Breguet (เบรเกต์) เผยโฉมเรือนเวลาสุดไอคอนิก Reine de Naples 8918 ในเฉดสีเขียวมิ้นต์ที่สดใสและสง่างาม
Breguet (เบรเกต์) ร่วมฉลองวันสตรีสากล หรือ International Women’s Day เผยโฉมเรือนเวลาสุดไอคอนิก Reine de Naples เพื่อยกย่องความเป็นผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงผู้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่มีความโดดเด่นในยุคสมัยของตนและเป็นผู้วางรากฐานสู่อนาคตอีกด้วย เช่น พระขนิษฐาในองค์จักรพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ต นามพระนาง Caroline Murat (แคโรลีน มูราต์) หนึ่งในสตรีผู้ทรงพระปรีชาสามารถและเป็นแรงบันดาลใจ พระนางทรงพระปรีชาญาณอย่างมาก ทรงรอบรู้ด้านวรรณกรรมและวัฒนธรรม รวมถึงทรงให้การสนับสนุนศิลปะและทรงเป็นนักสะสมอีกด้วย นอกจากพระองค์ทรงสนพระทัยในศิลปะและทรงสนพระทัยเรื่องเศรษฐกิจ สังคมและประเด็นด้านการศึกษาของอาณาจักรของพระองค์เอง รวมทั้งทรงมีส่วนร่วมให้เกิดโครงการต่างๆ เช่น การก่อตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กผู้หญิงและการปฏิรูปโรงงานแกะสลักเครื่องประดับจากปะการังอีกด้วย
นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก: จากดำริของสตรี รังสรรค์โดยฝีมือบุรุษ
Caroline Murat (แคโรลีน มูราต์) ทรงโปรดเรือนเวลาที่รังสรรค์โดย Abraham-Louis Breguet (อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์) มากเป็นพิเศษ และทรงสะสมเรือนเวลาฝีมือของอับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ไว้มากกว่า 30 เรือน ในยุคสมัยที่เหล่าสุภาพสตรีทั้งหลายสวมนาฬิกาเป็นสร้อยคอนั้น พระนางได้ทรงมีพระราชดำริที่ล้ำนำสมัยมาก โดยทรงสั่งให้อับราฮัม-หลุยส์ เบร์เกต์ประดิษฐ์นาฬิกา เพื่อให้พระองค์สวมใส่ที่ข้อพระกร ปีนั้นคือปีค.ศ. 1810 และผู้ก่อตั้งเบรเกต์ได้เริ่มต้นรังสรรค์เรือนเวลาที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน นั่นคือ นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก
จากการส่งมอบครั้งแรกในปีค.ศ. 1812 จนถึงการส่งซ่อมครั้งแรกในปีค.ศ. 1855 บันทึกข้อมูลของ Breguet ย้อนประวัติและคุณลักษณะต่างๆ ของเรือนเวลาเรือนนี้ ที่ต่อมาได้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ นาฬิกาทรงรีเรือนนี้ กับหน้าปัดสีเงินสลักลาย guilloché (กิโยเช่) ประกอบด้วยกลไกมากมาย ได้แก่ ระบบ repeater รอบละ15 นาที moonphase แสดงข้างขึ้นข้างแรม และฟังก์ชันแสดงอุณหภูมิ ส่วนสายนาฬิกาทำจากเส้นผมผสานเส้นไหมทองคำ ที่ช่วยให้สามารถสวมใส่นาฬิกาขึ้นข้อมือได้อย่างงามสง่าด้วยรายละเอียด ปัจจุบัน เรือนเวลาคอลเลกชัน Reine de Naples (แรน เดอ นาปล์) รังสรรค์ขึ้นในโทนสีอ่อนหลากหลายสีสัน ทั้งสีชมพู เทา ขาวและสีเขียวมิ้นต์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง
โดยเรือนเวลาเวอร์ชันนี้ ถ่ายทอดผ่านตัวเรือนไวท์โกลด์ 18K ขนาด 36.5 x 28.45 มิลลิเมตร หนา 10.1 มิลลิเมตร ประดับตกแต่งหน้าปัดมุก mother-of-pearl และขอบหน้าปัดประดับเพชรส่องประกายด้วยเทคนิค snow-setting หรือการฝังเพชรครอบคลุมเต็มทั้งตัวเรือน ล้อมรอบด้วยหลักนาทีทรงกลมสีดำที่ดูกลมกลืน แทรกการตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากนาฬิกาพกที่อับราฮัม-หลุย์ เบรเกต์ประดิษฐ์ขึ้น ฟังก์ชันแสดงเวลา บอกชั่วโมงและนาที โดยเข็มชั่วโมงและนาทีตกแต่งเข็มนาฬิกาสไตล์ open-tipped ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของเบรเกต์ เติมเต็มความงดงามด้วยเพชรทรงหยดน้ำประดับ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ส่วนหน้าปัดย่อยแบบ off-set ตกแต่งตัวเลขอารบิกแบบ transferred ในแบบฉบับเฉพาะของเบรเกต์ ประดับเพชรทรงหยดน้ำ
การเลือกใช้สีเขียวสองเฉดสำหรับทั้งตัวเลขและสีตัดขอบเสริมมิติให้ตัวเลขอารบิก ด้วยเอกลักษณ์ของหมายเลขตัวเรือนบนหน้าปัด ณ ตำแหน่งระหว่าง 11 และ 12 นาฬิกา ซึ่งการระบุหมายเลขเป็นธรรมเนียมสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งเบรเกต์ในยุคแรกๆ ทำให้สามารถบันทึกประวัติของนาฬิกาแต่ละเรือนได้ ขอบหน้าปัดด้านในและขอบตัวเรือนประดับเพชร 117 เม็ด ส่องประกายความงดงามรวมทั้งเม็ดมะยมประดับเพชรทรงหยดน้ำอีกด้วย เพื่อให้สมพระเกียรติพระราชินีผู้ยิ่งใหญ่
Breguet Reine de Naples 8918 ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Calibre 537/3 ชิ้นส่วน 191 ชิ้น ความถี่ 3.5 เฮิรตซ์ สำรองพลังงาน 45 ชั่วโมง ด้วยบาลานซ์สปริง และเอสเคปเมนต์มาตรฐานสวิสทำจากซิลิคอน ซึ่งซิลิคอนเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติหลากหลาย ทั้งทนทานต่อการกัดกร่อนจากการสวมใส่แล้ว และไม่ตอบสนองต่อสนามแม่เหล็กโลก ทำให้นาฬิกาขับเคลื่อนได้อย่างเที่ยงตรงมากขึ้น แต่ละชิ้นส่วนของกลไกรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตด้วยมือทุกชิ้นตามขนบธรรมเนียมของเบรเกต์ ด้านหลังกรุคริสตัลแซฟไฟร์ เผยให้เห็น weight ที่ทำจากแพลทินัม และกลไกที่สลักลวดลาย Côtes de Genève (โก้ต เดอ เชอแนฟ) ตกแต่งแบบลบเหลี่ยมและสกรู ที่สลักหมายเลขตัวเรือนกำกับบริเวณริมขอบสีทอง มีประสิทธิภาพการกันน้ำ 30 เมตร ประดับคู่สายนาฬิกาแบบสายหนังอัลลิเกเตอร์ และตัวล็อคสาย 3 ทบ ประดับเพชรเหลี่ยมเกสร 28 เม็ด
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF BREGUET