ดีไซน์และมนต์ขลังแห่งยุคทเวนตี้ส์จะหวนกลับมาอีกครั้ง กับผลงานแห่งตำนานที่หวนคืนสู่ Cloche de Cartier
Cartier Privé – The New Cloche de Cartier หลังการเปิดตัวของ Crash, Tank Cintrée, Tonneau และ Tank Asymétrique ที่ล้วนเป็นผลงานสร้างชื่อเสียงของ คาร์เทียร์ (Cartier) มาวันนี้ Cartier Privé คอลเลกชันเรือนเวลา สำหรับนักสะสมที่สืบทอดเรื่องราวและมรดกแห่งการสร้างสรรค์ รวมถึงงานฝีมือการประดิษฐ์นาฬิกาอันเชี่ยวชาญของแบรนด์ก็ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่รุ่นล่าสุด และถือเป็นรุ่นที่ห้าของคอลเลกชันนี้แล้ว กับการเผยโฉมของ Cloche de Cartier นาฬิกาย้อนยุคสู่ทศวรรษ 1920s ที่เป็นจุดกำเนิดของการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์และการสำรวจพรมแดนใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในทุกวัฒนธรรมทั่วโลก เช่นเดียวกับภายในอาณาจักรแห่งเรือนเวลา
ตรงตามความตั้งใจของการรังสรรค์ให้ Cartier Privé เป็นคอลเลกชันสำหรับนักสะสมตัวยง ด้วยการเป็นตัวแทนถึงรุ่นตำนาน และการฉลองให้กับประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ในหลากหลายมิติของ Maison ซึ่งสมาชิกต่างๆ ในคอลเลกชันนี้จะถูกรังสรรค์ขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษ พร้อมทั้งหมายเลขประจำตัวเรือนที่บ่งบอกถึงการผลิตภายใต้ซีรีส์สุดพิเศษ เหมือนกับในรุ่นล่าสุดของ Cloche de Cartier นาฬิกาที่ปลุกจิตวิญญาณและตำนานแห่งยุคทเวนตี้ส์ให้ฟื้นคืนขึ้นมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความสนใจจากทั้งนักออกแบบ นักสร้างสรรค์ รวมถึงนักสะสมที่หลงใหลในสไตล์วินเทจร่วมสมัย กับดีไซน์ที่มีความหมายสื่อถึงวัฒนธรรมอันโด่งดังของยุคสมัย
โดยรูปทรง “cloche” หรือทรงระฆังนั้นปรากฏขึ้นครั้งแรกในผลงานของ Cartier เมื่อปีค.ศ. 1920 และนำทางมาสู่การรังสรรค์นาฬิกา Cloche de Cartier ด้วยเอกลักษณ์ของการจัดวางรูปทรงระฆังนี้ในแนวนอน รวมถึงโครงร่างและเส้นสายที่ชวนให้หวนนึกถึง service bell ที่ดังขึ้นจากเคาน์เตอร์ให้บริการในสถานที่ต่างๆ จนกลายเป็นบรรยากาศและเสน่ห์ที่ชวนให้จดจำของยุคทเวนตี้ส์ และเหมือนกันกับนาฬิการุ่นสัญลักษณ์อื่นๆ ของแบรนด์ ที่ Cloche de Cartier ได้ตั้งชื่อตามรูปทรงที่กลายเป็นเอกลักษณ์ และถ่ายทอดได้ดีถึงความบริสุทธิ์ในงานออกแบบผ่านเส้นสายและแรงบันดาลใจอันชัดเจนที่อยู่เบื้องหลังผลงานนั้นๆ
นอกเหนือจากการทำงานกับรูปทรง เหมือนดังที่เราเห็นได้จากผลงานเด่นๆ อย่าง Tortue, Tank และ Baignoire แล้ว ทีมนักออกแบบของ Masion ยังผสมผสานไว้ด้วยภาพแห่งสุนทรียะความสวยงาม ทำให้ Cloche de Cartier สามารถถ่ายทอดไว้ด้วยหนึ่งในความสวยงามที่หาชมได้ยากที่สุดในโลกเรือนเวลา โดยนาฬิการุ่นใหม่นี้มาพร้อมรูปทรงระฆังจัดวางแบบแนวนอน บรรจุบนหน้าปัดด้วยสเกลรางรถไฟหรือ rail trackรวมถึงเครื่องหมายบอกชั่วโมงที่ประยุกต์มาจากรูปทรงอสมมาตรของหน้าปัด ขณะที่เม็ดมะยมยังคงประดับด้วยคาโบชอง ซึ่งอุทิศให้กับประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาอันเป็นต้นตำรับของ Cartier จากรูปทรงและแนวคิดการสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร อย่างใน Cloche นี้ยังมอบความโดดเด่นด้านฟังก์ชัน เพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถอ่านค่าเวลาได้ทั้งขณะสวมใส่บนข้อมือ นอกจากนี้ยังสามารถถอดและเปลี่ยนรูปกลายเป็นนาฬิกาตั้งโต๊ะทำงานได้
ส่วนในแง่ของกลไก Cartier ได้พัฒนาและผลิตกลไกคาลิเบอร์ใหม่ขึ้นสองชุดจากโรงงานการผลิตของตนเอง ณ La Chaux-de-Fonds ด้วยคุณสมบัติและคุณลักษณะพิเศษที่จะสามารถติดตั้งอยู่ภายในตัวเรือนรูปทรงพิเศษนี้ได้เช่นกัน โดยโครงสร้างทางฟังก์ชันทั้งหมดได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ รวมถึงความสวยงามและความสมบูรณ์แบบทางเทคนิคกลไก ที่พร้อมจะบรรจุอยู่ในเวอร์ชันหน้าปัดคลาสสิกตามประเพณี และเวอร์ชันนาฬิกาสเกเลตันของ Cloche de Cartier ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์
ซึ่งนับตั้งแต่ปีค.ศ. 2001 ทุกกิจกรรมของการสร้างสรรค์และประดิษฐ์นาฬิกาของ Cartier ได้มารวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันของโรงงานการผลิตแห่งนี้ นับตั้งแต่การสร้างคอนเซปต์ การพัฒนาและผลิตด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับงานฝีมือตามประเพณีดั้งเดิม เช่นเดียวกับที่ Cloche de Cartier ได้ผ่านขั้นตอนและกระบวนการสร้างสรรค์เหล่านี้มาอย่างเข้มข้น และจากตำนานที่หลับใหล มากว่าหนึ่งศตวรรษ Cloche de Cartier ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับความสวยงามและเสน่ห์ที่เหนือกาลเวลา
หากย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกาด้วยรูปทรงที่โดดเด่นและแตกต่างของ Cartier แล้ว จะพบว่าเส้นทางเหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยสีสันและความน่าประหลาดใจ จากนาฬิการูปทรงที่ต่างออกไปจากรูปทรงกลมมนแบบคลาสสิก ที่ Cartier ได้ฝากผลงานไว้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือแม้แต่ทรงรียาว นับตั้งแต่ผลงานรุ่นเอก อย่าง Santos de Cartier ที่เปิดตัวในปีค.ศ. 1904 จนถึง Tank ในปีค.ศ. 1917
Maison แห่งนี้ได้ฉีกออกจากกฏแห่งประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกามาสู่การเล่นกับรูปทรงเรขาคณิตและแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งนั่นรวมไปถึง Cloche de Cartier ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งนาฬิการุ่นหายาก ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ตั้งใจออกแบบและผลิตขึ้นสำหรับหนุ่มสาวสังคมชั้นสูงยุคทเวนตี้ส์ หรือแม้แต่ในแวดวงนักแข่งความเร็ว โดยการออกแบบนาฬิกานี้ตั้งใจให้เหล่านักขับสามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน เช่นจากการแสดงเวลาแบบมุมเอียง หรือส่วนที่โค้งกลมมนถูกออกแบบให้ยกขึ้นและเอียงไปทางขวามือมากขึ้น ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ยังได้ถ่ายทอดมาถึงนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมสายข้อมือ และเปลี่ยนรูปโดยการวางเป็นนาฬิกาตั้งโต๊ะทำงานได้ด้วย
Cartier Privé – The New Cloche de Cartier
Cloche de Cartier รุ่นใหม่ของปีนี้ยังคงสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับนักสะสม และเรียกได้ว่าถอดต้นแบบจากนาฬิกาต้นตำนานกว่า 100 ปีมาได้อย่างสมบูรณ์ โดยนำเสนอให้เลือกทั้งในรุ่นตัวเรือนพิงค์โกลด์, เยลโลโกลด์ และแพลทินัม พร้อมทั้งรหัสงานออกแบบทั้งหมดของ Cartier ไม่ว่าจะเป็นสเกลบอกเวลาแบบรางรถไฟ เข็มชี้ทรงดาบ และคาโบชองประดับบนยอดเม็ดมะยม รวมถึงงานตกแต่งแบบดั้งเดิม ทั้งงานขัดซาตินบนฝาหลัง งานขัดเงาระหว่างหูตัวเรือนและขอบข้างตัวเรือน พร้อมทั้งหัวใจในการขับเคลื่อนนาฬิกา ที่รุ่นใหม่นี้ติดตั้งไว้ด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ 1917 MC Manufacture คาลิเบอร์ที่สร้างสรรค์ขึ้นในปีค.ศ. 2019 โดยสวมใส่ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยรูปทรงที่รับไปกับสรีระข้อมือ รวมถึงการประกอบคู่มากับสายหนังจระเข้
รวมถึงยังมีอีกหนึ่งเวอร์ชันของ Cloche de Cartier Skeleton ที่มีให้เลือกในสามรุ่น ระหว่างตัวเรือนพิงค์โกลด์, แพลทินัม และแพลทินัมประดับเพชร โดยเปิดเปลือยให้เห็นการขับเคลื่อนของกลไกไขลานด้วยมือ 9626 MC Manufacture ที่ประยุกต์มาจาก 1917 MC Manufacture ผ่านทางหน้าปัดแบบโอเพนเวิร์คทั้งหมด รวมถึงการสลักเสลาแบบโปร่งเปลือยของตัวเลขโรมันไปจนถึงสะพานจักร ส่วนบนเม็ดมะยมไขลานของรุ่นแพลทินัมมอบความสง่างามพิเศษจากการประดับด้วยทับทิมคาโบชอง และรุ่นแพลทินัมประดับเพชร ตกแต่งบนยอดเม็ดมะยมด้วยเพชรหนึ่งเม็ด รวมถึงบนหัวเข็มขัดสายประดับด้วยเพชรเช่นกัน Cloche de Cartier แต่ละรุ่นทั้งหมดผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษ
นับเป็นผลงานแห่งวิวัฒนาการที่ปลุกฟื้นตำนานของยุคทเวนตี้ส์ให้กลับมาสวยเด่น และยังเติมสีสันให้กับคอลเลกชันนักสะสมได้อย่างสมบูรณ์สำหรับ Cloche de Cartier ตัวแทนของรูปทรงและความอสมมาตรของนาฬิกา ที่แม้แปลกตา แต่ก็ชวนให้หลงใหล
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF Cartier
MUSIC: www.bensound.com
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่