Chopard Happy Sport นาฬิกาไอคอนของผู้หญิง ผ่านการตีความใหม่สู่ความหรูหราของเวอร์ชันทองทั้งเรือน และเวอร์ชันผสมผสานสองวัสดุ
Chopard Happy Sport Chrono Ethical 18-Carat Rose Gold Happy Sport ของ Chopard (โชพาร์ด) นับเป็นหนึ่งในนาฬิการะดับไอคอนสำหรับผู้หญิงที่ครองความสวยโดดเด่นและทันสมัยมาตลอดหลายยุคหลากสมัย โดยผ่านทั้งการตีความหลากหลายรูปแบบ แต่ยังคงไว้ด้วยเอกลักษณ์ของสไตล์แห่งนาฬิกาสปอร์ตหรูที่ทำให้ผู้หญิงต่างหลงหลุมรัก เหมือนดั่งชื่อ Happy Sport ได้เสมอ
และแบบทูโทนระหว่างสตีลและทอง
จากต้นแบบของงานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว Happy Sport ที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 1993 โดยการประดิษฐ์คิดค้นและออกแบบนาฬิกาสปอร์ตรูปลักษณ์ใหม่ซึ่งเป็นการบรรจบระหว่างสตีลและเพชรอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนโดย Caroline Scheufele รวมถึงเพชรกลิ้งหรือ dancing diamonds ที่ถ่ายทอดถึงจิตวิญญาณและแนวคิดอันเป็นอิสระอันเป็นพื้นฐานของการสร้างสรรค์คอลเลกชันนี้มานับตั้งแต่แรกเริ่ม ที่ในวันนี้ Happy Sport ยังได้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยสไตล์และบุคลิกใหม่ของนาฬิกาโครโนกราฟหรูหราสองเวอร์ชันใหม่ โดยมาพร้อมตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.0 มิลลิเมตร หนา 13.90 มิลลิเมตร กันน้ำได้ลึกระดับ 50 เมตร ที่ดึงดูดสายตาได้ตั้งแต่แรกเห็น พร้อมทั้งเหล่า dancing diamonds หรือเพชรกลิ้งจำนวนเจ็ดเม็ดเหนือหน้าปัด เติมความมีชีวิตชีวาให้กับนาฬิกา ณ ทุกๆ การเคลื่อนไหวข้อมือ ขณะที่ในรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับตัวเรือนสองเวอร์ชันให้เลือก ระหว่างความสง่างามของ ethical 18-carat rose gold ทั้งเรือน หรือเวอร์ชันผสมผสานสองวัสดุระหว่างสเตนเลสสตีลและ ethical 18-carat rose gold
พร้อมงานตกแต่งอย่างประณีต
ภายในผลงานทั้งสองเวอร์ชันใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟ ทำงานความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 เฮิรตซ์ ซึ่งผ่านประกาศนียบัตรรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์โดย COSC และมอบพลังงานสำรองได้นาน 54 ชั่วโมง ที่เพียงพอสำหรับช่วงสุดสัปดาห์หากไม่ได้สวมใส่นาฬิกา ขณะที่ฟังก์ชันโครโนกราฟถือเป็นความสลับซับซ้อนทางจักรกล รวมถึงเพิ่มความท้าทายในแง่ของการออกแบบ เพื่อผสมผสานฟังก์ชันอันเป็นประโยชน์นี้เข้ากับคอลเลกชันนาฬิกาที่มีภาพลักษณ์สไตล์หรูสง่างามได้อย่างสมดุลลงตัว ซึ่ง Happy Sport Chrono นั้นนับเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการหล่อหลอมระหว่างสองโจทย์สำคัญนี้
โดยเฉพาะการนำเสนอภายใต้สไตล์ที่ยังคงต้นตำรับของ Happy Sport ไว้ได้อย่างมั่นคง ซึ่งรุ่นนี้ นักออกแบบได้เพิ่มปุ่มกดสองปุ่มอันโดดเด่นไว้ข้างตัวเรือนด้านขวา ทว่า ไม่รบกวนสายตาและไม่ทำให้ความกลมมนได้รูปของตัวเรือนอันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชัน Happy Sport นี้เสียสมดุล ส่วนบนเม็ดมะยมตกแต่งแบบเซาะร่องและประดับด้วยแซฟไฟร์เจียระไนเหลี่ยม พร้อมการปกป้องหน้าปัดด้วยกระจกแซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อน ขณะที่ฝาหลังแบบเปลือยใสด้วยกระจกแซฟไฟร์ ติดตั้งด้วยสกรู ยังประทับไว้ด้วยโลโก้ Happy Sport
ตอบโจทย์อีกข้อของการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน โดยผ่านหน้าปัดกลางเคลือบทอง หรือโทนสีเงินสำหรับเวอร์ชันสองวัสดุ ที่ได้รับการตกแต่งแบบซันเบิรสต์และขัดด้านซาติน รวมถึงลวดลายกิโยเช่บริเวณศูนย์กลาง ตัดกับหน้าปัดย่อยจับเวลา 12 ชั่วโมง ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และหน้าปัดย่อยจับเวลา 30 นาทีที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ซึ่งจัดวางอย่างสมดุลกับหน้าปัดแสดงวินาทีเล็ก ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา พร้อมทั้งการแสดงวันที่บนช่องหน้าต่างระหว่างตำแหน่ง 4 และ 5 นาฬิกา โดยบนหน้าปัดกลางยังบรรจุไว้ด้วยการพิมพ์สีน้ำเงินเข้ม เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความสามารถในการมองเห็นของข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เช่นกันกับการเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® บนมาร์กเกอร์แสดงชั่วโมง และบนเข็มชี้ชั่วโมงและนาทีรูปทรงกรวย ที่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการอ่านค่าเวลาได้ในที่มืด
Happy Sport Chrono ใหม่กับการผสมผสานทองของผลงานสร้างสรรค์นี้ยังเป็นเครื่องย้ำเตือนของการอุทิศและบุกเบิกแนวทางแห่งความยั่งยืน ที่ยกระดับขึ้นโดย Chopard นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2018 เป็นต้นมา โดยเฉพาะผ่านการใช้ทอง ethical gold 100% ทั้งในการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับอัญมณีของแบรนด์ และสำหรับทั้งสองเวอร์ชันใหม่นี้จับคู่มากับสายหนังสีน้ำเงิน ที่รับไปกับการพิมพ์บนหน้าปัดด้วยสีน้ำเงิน ทั้งยังมอบลุคสปอร์ตชิค แต่ยังคงความแคชชวลทันสมัยอันเป็นต้นตำรับของ Happy Sport ไว้เสมอ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF CHOPARD
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
