บอกลาส่วนเกินด้วยนวัตกรรมกระชับสัดส่วน เพื่อรูปร่างสวยเฟิร์มทุกมิติ พร้อมเคล็ดลับต่อสู้เซลลูไลท์ตัวร้ายด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายให้เรียวกระชับได้รูป
มาทำความรู้จักกับไขมันในร่างกาย ศัตรูตัวฉกาจของความงาม
ไขมันช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นส่วนแรกที่ไขมันจะมาสะสมในร่างกาย ไขมันชนิดนี้ยิ่งมีเยอะยิ่งอันตราย เพราะแทรกอยู่ตามอวัยวะ และกดทับอวัยวะภายใน ทำให้เกิดโรคเรื้อรังมากมาย เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว ทำให้แก่เร็ว การลดไขมันส่วนนี้ต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกายแบบแอโรบิค เพื่อให้ร่างกายนำไขมันมาใช้เป็นพลังงานให้มากที่สุด
ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) เป็นส่วนที่สองที่ไขมันจะมาสะสม และใช้เป็นพลังงานต่อจากไกลโคเจน โดยร่างกายส่วนที่สะสมไขมันส่วนนี้ได้ดี ได้แก่ ท้อง เอว สะโพก และต้นขาส่วนบน การลดไขมันส่วนนี้ใช้วิธีเดียวกับการลดไขมันในช่องท้อง แต่จะลดได้ง่ายกว่า
ออกกำลังกายก็แล้ว ควบคุมอาหารก็แล้ว ทำไมยังหุ่นยังไม่เฟิร์มเสียที?
เพราะปัญหารูปร่างไม่ได้เกิดจากน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาเรื่องของไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มที่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้ด้วยการออกกำลังกายแต่เพียงอย่างเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงต้องนำนวัตกรรมทางการแพทย์มาช่วยในการดูแลรูปร่างควบคู่กันไป มาดูกันว่าเทคโนโลยีกระชับสัดส่วนและกำจัดไขมันแบบไหนที่จะช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดีขึ้น
Radio-Frequency
เทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio-Frequency) ที่เรียกโดยย่อว่าพลังงาน RF โดยพลังงานชนิดนี้มีส่วนช่วยในการสลายไขมัน และกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินที่ยึดเกาะกันอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งการหดตัวกระชับขึ้นของเส้นใยเหล่านี้ จะส่งผลให้ผิวชั้นนอกตึงกระชับตามไปด้วย
4 ข้อดีของเทคโนโลยี Radio-Frequency
- เห็นผลชัดเจนทันทีที่ทำ ไขมันถูกกำจัดออกจากร่างกายในทันที
- แก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีแผลเย็บ
- ผิวยกกระชับเรียบเนียนขึ้น
- สามารถลดไขมันส่วนเกินได้ประมาณ 1-7 เซนติเมตร
บริเวณที่ทำสามารถทำ Radio-Frequency ได้
หน้าท้อง สะโพก ต้นขา เอว ท้องแขน
Ultrasound
เทคโนโลยีอัลตร้าซาวน์เพื่อสลายไขมันที่ให้ผลลัพธ์พร้อมกัน 2 เรื่อง ทั้งช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้อย่างเฉพาะเจาะจง ตรงจุด และช่วยสลายพังผืดของเซลลูไลท์ในบริเวณที่มีเนื้อเยื่อไขมันตื้น เพื่อให้ผิวเรียบเนียนอย่างสม่ำเสมอ
4 ข้อดี สลายไขมันและเซลลูไลท์ด้วย Ultrasound
- สลายพังผืดของเซลลูไลท์ พร้อมได้ผิวเรียบเนียนเสมอกัน
- พลังงานอัลตร้าโซนิค สลายไขมันได้ตรงจุด
- ผิวกระชับ สัดส่วนลดลง
- สลายไขมันโดยไม่รบกวนเนื้อเยื่อโดยรอบ
บริเวณที่ทำสามารถทำ Ultrasound ได้
ต้นแขน หน้าท้อง เอว ก้น สะโพก ต้นขา
Infrared + Bipolar Radio-Frequency
เทคโนโลยีสลายไขมันเฉพาะจุดเพื่อผิวกระชับ เป็นการผสานร่วมกันระหว่างการทำงานของแสงอินฟราเรด (IR) และคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบ 2 ขั้ว (Bipolar RF) โดยมีหลักการสะสมความร้อนใต้ผิวหนังให้ได้อุณหภูมิถึงจุดที่เห็นผลในการรักษา จึงช่วยทำลายเซลล์ไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ
5 ข้อดีของเทคโนโลยี Infrared + Bipolar RF
- ช่วยเผาผลาญไขมันสะสม
- สลายไขมันส่วนเกิน ลดเซลลูไลท์
- ผิวกระชับเรียบเนียน
- ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้ผิวสุขภาพดีขึ้น
บริเวณที่ทำสามารถทำ Infrared + Bipolar RF ได้
หน้าท้อง สะโพก ก้น ต้นแขน ใต้คาง
Infrared Light
พลังงานอินฟราเรดบริสุทธิ์ที่ทำงานผ่านการใช้อุณหภูมิบำบัดโดยเตียงอินฟราเรด ทำหน้าที่ส่งผ่านคลื่นอินฟราเรดบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส แล้วปรับเป็นการแช่น้ำเย็นจัดในทันที กระบวนการทั้งหมดนี้จะกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้น ทำให้เกิดการสลายตัวของไขมันสะสม เซลลูไลท์ ในจุดต่างๆ ของร่างกายทันที
4 ข้อดีของเทคโนโลยี Infrared Light
- ไม่เกิดรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- เซลล์ไขมันสลายตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- ไม่ก่อให้เกิดอันตรายเพราะควบคุมด้วยเซ็นเซอร์ตลอดระยะเวลาในการทำ
- ไม่ก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบการทำงานของตับ และค่าไขมันในเลือด
บริเวณที่ทำสามารถทำ Infrared Light ได้
ต้นขาด้านในและด้านนอก สะโพก หน้าท้อง เอว หน้าอก เข่า ไขมันด้านหน้าและด้านหลังรักแร้ ต้นแขน ใต้คาง
หากนวัตกรรมกระชับสัดส่วนอาจมากเกินไปสำหรับคุณ อีกหนึ่งทางเลือกคือการใช้ผลิตภัณฑ์กระชับเรือนร่าง เพื่อให้รูปร่างดูสมส่วนและต่อสู้กับเซลลูไลท์ พร้อมลดภาวะผิวบวมน้ำ บอกลาผิวเปลือกส้มและปัญหารูปร่างส่วนเกินอันก่อให้เกิดความกังวล เพราะการมีเซลลูไลท์บริเวณเรียวขาอาจทำให้ผู้หญิงขาดความมั่นใจในการแต่งกาย Padthai.co รวบรวมวิธีลดเซลลูไลท์ง่ายๆ มาฝาก
วิธีแรกคือการหมั่นสครับขา ซึ่งทำให้เรามีขาที่ปราศจากความหมองคล้ำ เพราะเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นผิวชั้นนอก ทำให้ผิวดูสดใสและมีชีวิตชีวา โดยสามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้ฟองน้ำ ครีม ใยบวบ หินขัด หรือผ้าเช็ดตัว แต่การขัดผิวที่ดีควรทำอย่างนุ่มนวล และไม่ทำบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผิวบางเกินไปและทำให้ผิวแห้งกร้านอีกด้วย นอกจากนี้การนวดเป็นวงเบาๆ ให้ทั่วขาเป็นเวลา 10-20 นาทีทุกวัน ก็ช่วยให้ต้นขาปราศจากเซลลูไลท์และเล็กลงได้
นอกจากนี้การออกกำลังกายเบื้องต้นก็ช่วยเซลลูไลท์ได้ พร้อมด้วยการลดไขมันและน้ำตาล ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว อบไอน้ำ ซาวน่า รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือดื่มน้ำผักน้ำผลไม้ ชาสมุนไพรเพื่อให้ร่างกายขับของเสีย ก็จะช่วยให้เซลลูไลท์น้อยลงได้ แต่หากกลับมารับประทานตามใจปากตามปกติ เซลลูไลท์ก็จะกลับมาได้
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายให้เพรียวกระชับได้รูป
1. CLARINS Contour Body Treatment Oil
2. COOLA Sunless Tan Firming Lotion
3. FRANK BODY Booty Drops Firming Body Oil
4. GOOP G.Tox 5 Salt Detox Body Scrub
5. HYDROPEPTIDE Firming Moisturizer Slimming Body Rejuvenation
6. KATE SOMERVILLE ExfoliKate Resurfacing Body Scrub
7. LA PERLA Firming Body Lotion Serum
8. LEGOLOGY Legology C-L Salon Secret Legs
9. SHISEIDO Super Slimming Reducer
10. SISLEY Sisleya L’Intégral Anti-Age Concentrated Firming Body Cream
11. STRIVECTIN Crepe Control Tightening Body Cream
12. U BEAUTY The Sculpt Arm Compound
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF CLARINS, COOLA, FRANK BODY, GOOP, HYDROPEPTIDE, KATE SOMERVILLE, LA PERLA, LEGOLOGY, SHISEIDO, SISLEY, STRIVECTIN, U BEAUTY
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่