จับเข่าคุยกับ Bozs (บอส) – อภิวัฒน์ บริบูรณ์ทรัพย์ ศิลปินเดี่ยวคนแรกของค่าย OGME Entertainment ที่แกงส้ม-ธนทัต การันตีความปัง
หากพูดถึงค่ายโอจีมี เอนเตอร์เทนเม้นท์ (OGME Entertainment) ของหนุ่มแกงส้ม ธนทัต หลาย ๆ คนคงกำลังนึกถึงรายการเรียลลิตี้ Road To Idol รายการที่เฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่ที่มีพรสวรรค์และอยากทำงานบันเทิง เข้ามาประลองความสามารถกัน
และคัดเลือกจนได้สมาชิกไอดอลบอยแบนด์อย่าง ทวิกซ์ (TWIXT) ที่ได้ผลตอบรับจากแฟน ๆ เป็นอย่างดี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนหนุ่มแกงส้มวางแผนจะปล่อยรายการ Road To Idol ซีซันใหม่ออกมาเพิ่ม เพื่อเฟ้นหาไอดอลหญิงมาฟอร์มวงเกิร์ลกรุ๊ปดูบ้าง
แต่ความปังของค่ายโอจีมี เอนเตอร์เทนเม้นท์ยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะล่าสุด หนุ่มแกงส้มได้ฉลองศักราชใหม่ด้วยการเดบิวต์ศิลปินเดี่ยวคนแรกของค่าย อย่าง Bozs หรือ บอส อภิวัฒน์ บริบูรณ์ทรัพย์ หนุ่มตี๋วัย 26 ปี ดีกรีนักเศรษฐศาสตร์จาก Shanghai University of Finance and Economics ที่ขอทำตามความฝันของตัวเองให้เป็นจริงสักครั้ง
ความใฝ่ฝันในการจะเป็นนักร้องของเราเกิดขึ้นตอนไหน
ผมเป็นคนชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่อายุ 11 ขวบก็อยู่ชมรมร้องประสานเสียงของที่โรงเรียน รักในการร้องเพลงมาก เป็นสิ่งแรกในชีวิตที่เอ่ยปากบอกคุณแม่ว่าขอเรียนเสริม พอเริ่มโตขึ้นมีโอกาสได้ดูรายการประกวดแข่งร้องเพลงและรู้สึกชอบมาก ความรู้สึกของผมตอนนั้น อยากมีโอกาสร้องเพลงบนเวที มีเพลงเป็นของตัวเอง มีแฟนเพลงที่ชื่นชอบในผลงาน อยากเป็นเหมือนพี่ ๆ ศิลปินที่เราชอบในยุคนั้น
แล้วพอได้มาอยู่ตรงจุดนี้จริง ๆ แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง
กว่าจะมาได้ถึงจุดนี้ของบอสมันค่อนข้างยากเลยครับ เพราะหลังจากเริ่มรู้ว่าความฝันของเราคืออะไรก็วิ่งตามความฝันตลอด ไปออดิชั่นทุกเวที มีที่ไหนไปหมด ขึ้นเหนือลงใต้ แต่ก็ไม่สมหวัง
ด้วยความที่ยังเด็ก ช่วงอายุ 16-17 ปีก็เริ่มสับสนว่าหรือนี่อาจจะไม่ใช่ทางของเรา และตัวเราเองก็ไม่อยากร้องเพลงแล้วรู้สึกกดดันอีก เลยล้มเลิกทุกอย่าง ทิ้งความฝันการเป็นนักร้องไปเลยและตัดสินใจไปเรียนต่อที่เซี่ยงไฮ้เพราะคิดว่าคงทำฝันนี้ไม่สำเร็จแล้ว
แต่ในปัจจุบันนี้ มีโอกาสได้กลับมาร้องเพลง มาเป็นนักร้องอย่างที่เคยฝันแล้วจริง ๆ มันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ๆ เลยนะ แค่ได้เริ่มทำเพลง ร้องเพลงจริงจัง มีโอกาสได้ไป School Tour กับค่ายโอจีมีฯ แล้วมีน้อง ๆ แฟนคลับเข้ามาทักทาย ติดตามเราบนอินสตาแกรม ชื่นชอบเรา แค่นี้ก็รู้สึกดีมากๆ
กดดันไหม
ครับ ความฝันมันมาพร้อมความกดดันหลาย ๆ อย่าง กังวลว่าคนฟังจะชอบไหม เราจะทำออกมาได้ดีไหม หลาย ๆ อย่างมันเริ่มจริงจังมากขึ้นทำให้รู้สึกกดดัน แต่เราก็มีความสุขมาก ๆ ที่อย่างน้อย เวลานี้เราก็ได้ทำตามความฝัน ได้ร้องเพลงอย่างที่ต้องการ ทำให้เราอยากจะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ๆ ครับ
ชีวิตตอนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้สอนอะไรเราบ้าง
ถ้าพูดถึงชีวิตที่เซี่ยงไฮ้ มันแทบจะสอนทุก ๆ อย่างในชีวิตบอสเลยครับ บอสเติบโตและได้เรียนรู้การใช้ชีวิตจากที่นั่นเป็นความ ‘สุด’ ในทุก ๆ อย่างจากที่เซี่ยงไฮ้ ไม่ว่าจะเป็นดีใจที่สุด เสียใจที่สุด เกเรที่สุด อดทนที่สุด ทุกอย่างอยู่ที่นั่นหมดเลย
การอยู่เมืองนอกทำให้เราได้รู้จักการใช้ชีวิตที่ต้องอยู่ด้วยตัวเอง ไม่มีคุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุนหรือดูแลเรื่องการเงินต้องปรับตัวกับการอยู่ในสังคมเพื่อนฝูงที่ไม่ได้มีแค่คนไทย ทำให้เราต้องพยายามเข้าใจวิถีชีวิตหรือวัฒนธรรมของทั้งเพื่อนชาวจีนและเพื่อนต่างชาติที่มาเรียนร่วมกันที่มหาวิทยาลัย รวมถึงการได้ลองทำงานอื่น ๆ ที่ไม่เคยได้ทำ ได้ลองเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา และยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องราวเลยที่ได้เรียนรู้จากที่นั่น
ผมไปเรียนพร้อมน้องชาย ก็จะมีความวุ่นวายของพี่น้องอยู่เรื่อย ๆ สนุกดีครับ พวกเรามีเกเร กันบ้างตามประสาเด็กผู้ชาย แต่ซ่าส์ยังไง ก็ต้องเอาปริญญากลับมาไทยให้สำเร็จ ไม่งั้นเข้าบ้านไม่ได้ (หัวเราะ)
สิ่งที่ทำให้เราผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดและก็เป็นปัจจัยหลักในทุก ๆ เรื่อง คงเป็นความอดทนครับ อดทนกับแรงกดดันในทุก ๆ เรื่องราวที่เข้ามา อดทนกับการไปเริ่มต้นเรียนรู้ภาษาจีน การเรียนหนังสือในแต่ละวิชาซึ่งยากมาก
การใช้ชีวิตอยู่ที่จีน 4 ปี สำหรับบอส สิ่งที่สำคัญหลัก ๆ ของผมคือ ความอดทนนี่แหละครับ ที่ทำให้เราอยู่ที่นั่นได้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เรียนจบ เพราะเรื่องภาษาเราก็แทบไม่มีพื้นฐานมาก่อน หมดโควิด บินออกนอกประเทศได้เมื่อไหร่ ผมต้องกลับไปเซียงไฮ้อีกแน่ครับ อยากไปหาเพื่อน ๆ กลัวลืมภาษาจีน (หัวเราะ)
อยากให้เล่าถึงประสบการณ์และความสนุกในการได้เข้ามาฝึกที่โอจีมี อคาเดมี (OGME Academy)
ถ้าให้เล่าถึงโอจีมี อคาเดมี ต้องพูดถึงคลาสการแสดงเลย บอสมีโอกาสได้เรียนคลาสการแสดงกับ พ่อหนู สุรศักดิ์ (คุณพ่อแกงส้ม ธนทัต) เป็นคลาสที่สนุกและได้ความรู้มากครับ
พ่อหนูเต็มที่และใส่ใจในทุก ๆ อย่าง ท่านเป็นกันเองกับพวกเรา ไม่ดุ คอยให้กำลังใจ แนะนำเสมอ คอยติคอยปรับให้พวกเรา
บอสจะเรียนการแสดงกันตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงหนึ่งทุ่ม ถึงจะเหนื่อย แต่ก็รู้สึกสนุก ตื่นเต้นตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่าจะเจออะไรในคลาสบ้าง ทุกอย่างแปลกใหม่ และทำให้ผมได้ความรู้จากเรียนการแสดงหลากหลาย ซึ่งสามารถเอาไปปรับใช้ได้กับแทบทุกอย่างในการทำงานวงการบันเทิงเลย
ในปีนี้ พอผมกำลังจะมีงานแสดงละคร และรู้สึกกังวล ติดต่อไปหาพ่อหนู ท่านก็เคลียร์คิว มาสอนการแสดงให้กับผมและน้อง ๆ ในค่ายที่แสดงร่วมกัน พ่อหนูก็จะคอยเตือนพวกเราเสมอ ว่าเวลามีงานที่เราต้องรับผิดชอบ ต้องตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด มันทำให้พวกเรารู้สึกอุ่นใจ และสนุกกับการเรียนรู้ที่มีพ่อหนูคอยให้คำปรึกษาเหมือนคนในครอบครัว
เพลง ‘คนคุย’ (Talker) ซิงเกิ้ลแรกของ Bozs
บอสเริ่มเขียนเพลง ‘คนคุย’ (Talker) ร่วมกับ ‘ตะวัน’ (aka Friday) ที่เรียนคลาสการแสดงด้วยกัน และลองทำเพลงนี้กันเล่น ๆ ช่วง Covid-19 ครับ แต่บังเอิญผู้ใหญ่ในค่ายได้ฟังและชอบ เลยส่งให้พี่แกงส้มฟัง พี่แกงส้มฟังแล้วก็ชอบและรู้สึกว่าสามารถเอามาพัฒนาต่อได้ เลยเข้ามาช่วยดูแลรายละเอียดดนตรีต่าง ๆ ปรับแก้ให้ จนบันทึกเสียงเสร็จสิ้นและออกมาเป็นเพลงนี้ครับ
การทำงานร่วมกับ ‘ตะวัน’ (aka Friday) เป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับบอส ‘ตะวัน’ คือเด็กที่อัจฉริยะทางด้านดนตรีมาก ๆ ต้องเล่าย้อนไปก่อนเลยว่าจริง ๆ เพลง ‘คนคุย’ ของบอสนี่เกิดขึ้นจากการที่ ‘ตะวัน’ ถามบอสว่า พี่อยากลองแต่งเพลงไหม ลองทำเพลงตัวเองไหม
แต่ตัวบอสเองในตอนนั้นความรู้ในการแต่งเพลงคือ 0 น้องเลยแนะนำว่าให้เริ่มเล่าชีวิตความรักช่วงนั้นของตัวเองและน้องก็เริ่มขึ้นดนตรีให้เลย
พอได้ Topic ที่อยากจะพูดในเพลง ก็เริ่มง่ายขึ้น ตัวบอสเองก็คอยฟังดนตรี คอยบอกน้องว่าอยากได้แบบไหน อยากให้ช่วงนี้ของเพลงเป็นยังไง น้องทำให้ได้หมดเลย (หัวเราะ) ทึ่งในความสามารถของ ‘ตะวัน’ มาก ๆ ครับ
ส่วนเราก็คอยแต่งเนื้อและเมโลดี้ให้เขากับดนตรีของน้อง จำได้ว่าตอนที่แต่งเพลงมีความสุขมาก เหมือนเจอส่วนสมองที่หายไปจากหัวเรา (หัวเราะ) น้องรู้ว่าบอสชอบแบบไหน อยากได้เพลงแบบไหน เสียงบอสเหมาะหรือไม่เหมาะกับเพลงไหน ก็รู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่ได้ทำงานร่วมกับน้องชายคนนี้ครับ
พี่แกงส้มให้คำแนะนำอย่างไรบ้างในการทำเพลง
พี่แกงส้มแนะนำเทคนิคให้เยอะมากเลยครับ เช่นเทคนิคการร้อง เพราะบอสจะติดเสียงสั่น ๆตลอดเวลา พี่แกงส้มก็เข้ามาช่วยแนะนำให้ รวมถึงการทำความเข้าใจการทำงานเพลงต่าง ๆ ว่าเราอยากได้ดนตรีแบบนี้ควรทำอย่างไร และเสียงของเราเหมาะกับเพลงแนวไหน
ไม่เฉพาะด้านการทำเพลง แต่พี่แกงส้มก็แนะนำเกี่ยวกับการทำงานในวงการบันเทิงหรือการออกไปร่วมงานกับคนอื่นด้วย
เรียกได้ว่าดูแลเป็นอย่างดี
ใช่ครับ ต้องบอกเลยว่าพี่แกงส้มใส่ใจในทุกอย่าง และคอยให้ความมั่นใจกับบอสตลอด เขาจะบอกตลอดว่า ถ้ามีอะไรสงสัย ให้ถามเขาได้เลย พิมพ์ไลน์มาทิ้งไว้ ถ้าพี่ไม่อ่าน ก็ให้โทรมาเลย แม้ว่าบางทีพี่เขาจะติดสายอยู่บ้าง เพราะพี่แกงส้มงานยุ่งครับ(หัวเราะ)
ทุกวันนี้พี่แกงส้มเป็นทั้งท่านประธานค่ายและเป็นเหมือนพี่ชาย เราสองคนอยู่ในวัยไม่ห่างกันมาก ผมเป็นลูกชายคนโต เลยมีพี่แกงส้ม เป็นเหมือนพี่ชายคอยรับฟัง ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ ให้แนวคิดการทำงานวงการนี้
หลายๆ ครั้งที่ผมมีปัญหาและมาปรึกษาพี่แกงส้ม ฟังความคิดเห็นและคำปรึกษาจากพี่เขาแล้วทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น ทำให้เรามีพลังใจ พร้อมลุยต่อ ต้องขอบคุณพี่แกงส้มที่ให้โอกาสผม เป็นส่วนหนึ่ง ในค่ายโอจีมีครับ(ยิ้ม)
ปีนี้จะได้ฟังเพลงใหม่ ๆ จากบอสหรือเปล่า
ได้ฟังกันแน่นอนครับ ทุกวันนี้ก็แต่งเพลงเรื่อย ๆ เหมือนการฝึกตัวเองไปในตัวด้วยครับ
พอทำเพลงแรกสำเร็จ ก็ทำให้ยิ่งมีพลังในการทำเพลงต่อ ๆ ไป รู้สึกมีความสุข สนุกกับการทำงานและอยากทำผลงานดี ๆ ออกมาให้ทุกคนได้ฟังกันอีกตลอดทั้งปี ตอนนี้คงต้องรอคำแนะนำ ติ ชม จากทุกคน จากเพลงแรกนี้ก่อน เพื่อที่ผมจะได้พัฒนาในผลงานใหม่ต่อไปครับ (ยิ้ม)
อยากให้บอสฝากถึงคนที่มีความฝันอยากจะเป็นนักร้อง
บอสเชื่อว่าคนมากมายมีฝันแบบเดียวกับบอสเยอะ จากที่บอสเล่ามาจะเห็นได้เลยว่า เรามีฝันแล้วเราควรที่จะตั้งใจทำมันไปเรื่อย ๆ ครับ คนเรามีท้อบ้างแต่อย่าถอยเหมือนอย่างที่ผมเคยท้อแล้วหายไป ทิ้งช่วงเวลาหนึ่งให้หายไปเฉย ๆ แต่ผมยังโชคดีที่มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง
อยากให้ทุกคนลองมุ่งมั่น ตั้งใจให้มากกว่าเดิม ลงมือทำมากกว่าเดิม บอสเชื่อว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จแน่นอนครับ ขอแค่ทุกคนอดทน พยามยามให้มาก มุ่งมั่น ตั้งใจให้เต็มที่สุดกำลัง ที่เรามี และมีความสุขให้มากที่สุดกับสิ่งที่เราเลือกทำตามความฝันครับ ไม่ว่าเราจะสมหวังหรือไม่แต่เราก็ได้ประสบการณ์และความทรงจำต่าง ๆ ในชีวิต ได้เรียนรู้ชีวิตเพิ่มมากขึ้นกับสิ่งที่เราพยายามและทุ่มเทไปครับ
หรือถ้าหากเราไม่ถึงฝันที่เราหวัง แต่อย่างน้อย ชีวิตเราก็ได้รู้ว่าเราได้ตั้งใจทำมันสุดแล้วจริง ๆ หรืออย่างน้อย ตัวเราเองก็จะได้ไม่มาคิดเสียใจภายหลังว่าทำไมช่วงเวลานั้น เราไม่พยายามทำมันให้ถึงที่สุด เพราะเวลามันผ่านไปอย่างรวดเร็ว บอสไม่อยากแก่ตัวไปแล้วมานั่งคิดว่า… ‘รู้งี้’ เราตั้งใจพยายามกว่านี้ดีกว่า ! ‘รู้งี้’ เราอดทน สู้อีกสักนิดดีกว่า ! บอสไม่อยากเป็น ‘โรครู้งี้’ ครับ (หัวเราะ)
ติดตามผลงานใหม่ ๆ ของบอสได้ที่ YouTube Channel : OGME ENTERTAINMENT