Breitling เผยสองสมาชิกใหม่ล่าสุดของครอบครัว Chronomat กับสไตล์ทันสมัยของ Chronomat Automatic GMT 40 และนาฬิกาสำหรับทุกๆ ข้อมือ อย่าง Super Chronomat Automatic 38
นับตั้งแต่เปิดตัวอีกครั้งในปี ค.ศ. 2020 คอลเลกชัน Chronomat ของ Breitling (ไบรทลิ่ง) ได้กลายเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีสูงสุด พร้อมทั้งนำเสนอด้วยความหลากหลายของขนาดตัวเรือน ซึ่งรวมไปถึงการเปิดตัวของนาฬิกาโครโนกราฟที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.0 มิลลิเมตร และนาฬิการุ่นสามเข็มทันสมัย ด้วยความกะทัดรัดกว่าในขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 32.0 มิลลิเมตร และวันนี้ Breitling ได้เติมเต็มความสมบูรณ์ของคอลเลกชันมากยิ่งขึ้น โดยการเผยโฉมสองสมาชิกใหม่ของ Chronomat ทั้งนาฬิกาสำหรับนักเดินทางใน Chronomat Automatic GMT 40 และ Super Chronomat Automatic 38
![Breitling The New Chronomat GMT 40 and Super Chronomat 38](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/10/Breitling-New-Chronomat_1.png)
เรียกได้ว่าไม่เพียงมีขนาดตัวเรือนใหม่ที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ในนาฬิกาแต่ละรุ่นยังได้นำความสดใหม่ในมิติอื่นๆ มานำเสนอพร้อมกันด้วย ทั้งในรุ่น Chronomat Automatic GMT 40 ซึ่งบรรจุด้วยความซับซ้อนของการแสดงเวลาสองไทม์โซน และด้วยรูปลักษณ์อันเรียบง่าย ขณะที่ความโดดเด่นของ Super Chronomat Automatic 38 นั้นแตกต่างด้วยขอบตัวเรือนประดับเพชรขนาดโอเวอร์ไซส์ สืบทอดเรื่องราวของ Chronomat ที่เริ่มต้นขึ้นในยุควิกฤตการณ์ควอตซ์ (quartz crisis) 1970s เมื่อประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาจำต้องเผชิญหน้ากับเทคโนโลยีและการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของบรรดานาฬิกาควอตซ์ กระนั้น ตลอดช่วงหลายปีนี้ ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นลูกค้าที่ยังคงหลงใหลในคุณค่าของนาฬิกาจักรกลโครโนกราฟ อย่าง บรรดาเหล่านักบิน และเป็นในปี ค.ศ. 1983 ที่ทีมฝูงบินผาดแผลงแห่งชาติอิตาลีในนาม Frecce Tricolori ได้ร่วมมือกับ Breitling ในการสร้างสรรค์นาฬิกาตามความต้องการของสมาชิกในทีม โดยเฉพาะความต้องการในแง่ของสมรรถนะและความแข็งแกร่งทนทานที่มากพอสำหรับการใช้งานในห้องนักบิน ขณะที่ยังคงไว้ด้วยสไตล์อันสง่างามสำหรับสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน
![Breitling The New Chronomat GMT 40 and Super Chronomat 38](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/10/Breitling-New-Chronomat_2.png)
และนั่นได้นำทางมาสู่การสร้างสรรค์นาฬิกาสปอร์ตอเนกประสงค์ ที่เปิดตัวด้วยองค์ประกอบเด่นๆ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนาฬิกาเหล่านั้น ทั้งแทปนูนสูงทั้งสี่แทป ณ ตำแหน่งแสดง 15 นาที ซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องกระจกแซฟไฟร์ ส่วนสายโลหะแบบ rouleaux ออกแบบมาให้สวมใส่ได้สบายและทนทาน โดยหลังจากที่นาฬิกา Frecce Tricolori เปิดตัวครั้งแรกและสร้างความสนใจได้อย่างมากมายนั้น เพียงหนึ่งปีต่อมา นาฬิกานี้จึงเปิดตัวสู่สาธารณชนและเป็นที่รู้จักกันด้วยชื่อ Chronomat พร้อมทั้งบรรจบกับช่วงเวลาที่ส่งสัญญาณถึงจุดสิ้นสุดของวิกฤตการณ์ควอตซ์ รวมถึงการกลับมาของนาฬิกาจักรกล และนับจากนั้นมา Chronomat ได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสร้างความตื่นเต้นให้กับคนรักนาฬิกาได้เสมอ
![Breitling The New Chronomat GMT 40 and Super Chronomat 38](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/11/Breitling-New-Chronomat_3-1168x730.png)
สำหรับรุ่นใหม่ของ Chronomat Automatic GMT 40 มาพร้อมสไตล์ของนักเดินทางท่องโลกผู้ทันสมัยและกระตือรือร้นที่จะขับเคลื่อนตนเองให้ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง โดยบรรจุไว้ด้วยความซับซ้อนของฟังก์ชัน GMT ผ่านการตีความใหม่ เพื่อมอบสไตล์แห่งความสวยงามที่เข้าถึงได้ง่าย ส่วนบนหน้าปัดซึ่งตกแต่งด้วยสีดำ หรือสีน้ำเงิน สีเขียว สีแอนทราไซต์ และสีขาวนั้น ผสมผสานอย่างลงตัวเข้ากับตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีลทั้งเรือนและรับไปกับทุกสไตล์การแต่งตัว ส่วนสเกล 24 ชั่วโมงแบบโทนออนโทนยังช่วยตัดให้เข็ม GMT สีแดงแสดงเวลาได้อย่างโดดเด่นยิ่งขึ้น
![Breitling The New Chronomat GMT 40 and Super Chronomat 38](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/11/Breitling-New-Chronomat_4.png)
Chronomat Automatic GMT 40 ติดตั้งด้วยกลไก Breitling Caliber 32 และ GMT ประกอบด้วยสเกล 24 ชั่วโมงที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามเวลาไทม์โซนที่สอง และอ่านค่าได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวลากลางวันหรือกลางคืน คงความเด่นของเม็ดมะยมทรง “หัวหอม” (onion crown) คุณลักษณะสุดคลาสสิกของ Chronomat ที่ตั้งชื่อมาจากรูปทรงโค้งโดมและเซาะร่อง กับคุณสมบัติหลักคือช่วยให้สามารถจับใช้งานได้ง่ายดาย รุ่นนี้รักษาประสิทธิภาพการกันน้ำได้ลึกระดับ 200 เมตร รวมไว้ด้วยสมรรถนะและสไตล์ที่รับไปกับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย หรือเดินทาง
![Breitling The New Chronomat GMT 40 and Super Chronomat 38](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/11/Breitling-New-Chronomat_5.png)
ขณะที่ใน Super Chronomat Automatic 38 ออกแบบมาอย่างสวยงามและเข้มแข็ง ด้วยตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38.0 มิลลิเมตร ผสานเข้ากับขอบตัวเรือนเรดโกลด์ 18 กะรัต หรือสเตนเลสสตีล ทั้งยังประดับเพชรแบบโอเวอร์ไซส์ โชว์ความโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หน้าปัดของรุ่นมีให้เลือกในสามเฉด ทั้งสีเงิน มินต์กรีน และไอซ์บลู ประกอบลงตัวมากับสายยางแบบ rouleaux หรือสายโลหะแบบ rouleaux ขัดเงา หรือสายหนังจระเข้
![](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/11/Breitling-New-Chronomat_6.png)
ไฮไลต์ของซีรีส์นี้ยังรวมไปถึง Super Chronomat Automatic 38 Origins นาฬิการุ่นแรกของ Breitling ที่สามารถติดตามถึงแหล่งที่มาของทองคำจากช่างฝีมือและเพชรสังเคราะห์ได้ ตรงตามมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม ซึ่งในรุ่น Automatic 38 นี้ยังสนับสนุน #SQUADONAMISSION ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และประสบการณ์อันงดงาม ที่จะขับเคลื่อนสิ่งที่ดียิ่งกว่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยภารกิจนี้ยังรวมไปถึงการเปลี่ยนผ่านผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของแบรนด์ไปสู่การใช้ทองคำจากช่างฝีมือและเพชรสังเคราะห์จากแหล่งที่มาที่มีความรับผิดชอบ ภายในปี ค.ศ. 2025
![](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/11/Breitling-New-Chronomat_7-1170x658.png)
Chronomat ใหม่ยังเปิดตัวมาพร้อมกับสี่โฉมหน้าใหม่ของ All-star squad ของ Breitling ที่ประกอบด้วยซูเปอร์สตาร์ของวงการกีฬาทั้งสี่คน ผู้ซึ่งล้วนเป็นตัวแทนถึงความเหนือชั้นด้านทักษะและเป็นยอดฝีมือในแต่ละเกมการแข่งขันของพวกเขาเอง อย่าง Erling Haaland (จากวงการฟุตบอล), Giannis Antetokounmpo (จากกีฬาบาสเก็ตบอล), Chloe Kim (จากสโนว์บอร์ด) และ Trevor Lawrence (อเมริกันฟุตบอล)
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF BREITLING
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่