Audemars Piguet: Royal Oak Self-Winding for Women เรือนใหม่สำหรับผู้หญิง ที่ Audemars Piguet ถ่ายทอดไว้ด้วยความหลากหลายของสีสันสดใส กับศิลปะงานฝีมือและสไตล์ที่เป็นแบบฉบับของแบรนด์
Audemars Piguet: Royal Oak Self-Winding for Women โอเดอมาร์ ปิเกต์ (Audemars Piguet) เลื่องชื่อในฐานะนักปั้นเรือนเวลาด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในวันนี้ยังได้เอาใจลูกค้าผู้หญิง ด้วยคอลเลกชั่นเรือนเวลาสุภาพสตรี กับความโดดเด่นของสีสันผสมผสานอย่างหลากหลาย ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยศิลปะงานฝีมือและสไตล์อันโดดเด่นที่ล้วนเป็นต้นตำนานและต้นแบบของ Royal Oak หนึ่งในคอลเลกชั่นอันโด่งดังสูงสุดของแบรนด์เช่นกัน
กล่าวกันว่า นาฬิกาสำหรับผู้หญิงนั้นสร้างสรรค์ได้ยากยิ่งกว่าเรือนเวลาบุรุษ ด้วยเพราะความซับซ้อนของความชอบ รสนิยม และสไตล์อันยากจะคาดเดาของสาวๆ แต่สำหรับ Audemars Piguet แล้วนี่คือความท้าทายครั้งใหม่ และแบรนด์เลือกที่จะตีความไว้ด้วยการผสมผสานระหว่างประเพณีเข้ากับความทันสมัย นำมาสู่เรือนเวลาที่มีความหลากหลายแตกต่างกัน เหมือนกันกับบุคลิกและความโดดเด่นของผู้หญิงแต่ละคน
โดยใน Be Yourself Female Collection ซึ่งเป็น Woman’s Collection ใหม่นี้ได้นำเสนอซึ่งการตัดกันอย่างสร้างสรรค์ นับจากภาพอันสวยงามทันสมัยของวัสดุเด่นๆ อย่าง เซรามิกสีดำ สู่ความแวววาวเจิดจรัสด้วยมิติและเทคนิคที่ไม่เหมือนใครของ Frosted Gold ไปจนถึงเหลือบแสงและเฉดสีสันของอัญมณีหินสีที่มีความหลากหลายของสีอันมีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งหมดนี้ได้ถ่ายทอดภายใต้เรือนเวลาจักรกลด้วยมิติที่แตกต่างและเป็นตัวแทนอย่างแท้จริงของผู้หญิง เมื่อผลงานแต่ละเรือนได้ถูกเลือกสวมใส่คู่ไปกับข้อมือของพวกเธอ
เริ่มจากความโดดเด่นของ Royal Oak Selfwinding in Black Ceramic 34mm นาฬิกา Royal Oak Selfwinding ที่มาพร้อมตัวเรือนขนาดเล็กสำหรับข้อมือที่มีขนาดเล็กกว่า โดยรังสรรค์ขึ้นทั้งเรือนจากเซรามิกสีดำทั้งเรือนเป็นครั้งแรก กับความสวยงามทันสมัยของรูปโฉมสีดำนี้ภายใต้ตัวเรือนขนาด 34.0 มิลลิเมตร นี้เสริมเสน่ห์ด้วยลูกเล่นและรายละเอียดของพิงค์โกลด์เพื่อสร้างภาพทูโทนที่ตัดกันอย่างประณีตสง่างาม สะท้อนความคลาสสิกที่อยู่เหนือกาลเวลา ที่รุ่นรูปโฉมสีดำล้วนนี้ยังพร้อมที่จะเติมเต็มและเสริมสไตล์เฉพาะหนึ่งเดียวของหญิงสาวผู้สวมใส่ ขณะที่หน้าปัดสีดำคงไว้ด้วยการตกแต่งลาย Grande Tapisserie (The squares on the pattern) ดีไซน์ที่เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญของนาฬิกา Royal Oak และขับเคลื่อนภายในด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 5800 ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับนาฬิกา Royal Oak ขนาด 34.0 มิลลิเมตร โดยเปิดตัวในปีค.ศ. 2020 และสำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง พร้อมทั้งผ่านการตกแต่งอย่างประณีตซึ่งเปิดโชว์กลไกบนฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ของนาฬิกาเช่นกัน
Audemars Piguet เริ่มนำเซรามิกมาใช้รังสรรค์นาฬิกาเป็นเรือนแรกและเปิดตัวในช่วงปลาย 1980s และในช่วงปีค.ศ. 1986 คอลเลกชั่น Bamboo สำหรับสุภาพสตรีนั้นก็ได้นำเสนอเรือนเวลาหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมการใช้วัสดุแบบผสมผสานหรือทูโทน โดยมักผสานระหว่างทองประดับเพชรเข้ากับข้อเซรามิกสีแดง สีขาว หรือสีดำ ส่วนสีของหน้าปัดได้ออกแบบให้แมตช์กับชิ้นส่วนเซรามิก นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานการบุกเบิกสร้างสรรค์นาฬิกาสุภาพสตรีที่มีความสวยเด่นด้านแฟชั่นความนิยม แต่คงไว้ด้วยเอกลักษณ์ของเรือนเวลาจักรกลอันเป็นต้นตำรับได้อย่างดี
Royal Oak Selfwinding in Frosted Gold 34mm เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่พร้อมจะตราตรึงใจสาวๆ ด้วยความสวยเด่นใหม่ของนาฬิกา Frosted Gold ที่ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่องเสมอ ด้วยเทคนิคการรังสรรค์เหมือนกับเครื่องประดับอัญมณีที่พัฒนาขึ้นในปีค.ศ. 2016 โดยความร่วมมือของ Carolina Bucci นักออกแบบเครื่องประดับอัญมณีชื่อดังจากอิตาลี ซึ่งในรุ่นนี้ได้ตีความด้วยความสว่างไสวของตัวเรือนไวท์โกลด์ 18 กะรัต เสริมเสน่ห์ยิ่งขึ้นจากหน้าปัดตกแต่งลวดลายเอกลักษณ์ อย่าง Tapisserie สีฟ้าเฉดใหม่ การผสมผสานอันแสนพิเศษเฉพาะหนึ่งเดียวนี้ยังได้ร่วมเฉลิมฉลองซึ่งศิลปะงานฝีมือและความประณีตละเอียดอ่อนของเทคนิคและประเพณีงานฝีมืออันเลื่องชื่อของโรงงานการผลิต ส่วนภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 5800 เช่นกัน
เทคนิค Frosted Gold นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเทคนิคการสร้างสรรค์เครื่องประดับแบบโบราณของชาวเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งนักออกแบบได้นำมาตีความใหม่ในการประดิษฐ์เครื่องประดับอัญมณีแบบร่วมสมัย และได้ผสานเทคนิคนี้เข้ากับงานช่างนาฬิกาของ Audemars Piguet โดยพัฒนาให้เข้ากับงานดีไซน์ของตัวเรือนและสายของนาฬิกา Royal Oak ซึ่งเทคนิคนี้ใช้การสลักรอยขนาดเล็กลงบนพื้นผิวของทองด้วยเครื่องมือสลักหัวเพชร ทำให้เกิดประกายแวววาวราวกับประดับไว้ด้วยอัญมณีล้ำค่าหรือที่เรียกว่า diamond dust ที่สำคัญเป็นเทคนิคที่ขับเน้นงานดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตของ Royal Oak ให้ยิ่งดูโดดเด่นและลงตัว
นับเป็นครั้งแรกของ Audemars Piguet ที่ได้เปิดตัวแนะนำนาฬิการุ่น Royal Oak Selfwinding Chronograph in Amethyst 38 mm ไว้ภายใต้ความสวยเด่นของตัวเรือนพิงค์โกลด์ 18 กะรัต พร้อมทั้งขอบตัวเรือนประดับตกแต่งด้วยประกายรัศมีอันแวววาวเจิดจรัสของอเมทิสต์เจึยระไนทรงบาแกตต์ถึง 32 เม็ด (2.85 กะรัต) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ได้เลือกรังสรรค์ขอบตัวเรือนประดับตกแต่งด้วยอัญมณีสีม่วงอเมทิสต์ โดยอัญมณีหินสีม่วงอันสุกสกาวเหล่านี้ได้ถูกนำมาประดับรายล้อม และจับคู่เข้ากับโทนสีต่างๆ ของหน้าปัดสีม่วงของเรือนเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับรุ่นนี้มีความพิเศษโดยเป็นรุ่นที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบูติกของ Audemars Piguet เท่านั้นด้วย
นาฬิกา Royal Oak Selfwinding Chronograph 38mm จริงๆ แล้วประสบความสำเร็จนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 และยังคงเป็นที่ชื่นชอบหลงใหลของทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ด้วยเพราะตัวเรือนขนาดกลาง ถือว่าไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินข้อมือของสาวๆ แถมยังได้ในแง่ของฟังก์ชั่นโครโนกราฟที่ช่วยเติมเสน่ห์ให้ข้อมือพวกเธอได้อย่างดี สำหรับรุ่นใหม่นี้ยังนับเป็นครั้งแรกของการเลือกใช้หน้าปัดสีม่วง พร้อมการตกแต่งลาย Grande Tapisserie เพื่อให้เอฟเฟกต์สีของหน้าปัดที่เปลี่ยนไปในทุกการเคลื่อนไหวและเมื่อแสงตกกระทบ ส่วนหน้าปัดย่อยตกแต่งด้วยเฉดสีม่วงเดียวกัน ตัดกับความสง่างามของเข็มพิงค์โกลด์ 18 กะรัต รับตัวเรือนและสายพิงค์โกลด์ของนาฬิกา ภายในติดตั้งด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre 2385 สำรองพลังงานได้อย่างน้อย 40 ชั่วโมง
และ 37.0 มิลลิเมตร ทำจากไวท์โกลด์ พิงค์โกลด์ และเยลโลโกลด์ ประดับขอบตัวเรือนด้วยอัญมณีเฉดสีรุ้ง
ปิดท้ายด้วย Royal Oak Frosted Gold Double Balance Wheel Openworked เอาใจสุภาพสตรีที่หลงใหลในเรื่องราวของจักรกลไม่แพ้ความสวยงามภายนอกของเรือนเวลา โดยผลงานครั้งนี้ได้เข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับซีรีส์ ด้วยนาฬิกาสามรุ่นใหม่ทั้งในตัวเรือน ขนาด 41.0 มิลลิเมตร และ 37.0 มิลลิเมตร โดยทั้งหมดมาพร้อมการประดับตกแต่งขอบตัวเรือนโทนสีรุ้งที่ประกอบขึ้นจากอัญมณีหินสีหลากหลายสีสัน
Haute Joaillerie / Haute Horlogerie / Haute Couture
แสดงออกถึงความเอาใจใส่ในรายละเอียดและการตัดกันระหว่างสีสัน วัสดุ รวมถึงงานฝีมือการตกแต่งอัญมณีอันประณีตละเอียดอ่อนที่ดึงแรงบันดาลใจมาจากโลกแห่งการสร้างสรรค์อันหลากหลาย ซึ่งรวมไปถึงการประดิษฐ์รังสรรค์เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงหรือ Haute Joaillerie เครื่องบอกเวลาชั้นสูงหรือ Haute Horlogerie และแม้แต่แฟชั่นชั้นสูงหรือ Haute Couture
โดยตัวเรือนและสายนาฬิกาของทั้งสามรุ่นใหม่รังสรรค์ขึ้นด้วยไวท์โกลด์ พิงค์โกลด์ และเยลโลโกลด์ พร้อมเทคนิค Frosted Gold ขับให้การตกแต่งขอบตัวเรือนเฉดสีรุ้งของอัญมณีที่นำมาประดับเรียงไว้ด้วยกันยิ่งโดดเด่นสะดุดตา ซึ่งประกอบด้วยอัญมณี ได้แก่ ทับทิม ซาโวไรต์ มรกต โทแพซ แทนซาไนต์ อเมทิสต์ และแซฟไฟร์หลากสี รวม 32 เม็ด แต่ละเม็ดผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เฉดสีที่สดใสและใช้เทคนิคการประดับฝังอย่างไร้รอยต่อ คงความเรียบเนียนในทุกสัมผัส นอกจากนี้ บนหน้าปัดแบบ openworked ยังเผยให้เห็นกลไกการทำงานของบาลานซ์วีลแบบคู่ กระปุกลานแบบสเกเลตันเคลือบสีดำที่ตำแหน่ง 1 นาฬิกา และเมนสปริง ที่ประกอบไว้ภายในกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 3132 แบบ openworked เดียวกันและด้วยเฉดสีที่แมตช์เข้ากับทั้งตัวเรือนพิงค์โกลด์และเยลโลโกลด์
การเปิดตัว Be Yourself Female Collection ใหม่ยังได้ถูกถ่ายทอดผ่านเลนส์ของ Harley Weir ช่างภาพแฟชั่น ผู้ซึ่งได้ร่วมถ่ายทอดภาพแห่งการผสมผสานหลอมรวมกันระหว่าง Huate Couture และ Haute Horlogerie จากการสำรวจของเขาผ่านเรือนเวลาหรือแฟชั่นชั้นสูงที่สามารถสะท้อนถึงบุคลิกอันโดดเด่นเฉพาะตัวของผู้สวมใส่และด้วยทัศนคติอันเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณอิสระ
ภาพถ่าย Look Book 2021 ของ Harley Weir จึงเต็มไปด้วยสีสันที่ผสมผสานเข้าด้วยกัน กับศิลปะงานฝีมือ วัสดุ และสไตล์ ที่เป็นคาแรกเตอร์หลักของคอลเลกชั่นเรือนเวลาฤดูร้อนของ Audemars Piguet 2021 summer collection ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากโลกอันหลากหลาย เพื่อนำเสนอภาพลานตาอันเป็นบุคลิกความโดดเด่นของผู้หญิงร่วมสมัย กับแรงบันดาลใจของช่างภาพที่ต้องการถ่ายทอดทั้งวิธีการสร้างสรรค์และผลิตเรือนเวลาอันทรงเสน่ห์ จากการใช้วัสดุที่แตกต่างและตัดกัน และคิดไปจนถึงการสร้างซึ่งบุคลิกและตัวตนของผู้หญิงที่พวกเธอนั้นต่างมีความเหมือนและความต่าง มีความปรารถนาและพร้อมจะแสดงออกด้วยวิถีและความเชื่อมั่นในแบบฉบับของพวกเธอเอง เหมือนกันกับการผสมผสานระหว่างประเพณีและความล้ำสมัยที่นำมาสู่เรือนเวลาคอลเลกชั่นสุภาพสตรี ซึ่งสามารถบ่งบอกคาแรกเตอร์และทำหน้าที่แบบเดียวกับแฟชั่นอื่นๆ ที่สามารถสร้างและแสดงออกถึงตัวตนของผู้สวมใส่ รวมถึงความปรารถนาที่อยู่ภายในได้ไม่ต่างกัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF AUDEMARS PIGUET
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
