Blood Sweat Tears and Ink: Back to the Comics


“Blood Sweat Tears and Ink: Back to the Comics” นิทรรศการที่นำเสนอเรื่องราวการเดินทางของนักเขียนการ์ตูนมากฝีมือทั้ง 4


ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ภูมิใจนำเสนอ “Blood Sweat Tears and Ink: Back to the Comics” นิทรรศการที่นำเสนอเรื่องราวการเดินทางของนักเขียนการ์ตูนมากฝีมือทั้ง 4 นั่นคือ ไตรภัค สุภวัฒนาม, อภิสิทธิ์ หมื่นนาค, สุทธิชาติ ศราภัยวานิช และ ทรงวิทย์ สี่กิติกุล ศิลปินผู้ที่ถึงแม้จะต้องแลกหยาดเหงื่อ นํ้าตา และทุ่มเทชีวิตด้วยเลือดเนื้อสู่หยดหมึกบนหน้าหนังสือตลอดระยะเวลาการเดินทางบนเส้นทางการเป็นศิลปิน แต่ศิลปินทั้ง 4 คน ก็ยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนื่องและยืนหยัดในวงการมาจนถึงปัจจุบัน

‘จิรัชญานันทน์ ผลัดรื่น’ คิวเรเตอร์มากความสามารถผู้หลงใหลในเสน่ห์ของการ์ตูนตั้งแต่เด็ก ๆ ทั้งพล็อตเรื่องอันชวนติดตาม ตัวละครที่เข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งลายเส้นอันมีเอกลักษณ์ของศิลปิน ได้สั่งสมความประทับใจเหล่านั้นที่มีตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันมาถ่ายทอดออกเป็นผลงานในนิทรรศการของเธอผ่านการชักชวนนักวาดการ์ตูนที่ยังอยู่ในความทรงจำตลอดมา

โดยในนิทรรศการครั้งนี้ ศิลปินแต่ละท่านได้ถ่ายทอดชีวิตการเป็นศิลปินของตนเองภายใต้คอนเซ็ปต์ “Blood Sweat Tears and Ink” ซึ่งเล่าเรื่องราวความเป็นมาของศิลปินแต่ละท่านตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการเป็นนักเขียนการ์ตูน มิตรภาพในแวดวงนักเขียนการ์ตูน และการพัฒนาแนวทางการงานศิลปะไปในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ชมในยุคก่อนที่คิดถึงผลงานการ์ตูนของศิลปินสามารถย้อนระลึกวันวานและสัมผัสผลงานลายเส้นที่เขียนด้วยนํ้าหมึกบนกระดาษที่คุ้นเคยกันได้อีกครั้ง ส่วนผู้ชมในยุคปัจจุบันก็จะได้สัมผัสผลงานจากปลายพู่กันที่แต้มสีลงบนเฟรมผ้าใบแคนวาสอย่างร่วมสมัยซึ่งหาชมได้ยากในสมัยนี้

นอกจากนี้ นิทรรศการยังนำเสนอศิลปะประยุกต์มากมายเพื่อให้ผู้ชมได้มีโอกาสเข้าชมและสะสมผลงานในแขนงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ์ดหรือชิ้นงานประติมากรรม โดยมีไฮไลท์สำคัญคือหนังสือการ์ตูนรวมเล่มของศิลปินทั้ง 4 ท่าน ที่จะเปิดตัวที่แรกในงานนิทรรศการนี้

เกี่ยวกับศิลปิน

1. อภิสิทธิ์ หมื่นนาค

Blood Sweat Tears and Ink: Back to the Comics

ศิลปินบอกเล่าเรื่องราวของ “Blood” ที่แปลว่า “เลือด” ซึ่งเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงคนที่เป็นนักเขียนการ์ตูนให้ได้มีพลังใจที่จะทำงานต่อไป โดยในนิทรรศศิลปะครั้งนี้ อภิสิทธิ์ได้บอกเล่าเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับหนังสือการ์ตูน ตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักเขียนการ์ตูนที่ได้เจอเพื่อนและประสบการณ์ใหม่ ๆ จากนักเขียนการ์ตูนที่เขาเคยเห็นผลงานผ่านหน้ากระดาษและพอวันเวลาผ่านไปก็ได้มาทำงานร่วมกัน

อภิสิทธิ์ได้เขียนการ์ตูนรวมเล่มกับศิลปินรุ่นพี่นักเขียนการ์ตูนอีก 3 ท่าน ที่บอกเล่าเรื่องราวของเลือดที่สื่อได้ถึงกำลังใจและพลังชีวิตที่นักเขียนการ์ตูนทุกคนน่าจะต้องการ เพราะการเขียนการ์ตูนนั้นเหนื่อยยาก และเมื่อได้รับกำลังใจจากใครสักคนที่เขาเห็นคุณค่าในการทำงานของเรา นั่นคือสิ่งที่มีทำให้เรามีกำลังใจ โดยในการ์ตูนเรื่อง Blood นี้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับ คุณหมู ไตรภัค สุภวัฒนา (PUCK) มากพอสมควร เนื่องจากเขาพบกับคุณหมู ไตรภัค ครั้งแรกในสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย คณะนิเทศศิลป์ ตอนนั้นเขาชอบวาดการ์ตูนมาก เมื่อได้รับโจทย์ให้วาดอะไร เขาก็มักจะวาดการ์ตูนก่อนเสมอโดยที่ยังไม่แน่ชัดนักว่าจะวาดไปเพื่ออะไร จนมาเจอคุณหมู ไตรภัค ที่ทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขากำลังสร้างสรรค์อยู่เป็นผลงานที่มีคุณค่า เขาได้รับกำลังใจและเกิดความเชื่อมั่น กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง และยืนหยัดสร้างสรรค์ผลงานในแบบของตัวเองต่อไป

2. ทรงวิทย์ สี่กิติกุล 

ศิลปินผู้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “Sweat” ซึ่งเป็นคำที่อธิบายว่านี่คือความเหนื่อยยากแสนสาหัสของนักเขียนการ์ตูนที่ต้องแลกมาด้วยหยาดเหนื่อยและความยากลำบากในทุก ๆ หน้า โดยแรงบันดาลใจในการเขียนการ์ตูนของทรงวิทย์นั้นเริ่มมาตั้งแต่เขายังเด็ก ในยุคที่ความบันเทิงมีไม่มาก การ์ตูนก็เป็นความบันเทิงอย่างเดียวที่พาเขาออกไปเจอโลกใบใหญ่ที่แตกต่างไปจากโลกที่เขาเคยพบเห็น จนเขาเกิดความรู้สึกอยากวาดการ์ตูนขึ้นมาบ้าง 

ทรงวิทย์เริ่มใฝ่ฝันที่จะสร้างการ์ตูนของตัวเองขึ้นมาจากอิทธิพลที่ได้รับจากการ์ตูนที่เขาอ่าน พอเขาเริ่มวาดการ์ตูนก็มีเพื่อน ๆ มาดู ซึ่งกลายมาเป็นแรงผลักดันให้เขาวาดการ์ตูนต่อมาเรื่อย ๆ จนครั้งหนึ่งเขามีโอกาสได้เห็นผลงานการ์ตูนของ สุทธิชาติ ศราภัยวานิช นักเขียนการ์ตูนชื่อดังในนิตยสาร และเกิดแรงบันดาลใจและอยากเขียนการ์ตูนแบบนั้นดูบ้าง จนในที่สุดเขาก็ได้รู้จักกับ คุณสุทธิชาติ ศราภัยวานิช และได้ร่วมหัวจมท้ายเขียนการ์ตูนและออกแสดงผลงานในนิทรรศการด้วยกันในครั้งนี้

3. ไตรภัค สุภวัฒนา (PUCK) 

Blood Sweat Tears and Ink: Back to the Comics
Blood Sweat Tears and Ink: Back to the Comics

ศิลปินผู้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “Tears” ที่แปลความหมายตรงตัวว่า “น้ำตา” ในกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานชุดนี้ ไตรภัคได้ย้อนกลับไปคิดถึงช่วงชีวิตการเป็นนักเขียนการ์ตูนเมื่อ 17 ปีก่อนอีกครั้ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ด้วยกลีบกุหลาบเลย สำหรับไตรภัคแล้ว รากเหง้าของเขาเป็นนักเขียนการ์ตูนมาเสมอ ทั้งวิธีคิด วิธีการสร้างคาแรคเตอร์ ตลอดจนวิธีการเล่าเรื่อง เขาได้มาจากการเขียนการ์ตูนทั้งหมด โดยผลงานในนิทรรศการครั้งนี้ เขาตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราวความเจ็บปวดในชีวิตของนักเขียนการ์ตูนที่มีความยากลำบากและหยิบเอาความรู้สึกนี้ออกมาถ่ายทอดในรูปแบบการ์ตูนที่บอกเล่าเรื่องราวการแบกความฝันความหวังที่เรามีเพื่อออกตามหาดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความฝันสักดอกหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก โดยเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าดอกไม้ที่เราว่าดีและสวยงามนั้นซ่อนอยู่ตรงไหนของป่านี้กันแน่

นอกจากนี้ ไตรภัคยังบอกเล่าถึงการตามหาฝันครั้งแรกเริ่มที่ทำให้เขาอยากเป็นนักเขียนการ์ตูนผ่านตัวละครเด็กผู้ชายที่กำลังตามหาความฝันคนหนึ่งที่อยากจะมีหนังสือการ์ตูนเป็นของตัวเองสักเล่ม ไตรภัคได้แทนอุดมการณ์และความฝันกับแจกันดอกไม้ เมื่อวันหนึ่งที่เราเจอหนังสือการ์ตูนหรือแรงบันดาลใจที่ชื่นชอบ แจกันใบนั้นก็ตกมาจากฟ้าให้เราถือและเริ่มออกวิ่งตามหาดอกไม้ที่จะมาใส่ในแจกัน ถึงแม้จะต้องฝ่าฟันไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ยิ่งไปกว่านั้น เขายังหยิบเอาการแทนค่าสัญญะของสีโทนน้ำเงินและสีครามที่สื่อถึงความลึกลับและลักษณะของลวดลายครามที่อยู่บนเครื่องเคลือบหรือพวกดินเผาเพื่อให้กลมกลืนไปกับแจกันซึ่งเป็นภาชนะสำหรับใส่ดอกไม้แห่งความฝันอีกด้วย

4. สุทธิชาติ ศราภัยวานิช

Blood Sweat Tears and Ink: Back to the Comics

ศิลปินนำเสนอเรื่องราวของ “Ink” ที่บอกเล่าถึงความสุขและความเจ็บปวดของการทำงานในอาชีพนักเขียนการ์ตูนที่เกิดขึ้นในคราวเดียวกัน โดยแรงบันดาลใจในการเป็นนักเขียนการ์ตูนของเขามาจากความหลงใหลในการ์ตูนมังงะที่สุทธิชาติประทับใจในเสน่ห์ของมันที่สามารถย้อนกลับไปอ่านได้เรื่อย ๆ จะอ่านช้า อ่านเร็ว หรืออ่านซ้ำยังไงก็ได้ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ต่างจากการ์ตูนทางทีวีสมัยก่อนที่ดูแล้วผ่านแล้วผ่านเลย ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ โดยมังงะเรื่องแรกที่เขาอ่านคือ “โดราเอม่อน” จากจุดเริ่มต้นนั้นเขาจึงตามหามังงะเรื่องอื่น ๆ เท่าที่จะหาอ่านได้ ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเห็นลายเส้นของนักเขียนการ์ตูนที่แตกต่างกัน ราวกับได้เห็นงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการ์ตูนญี่ปุ่นในยุคนั้นจะเขียนต้นฉบับด้วยมือทั้งหมด จากความประทับใจนั้นจึงนำทางให้เขาอยากมีการ์ตูนเป็นของตนเองและกลายเป็นนักเขียนการ์ตูนในเวลาต่อมา นอกจากนี้ ความสนใจในการ์ตูนมังงะจึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำงานหลายอย่างของสุทธิชาติ อาทิ ปัจจุบันในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัยผู้มีหนึ่งในเนื้อหาในการสอนเกี่ยวกับ “Comics” 

จุดเริ่มต้นในการทำงานชุดนี้ของสุทธิชาติเกิดจากเมื่อปลายปีที่แล้วเขามีความคิดว่าอยากจะกลับมาเขียนการ์ตูนจริงจังอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงหลายปีมานี้ที่สื่อสิ่งพิมพ์หายไปและเขาก็ไม่ค่อยได้เขียนการ์ตูนรายเดือน โดยสุทธิชาติได้วาดต้นฉบับการ์ตูนตอนที่เขียนขึ้นใหม่สำหรับนิทรรศการในครั้งนี้ เขาได้ใช้สีดำ แดง น้ำเงิน เป็นหลัก ให้เหมือนกับการ์ตูนหน้าสองสีในหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ของญี่ปุ่น รวมไปถึงสีแดง ขาว น้ำเงิน ที่เป็นเป็นสีประจำชาติของประเทศไทยและในชื่อเขาก็มีคำว่า “ชาติ” อยู่พอดีอีกด้วย

แล้วพบกันในนิทรรศการที่จะพาคุณย้อนไปชมกับเสน่ห์หนังสือการ์ตูนพิมพ์มืออีกครั้ง

เปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 8 – 30 มิถุนายน 2567 ที่ RCB Artery ชั้น 1 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก


CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF
RIVERCITY BANGKOK


สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn
On Key

Related Posts

14 BEST BIRTHDAY PERFUME

Post Views: 17 แชร์ลิสต์ 14 น้ำหอมเสริมดวงตามวันเกิด อัพความปัง เสริมเสน่ห์ให้พุ่งทะลุเพดาน จะเก็บไว้เป็นเช็คลิสต์เพื่อช้อปน้ำหอมขวดใหม่ให้ตัวเองหรือเ…

Mystical-Tarot-

Your Tarot Weekly

Post Views: 111 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม– วันเสาร์ที่​ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ นิสัย​ของดาว : ยศศักด…

100 Years of Trinity: Celebrating Cartier’s Iconic Collection

Post Views: 81 คาร์เทียร์ฉลองครบรอบ 100 ปีของคอลเลกชัน Trinity ด้วยการเดินทางแสนพิเศษผ่านนิทรรศการอิมเมอร์ซีฟ ณ ประเทศสิงคโปร์ Cartier (คาร์เทียร์) ฉล…

Exploring Perspectives: A Journey Through the Lens at Leica Gallery Frankfurt Germany

Post Views: 81 งานนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้งแรกในระดับนานาชาติ ณ Leica Gallery Fran…