ฉลองให้กับงานดีไซน์และอิสระในการสร้างสรรค์ นำมาสู่การเปิดตัวผลงานใหม่ล่าสุดของ Breitling Top Time Classic Cars Capsule Collection
Breitling Top Time Classic Cars Capsule Collection อุทิศให้กับเหล่าสปอร์ตคาร์คลาสสิกนับจากยุค 1960s และฉลองให้กับงานดีไซน์ รวมถึงความเป็นอิสระในการสร้างสรรค์ของ Breitling (ไบรทลิ่ง) ที่ล่าสุดแบรนด์ได้เปิดตัว Capsule Collection ของนาฬิกาโครโนกราฟวินเทจเรซิ่งใหม่ ที่ถอดต้นแบบมาจากบรรดารถคลาสสิกระดับไอคอนไว้ใน Top Time Classic Cars Capsule Collection
ไม่ว่าจะเป็น Chevrolet Corvette, Ford Mustang และ Shelby Cobra สามไอคอนแห่งวัฒนธรรมยานยนต์อเมริกัน ซึ่งต่างก็เป็นที่มาของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นาฬิกาโครโนกราฟสามเวอร์ชั่นสไตล์วินเทจเรซิ่งของคอลเลกชั่นนี้ โดยแต่ละเวอร์ชั่นยังถอดต้นฉบับดั้งเดิมมาจากนาฬิการุ่นสุดโด่งดังของ Breitling อย่าง Top Time แห่งยุค 1960s ซึ่งออกแบบขึ้นสำหรับ “คนรุ่นใหม่และมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญ” ผู้มีไลฟ์สไตล์สุดแอคทีฟของยุคสมัยนั้น และวันนี้ได้ถูกตีความใหม่ในสไตล์โมเดิร์นเรโทรซึ่งน่าจะสะท้อนความเป็นคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณอันเป็นอิสระได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
“ผลงานนี้เป็นเรื่องราวของการเดินทาง ไม่ใช่กระแส และเป็นความจริงที่ไม่ว่าคุณจะซ่อมดูแลหรือขับรถออกไปสูดอากาศในช่วงวันอาทิตย์ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการฉลองให้กับเครื่องยนต์อันงดงามเหล่านี้เช่นกัน” Georges Kern, CEO ของ Breitling เผย
โดยนาฬิกาโครโนกราฟทั้งสามเวอร์ชั่นมาพร้อมรูปลักษณ์สไตล์มอเตอร์ริ่งอันโดดเด่น ไม่ว่าจะด้วยสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ของหน้าปัด ทั้งเฉดสีส้มและสีเหลือง หรือสีแดงและสีน้ำเงินที่ตัดกัน รวมไปจนถึงสายนาฬิกาที่ให้อารมณ์ความสปอร์ตเรซิ่งอย่างเต็มตัว โดยทำจากหนังวัวและตกแต่งแบบเจาะรูบนสาย ส่วนบนฝาหลังของนาฬิกาแต่ละเวอร์ชั่นยังทำจากสเตนเลสสตีล พร้อมทั้งงานแกะสลักที่ตกแต่งด้วยโลโก้ของรถไอคอนภายใต้มิติและรายละเอียดที่น่าประทับใจ ขณะที่ปุ่มกดควบคุมการจับเวลาโครโนกราฟนั้นยังดีไซน์มาด้วยสไตล์เรซิ่งเดียวกันกับนาฬิกา ซึ่งทั้งสามเวอร์ชั่นมาพร้อมประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกสูงสุด 100 เมตร หรือ 10 บาร์
มาสำรวจนาฬิกาแต่ละเวอร์ชั่นและรถแต่ละคันที่เป็นที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับ Top Time Classic Cars Capsule Collection ทั้งสามรุ่นกันบ้าง เริ่มจาก Top Time Chevrolet Corvette นาฬิการูปลักษณ์สีแดงและดำที่ได้ต้นแบบมาจากงานดีไซน์สุดโดดเด่นของ Corvette C2 จากช่วงกลางยุค 1960s หรือที่รู้จักในหมู่คนคลั่งรถวินเทจกันว่า “Sting Ray” นอกจากนี้ยังมีเกร็ดเล็กๆ ชวนรู้อีกด้วยว่าผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ อย่าง Louis Chevrolet นั้นยังเป็นนักแข่งรถชาวสวิสที่เกิดใน La Chaux-de-Fonds เมืองต้นกำเนิดแห่งประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาสวิสอีกด้วย
สำหรับเจเนอเรชั่นที่สองอย่าง Chevrolet Corvette ซึ่งผลิตขึ้นนับจากช่วงปี ค.ศ. 1963 ถึง 1967 นั้นถือเป็นเวอร์ชั่นที่มีผู้คนตามหากันมากที่สุดสำหรับค่ายรถระดับตำนานแห่งอเมริกันนี้ ด้วยฉายา “Sting Ray” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรถต้นแบบสำหรับการแข่งขันในปี ค.ศ. 1959 จึงได้มาเป็นยานยนต์ที่มีสมรรถนะโดดเด่นทั้งสำหรับการขับขี่บนท้องถนนและบนสนามแข่งขัน และกลายเป็นรถในฝันตลอดกาลของบรรดาผู้ที่คลั่งไคล้รถสปอร์ตวินเทจทั่วโลกตราบจนถึงทุกวันนี้
ถัดมาคือ Top Time Ford Mustang นาฬิกาโครโนกราฟเวอร์ชั่นสีเขียวและน้ำตาลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถซึ่งพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1964 และถือเป็นจุดกำเนิดของรถประเภทใหม่สไตล์คอมแพคคาร์และเป็นยานยนต์สปอร์ตที่เข้าถึงได้ด้วยราคาที่จับต้องได้ จนกลายเป็นที่นิยมและถือเป็นรุ่นไอคอนิกที่บรรดาร็อกสตาร์และดาราฮอลลีวูดต่างให้ความสนใจและมีไว้ในครอบครองมากมาย รวมถึงการได้ร่วมปรากฎตัวและสวมบทบาทเด่นๆ บนจอเงินมาแล้วด้วย
Ford Mustang เจเนอเรชั่นแรกผลิตขึ้นนับจากปี ค.ศ. 1964 ถึง 1969 ในฐานะคอมแพคคาร์ในราคาที่จับต้องได้และยังคงรักษาไว้ด้วยสไตล์สปอร์ต จึงเหมาะทั้งการเป็นรถสำหรับครอบครัวและรถในอุดมคติของเหล่าผู้ที่ชื่นชอบรถสไตล์สปอร์ตสเตอร์แบบเรซิ่ง ซึ่งนั่นส่งผลให้พวกมันได้กลายเป็นหนึ่งในรถยอดนิยมในหมู่ร็อกสตาร์และดารานักแสดงชาย และได้ร่วมปรากฏตัวอยู่ในฉากภาพยนตร์ระดับตำนานของยุคมาแล้ว รถระดับตำนานที่ยังมีชีวิตอันเป็นที่รักนี้ยังคงมีการผลิตและเป็นเสมือนสะพานที่เชื่อมโยงลูกค้ายุคปัจจุบันสู่ความน่าหลงใหลในแบบที่มันเป็นในยุค 1960s ได้อย่างดี
ปิดท้ายด้วย Top Time Shelby Cobra นาฬิกาเวอร์ชั่นสีน้ำเงินและน้ำตาล ชวนให้นึกถึงขุมพลังของเครื่องยนต์ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยนักแข่งรถชาวอเมริกันผู้สร้างตำนานแห่งยานยนต์อย่าง Carroll Shelby ให้กับการแข่งขันความเร็วต่างๆ ของยุค 1960s พร้อมทั้งออกแบบรถที่ผสมผสานด้วยดีไซน์ตัวถังสไตล์บริติชคลาสสิกเข้ากับความดุดันจากวิศวกรรมและอัจฉริยะด้านความเร็วสไตล์อเมริกัน นาฬิการุ่นนี้จึงมอบให้ทั้งสัมผัสของความคลาสสิก ซ่อนด้วยความโมเดิร์นทันสมัย ขณะเดียวกันยังชวนให้นึกถึงการวาดสีน้ำเงินพร้อมทั้งแถบเรซิ่งสีขาวแบบเดียวกันกับตำนานแห่งสไตล์ Shelby Cobra
ณ ต้นยุค 1960s Carroll Shelby ผู้ชนะการแข่งขัน Le Mans ได้จินตนาการถึงยานยนต์ที่สามารถผสมผสานดีไซน์ตัวถังแบบบริติชเข้ากับวิศวกรรมการแข่งขันของอเมริกันไว้ด้วยกัน และจึงเป็นที่มาของการสร้างสรรค์ตำนานอย่าง Shelby Cobra สปอร์ตคาร์ที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติและสมรรถนะอันอัจฉริยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวถังเล็กและเบา แต่แข็งแกร่ง และไว้วางใจเชื่อถือได้ด้วยเครื่องยนต์แบบบิ๊กบล็อกของอเมริกัน และเมื่อมันเปิดตัวแนะนำขึ้นในปี ค.ศ. 1962 Cobra ก็กวาดความสำเร็จได้ในทันที โดยรถดั้งเดิมของ Shelby Cobra นั้นยังคงถือเป็นรถพลังแรงและเร็ว จึงเป็นที่ตามหามากที่สุดแม้ในทุกวันนี้
โดยนาฬิกาเวอร์ชั่น Top Time Chevrolet Corvette และ Top Time Ford Mustang นั้นมาพร้อมดีไซน์ตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.0 มิลลิเมตร และติดตั้งภายในด้วย Breitling Caliber 25 กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟ 1/8th ของวินาที และเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ผ่านประกาศนียบัตรรับรองโดย COSC รวมถึงสำรองพลังงานได้ประมาณ 42 ชั่วโมง นาฬิกาทั้งสองเวอร์ชั่นนี้บรรจุไว้ด้วยสเกลทาคีมิเตอร์ และหน้าปัดย่อยสีดำสามวงตัดกับสีหน้าปัดกลาง โดยบนหน้าปัดยังแสดงโลโก้ของรถที่เป็นแรงบันดาลใจไว้ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา
ขณะที่ในเวอร์ชั่น Top Time Shelby Cobra มีตัวเรือนขนาดเล็กกว่าเล็กน้อยด้วยเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.0 มิลลิเมตร ซึ่งภายในติดตั้งด้วย Breitling Caliber 25 กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟ 1/4th ของวินาที เที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์และผ่านประกาศนียบัตรรับรองโดย COSC โดยสำรองพลังงานได้ประมาณ 42 ชั่วโมง สำหรับรุ่นนี้บรรจุด้วยสเกลทาคีมิเตอร์สีขาวโดดเด่น รวมถึงหน้าปัดย่อยสองวงเฉดสีขาว บวกด้วยโลโก้ Cobra ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
Top Time Classic Cars Capsule Collection
ทั้งสามเวอร์ชั่นของ Top Time Classic Cars Capsule Collection ใหม่ล่าสุดนี้ไม่เพียงสร้างสรรค์ขึ้นเพื่ออุทิศให้กับรถสปอร์ตเรซิ่งวินเทจสุดคลาสสิก แต่ยังตั้งใจรังสรรค์ขึ้นเพื่อมอบสัมผัสแห่งอารมณ์ความรู้สึกได้ถึงความเป็นอิสระและความสนุกสนาน ที่จะพาเจ้าของเรือนเวลาเหล่านี้ท่องไปในห้วงเวลา และหวนนึกถึงสายลมที่ปะทะผ่านใบหน้าเมื่อนั่งประจำที่อยู่ในรถเรซิ่งวินเทจเหล่านี้เช่นกัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF BREITLING
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่