จากความสำเร็จของนาฬิกาลุคโลหะที่ครองใจใครหลายคนมาแล้ว ล่าสุด Casio ขยายความฮอตของนาฬิกากรอบโลหะนี้สู่ผลงานสองรุ่นใหม่ในตระกูล G-SHOCK GM-2100 และ GM-S2100
Casio: G-Shock GM-2100 & GM-S2100 หากยังจำกันได้ คาสิโอ (Casio) และ จี-ช็อค (G-SHOCK) ได้สร้างกระแสความนิยมในหมู่คนรักนาฬิกาเรือนโลหะที่พลิกโฉมและคอนเซปต์มาจากดีไซน์สุดโดดเด่นอันเป็นต้นตำรับขนานแท้ของตนเอง จนนำมาสู่ความสำเร็จครั้งใหญ่ของนาฬิกาลุคโลหะที่ครองใจใครหลายๆ คนมาแล้วจากผลงานสุดสร้างสรรค์ของ G-SHOCK ซึ่งวันนี้ได้เดินหน้าสานต่อความสำเร็จนั้นด้วยการเปิดตัวนาฬิกากรอบโลหะใหม่อีกสองรุ่นในซีรีส์ GM-2100 สำหรับสุภาพบุรุษ และ GM-S2100 สำหรับสุภาพสตรี จากกลุ่มนาฬิกาที่มีชื่อเสียงด้านคุณสมบัติแห่งความทนทานและทนต่อแรงกระแทกที่สะท้อนถึงชื่อ G-SHOCK โดยทั้งคู่ไม่เพียงได้แรงบันดาลใจมาจากขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมที่เชื่อกันว่าเป็นเลขนำโชค และยังนับเป็นงานดีไซน์ไอคอนิกดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ G-SHOCK ดั้งเดิม แต่ในผลงานรุ่นใหม่นี้ยังได้ออกแบบขึ้นมาใหม่เพื่อมอบทั้งความเพรียวบางคล่องตัว และเสริมด้วยกรอบตัวเรือนโลหะที่ดูมีสไตล์อันทันสมัยมากกว่าที่เคย
ส่วนหัวใจหลักของการพัฒนานาฬิกาสองรุ่นนี้นั้นยังได้ต้นแบบและตัวอย่างแห่งสมรรถนะมาจากรุ่นพื้นฐาน อย่าง GA-2100 ที่เปิดตัวเมื่อปีค.ศ. 2019 โดยสืบทอดแนวคิดมาจากรุ่น DW-5000C ที่เปิดตัวในปีค.ศ. 1983 และเป็นนาฬิกา G-SHOCK รุ่นแรกซึ่งผสมผสานระหว่างระบบดิจิทัลเข้ากับอนาล็อกได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว รวมถึงครองสถานะการเป็นนาฬิกาที่มีความทนทานสูง และใช้ขอบตัวเรือนรูปทรงแปดเหลี่ยมที่ต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบให้กับทายาทนาฬิการุ่นต่างๆ อาทิ AW-500 ซึ่งเปิดตัวในปีค.ศ. 1989 พร้อมด้วยคอนเซปต์งานดีไซน์อันแข็งแกร่งเดียวกัน
ที่สำคัญในแง่ของงานดีไซน์ นาฬิการุ่นพื้นฐาน GA-2100 นั้นยังมีความโดดเด่นของรูปทรงที่สืบทอดมาจากต้นแบบของทั้งรุ่น DW-5000 และ AW-500 โดยเฉพาะการพัฒนาต้นตำรับของขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของความเพรียวบาง กะทัดรัด และคล่องตัว และซ้อนลงตัวเข้ากับรูปทรงกลมของหน้าปัด รวมถึงการปรับโครงสร้างตัวเรือนด้วย carbon fiber-reinforced resin ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องโมดูล Carbon Core Guard Structure เพื่อกันแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือน และทำให้ตัวเรือนมีความบางลงได้อย่างสูงสุด โดยเน้นไปถึงแนวคิดการออกแบบอันเรียบง่ายแต่มีสไตล์ร่วมสมัย ทำให้นาฬิกาซีรีส์นี้กลายเป็นที่นิยมท่ามกลางผู้คนผู้ซึ่งชื่นชอบนาฬิกาดีไซน์สวยลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งนั่นถือเป็นสัญลักษณ์ถึงการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของ G-SHOCK อีกด้วย
ด้วยคุณสมบัติและชื่อเสียงเหล่านี้จึงนำทางมาสู่การเปิดตัวผลงานรุ่นใหม่ของซีรีส์ GM-2100 ซึ่งเริ่มกันที่รุ่นสำหรับสุภาพบุรุษใน GM-2100 ที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเพรียวบางคล่องตัวจากรุ่นต้นแบบ GA-2100 เอาไว้ แล้วเสริมด้วยกรอบตัวเรือนโลหะทรงแปดเหลี่ยม ทำให้นาฬิกามีรูปลักษณ์ที่ดูเฉียบคมมากขึ้น รวมถึงเทคนิคการตกแต่งพื้นผิวด้านบนของกรอบตัวเรือนที่เป็นทั้งแบบขัดด้านและขัดแต่งแฮร์ไลน์ (hairline finish) ตัดกับด้านข้างของตัวเรือนที่ผ่านการขัดเงา สร้างประกายแสงแวววาวและมิติของแสงสะท้อนที่หลากหลายจากพื้นผิวโลหะอันสวยงามในทุกๆ มุมมอง
GM-2100 รุ่นใหม่
โดย GM-2100 รุ่นใหม่นี้มีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 49.3 x 44.4 x 11.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักรวมเพียง 72 กรัม มาพร้อมตัวเลือกของการผสมผสานระหว่างสีโลหะ เช่นในรุ่นกรอบตัวเรือนเคลือบ IP สีน้ำเงินเทา (GM-2100N) หรือกรอบตัวเรือนสีเทาเข้ม (GM-2100B) ขณะที่หน้าปัดมีให้เลือกทั้งเคลือบเฉดสีน้ำเงิน สีเขียว และสีแดงเมทัลลิก เติมลุคความล้ำสมัยในแบบฉบับของนาฬิกากรอบโลหะเจเนอเรชั่นใหม่สำหรับ G-SHOCK ได้อย่างลงตัว ส่วนสายเรซินตกแต่งด้วยลวดลายจุดสี่เหลี่ยมจัตุรัสหลากหลายขนาด เพื่อให้กลมกลืนไปกับรูปลักษณ์สไตล์เมทัลลิกของนาฬิกาและเข้ากับดีไซน์เมทัลลิกของหน้าปัดด้วยนั่นเอง
ปกป้องด้วยกระจกมินอรัล และกันน้ำได้ลึกระดับ 200 เมตร ที่นาฬิการุ่นใหม่ของ GM-2100 พร้อมจะตอบโจทย์เหล่านักผจญภัยและหนุ่มๆ ที่มีไลฟ์สไตล์อันท้าทายและหลากหลาย ด้วยฟังก์ชั่นเด่นๆ ของทั้งระบบแสงสว่างแบบ Double LED light สำหรับบนหน้าปัด และแสงแบ็กไลท์สำหรับการแสดงแบบดิจิทัล เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความสามารถในการอ่านค่าได้อย่างชัดเจนในที่มืด ผสมผสานด้วยการแสดงเวลาเวิลด์ไทม์ของ 31 ไทม์โซน ระบบเปิด/ปิด daylight saving รวมถึงฟังก์ชั่นจับเวลา 1/100-วินาที การนับเวลาถอยหลัง ตั้งปลุกเตือนได้ 5 เวลาต่อวัน ปฏิทินอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ไปจนถึงปีค.ศ. 2099 รวมทั้งแสดงข้อมูลและเวลาในสองระบบระหว่างอนาล็อกด้วยเข็มชี้สองเข็ม และแบบดิจิทัลสำหรับบอกชั่วโมง นาที วินาที เวลา pm เดือน และวันที่ กับระดับความเที่ยงตรงแม่นยำ +/-15 วินาทีต่อเดือน กับอีกหลากหลายความล้ำสมัยของเทคโนโลยีการแสดงเวลาอันเหนือล้ำที่ได้มาจากนวัตกรรมการสร้างสรรค์ตามแบบฉบับของ Casio
ขยับมาที่รุ่นสุภาพสตรี ที่ G-SHOCK ตีโจทย์นาฬิกากรอบโลหะขึ้นมาใหม่ให้กับผู้หญิงโดยเฉพาะ โดยใน GM-S2100 ใหม่นี้ยังคงเน้นการออกแบบที่เรียบง่าย กะทัดรัด คงดีไซน์สวยงามแบบมินิมอล กับตัวเรือนขนาด mid-sized จากต้นตำรับของ G-SHOCK โดยมีขนาดอยู่ที่ 45.9 x 40.4 x 11 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 55 กรัม จับมาเสริมความเท่ทันสมัยด้วยกรอบตัวเรือนโลหะรูปทรงแปดเหลี่ยมที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่สาวๆ ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา G-SHOCK และนาฬิกาสปอร์ตสมรรถนะแกร่ง แต่ยังคงเน้นถ่ายทอดถึงความทนทานและความสวยงามเฉพาะตัว
ซึ่งใน GM-S2100 รุ่นใหม่ บรรจุด้วยหน้าปัดออกแบบอย่างประณีต ซ่อนความสวยหวานในสไตล์ผู้หญิงไว้ได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานระหว่างพื้นผิวหน้าปัดตกแต่งขัดลาย พร้อมทั้งเครื่องหมายและมาร์กเกอร์บอกชั่วโมงแบบขัดเงาและจับคู่สีลงตัวเข้ากับสีหน้าปัดของแต่ละเวอร์ชั่น ทั้งโทนสีดำทรงเสน่ห์ สีเขียวที่กำลังเป็นเทรนด์ และสีพิงค์โกลด์หรูหรา โดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อมาคู่กับกรอบตัวเรือนโลหะรูปทรงแปดเหลี่ยมแบบขัดด้าน ทำให้นาฬิกามีรูปลักษณ์อันเปี่ยมด้วยเสน่ห์ซับซ้อน แต่ทรงพลัง โดยกรอบตัวเรือนของแต่ละเวอร์ชั่นยังผ่านการเคลือบ IP สามแบบ ระหว่างเคลือบสีพิงค์โกลด์ (GM-S2100PG), เคลือบสีเทา (GM-S2100) และเคลือบสีเทาเข้ม (GM-S2100B) ที่ดีไซน์มาเพื่อให้ลงตัวกับสไตล์แฟชั่นอันหลากหลายและซับซ้อนของผู้หญิงโดยเฉพาะ
ในซีรีส์ GM-S2100 สำหรับสาวๆ นี้ยังคงหลอมรวมไว้ด้วยฟังก์ชั่นอันล้ำสมัยของการแสดงข้อมูลเวลา และเทคโนโลยีสำหรับนาฬิกาข้อมืออีกมากมาย เหมือนกันกับรุ่นสุภาพบุรุษที่รุ่นใหม่นี้บรรจุไว้ด้วยคุณสมบัติเด่นๆ อย่าง ระบบแสงสว่าง Double LED Light การแสดงเวลาเวิลด์ไทม์จาก 31 ไทม์โซน หรือแม้แต่การจับเวลาแม่นยำ 1/100-วินาที การนับเวลาถอยหลัง และฟังก์ชั่นปลุกเตือน รวมทั้งระบบปฏิทินอัตโนมัติไปจนถึงปีค.ศ. 2099 คงระดับความเที่ยงตรงแม่นยำเดียวกันที่ +/-15 วินาทีต่อเดือน และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึงประมาณ 3 ปี
แม้จะผ่านการตีโจทย์ขึ้นมาใหม่ แต่นาฬิกากรอบโลหะทั้งสองรุ่นใหม่ของ G-SHOCK นี้ก็ยังไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความโดดเด่นด้านดีไซน์ นวัตกรรมและความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการยังคงบรรจุไว้ด้วยตัวเรือนและโครงสร้างนาฬิกาแบบกันกระแทกและกันแรงสั่นสะเทือน พร้อมทั้งกรอบตัวเรือนโลหะและตัวเรือนเรซินที่มีความแข็งแกร่ง ทนทานสูง ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ยังสามารถกันน้ำได้ลึกถึงระดับ 200 เมตร และครบครันด้วยฟังก์ชั่นอันเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงเวลาเวิลด์ไทม์ นาฬิกาจับเวลา นาฬิกาปลุก ระบบแสงสว่างด้วยไฟ LED และอีกมากมาย ที่ล้วนออกแบบมาอย่างลงตัวเข้ากับรูปลักษณ์งานดีไซน์อันทันสมัย ตรงกับความต้องการและแฟชั่นความนิยมของยุคสมัย ที่สำคัญคือตอบโจทย์การเป็นนาฬิกาคู่ใจของผู้คนยุคใหม่ซึ่งสามารถสวมใส่ได้ทุกวันและมีไว้สำหรับทุกคน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF G-Shock
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
STOCK FOOTAGE: mixkit.co,
videezy.com
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่