืชธรรมชาติ ปรนนิบัติเรียวขาที่เมื่อยล้า ให้อ่อนนุ่มและนิ่มนวล และปรับสมดุลของความชุ่มชื้น สูตรบางเบา สามารถใช้ได้ในทุกช่วงเวลาของวัน แม้ในวันที่สวมถุงน่อง
- MARGARET DABBS LONDON Pure Gold Elixir for Feet เนื้อครีมเข้มข้นผสานคุณค่าเปปเปอร์มินต์ออยล์, สารสกัดจากโรสแมรี่ และแผ่นทองคำบริสุทธิ์ ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต เพื่อเข้าฟื้นบำรุงขาที่เมื่อยล้าและฝ่าเท้าที่ใช้งานหนัก เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ใส่รองเท้าส้นสูงตลอดทั้งวัน
- NOODLE & BOO Restorative Leg & Foot Balm เรียวขารู้สึกผ่อนคลายและสบายมากขึ้น ผิวนุ่มนวล และในทุกๆ วันเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง เพียงลูบไล้บาล์มเนื้อละมุนจากข้อเท้าสู่จุดสูงสุดของต้นขาและสะโพก โดยลงน้ำหนักที่อุ้งมือแล้วนวดวนเพื่อกระตุ้นการไหลเวียน
- ORIGINS Leg Lifts Cream บำรุงขาที่เหนื่อยล้า ด้วยครีมเนื้อสัมผัสเข้มข้น ผสมผสานด้วยเปปเปอร์มินต์ออยล์, เมนทอล และสนซีดาร์ มอบความเย็นสบาย ผ่อนคลายผิวและกล้ามเนื้อ บางเบาและซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
- SISLEY White Ginger Contouring Oil for Legs ปลดปล่อยเรียวขาสู่อิสรภาพแห่งความสบาย ด้วยประสิทธิภาพบำรุง ผ่อนคลาย สำหรับเรียวขาที่เผชิญปัญหาอ่อนล้า รู้สึกหนักและบวมข้อเท้า ด้วยคุณค่าสกัดจาก ไวท์ จิงเจอร์, จิงโกะ บิโลบา และ แอนดิโรบา ออยล์ เพื่อให้เรียวขาที่บวมและอ่อนล้า ได้รับการปลอบประโลมให้รู้สึกสบาย ผิวนุ่มและดูเรียบเนียน ในทุกๆ วัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF AVEDA, CELLCOSMET CELLMEN, CLARINS, MARGARET DABS, NOODLE & BOO, ORIGINS, SISLEY
STOCK PHOTOS: Image by jcomp on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่