ไม่ว่าใครก็อยากเป็นเจ้าของขนตางอนเด้งด้วยกันทั้งนั้น Padthai.co รวบรวมวิธีงัดขนตาสำหรับสาวๆ ไม่ว่าจะเข้าคลินิกเพื่อลิฟติ้งขนตา หรือจะเสกขนตาให้งอนสวยด้วยมาสคาร่าและที่ดัดขนตาคุณภาพสักอัน ก็มีแต่จะเวิร์คแบบกินกันไม่ลง
ขนตางอนเด้งคือหนึ่งในอาวุธลับที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับสาวๆ ได้แบบอยู่หมัด หลายคนจึงเพียรหาวิธีจัดการกับขนตาของตัวเองด้วยวิธีต่างๆ การลิฟติ้งขนตา (Lash Lift) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกซึ่งได้รับความนิยมจากสาวๆ ในปัจจุบันอย่างมาก เป็นทรีทเมนต์ความงามที่ช่วยให้ขนตางอนแบบกึ่งถาวร โดยวิธีการก็คือจะใช้น้ำยายืดยกโคนขนตาขึ้นมา ทำให้ขนตาดูงอนเด้งงอนงามเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้เคราตินเคลือบขนตาให้อยู่ทรงแลดูสุขภาพดีอีกด้วย ซึ่งเมื่อเราทำแล้วก็จะทำให้ขนตางอนเด้งยาวนานกว่า 2-3 เดือนต่อ 1 ครั้งเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังทำให้ขนตาของเราสวยเป็นระเบียบดูเป็นธรรมชาติ แค่ปัดมาสคาร่าหรือดัดขนตาเบาๆ ก็พร้อมออกจากบ้านด้วยความมั่นใจ
ความแตกต่างระหว่างการลิฟติ้งขนตาและการต่อขนตา
การลิฟติ้งขนตานั้นเหมือนการบำรุงจากภายในเพื่อให้ขนตานั้นเรียบเนียนเด้งดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะต่างจากการต่อขนตา ซึ่งจะนำขนตาปลอมเข้าไปต่อผสมผสานกับขนตาจริงของสาวๆ นั่นเอง ซึ่งทั้งสองอย่างก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยคนละแบบกัน ถ้าใครชอบความสวยงามถาวร นานๆ ทีทำครั้งก็ให้เลือกการทำลิฟติ้งขนตา แต่ถ้าใครชอบความไวทันใจ ชอบความฟูฟ่องของขนตาหรือต้องแต่งหน้าบ่อยๆ ก็แนะนำให้ต่อขนตาได้เลย
ขั้นตอนการลิฟติ้งขนตา
การลิฟติ้งขนตาจะใช้เวลารวมประมาณ 45 นาที ขั้นตอนการทำโดยทั่วไปมีดังนี้
1. เช็คสภาพเส้นขนตาในลำดับแรก
2. ใช้แชมพูทำความสะอาดเส้นขนตาอย่างล้ำลึก
3. ทรีทเมนต์เส้นขนตาด้วยเคราติน
4. ลงสีเพื่อเพิ่มความเข้มของเส้นขนตา
5. ใช้เซรั่มบำรุงเส้นขนตา
6. ใช้ Coating จัดทรงเส้นขนตา
จุดเด่นของการลิฟติ้งขนตา
เรื่องของความคุ้มค่า เพราะว่าทำ 1 ครั้ง สามารถอยู่ได้ 2-3 เดือน เส้นขนตาดูสวยงามเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังได้รับการบำรุงเป็นพิเศษ แต่งหน้าง่าย และยังไม่มีความเสี่ยงเรื่องบาดแผลที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย
จุดด้อยของการลิฟติ้งขนตา
หากบำรุงไม่ดีก็อาจจะทำให้ขนตาแห้งหรือขาดความชุ่มชื้นได้ การลิฟติ้งขนตาเหมาะกับผู้ที่มีขนตาในระดับหนึ่งแล้ว ส่วนใครที่มีขนตาบางหรือว่าขนตาน้อย แนะนำให้ไปต่อขนตาปลอมจะเหมาะกว่า
แต่สำหรับสาวๆ ที่อยากสวยแต่ก็แอบกังวลใจเล็กๆ หากไม่อยากลิฟติ้งขนตา จะเลือกปัดมาสคาร่าเพื่อเพิ่มความงอนเด้งก็พอจะทดแทนกันได้ คีย์เวิร์ดอยู่ที่การเลือกมาสคาร่าสูตรที่ใช่ และที่ดัดขนตาคุณภาพเยี่ยมสักอัน เพราะที่ดัดขนตาจะช่วยให้ขนตาของเราดูสวย งอน ยาวแม้ไม่ได้แต่งหน้า
เชื่อเหลือเกินว่าสาวๆ หลายคนเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีหรือรู้สึกกลัวที่ดัดขนตา นั่นเป็นเพราะมันสามารถหนีบหนังตาและทำให้ขนตาขาดได้หากใช้ไม่ถูกต้อง การเลือกที่ดัดขนตาที่ใช่ จึงต้องดูจากหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วิธีเลือกที่ดัดขนตา
1. เลือกที่ดัดขนตาที่เข้ากับรูปทรงดวงตาของเรามากที่สุด
เบ้าดัดขนตาของแต่ละคนมีความยาวและองศาที่เว้าลงไปไม่เท่ากัน จึงควรเลือกรุ่นที่มีความยาวใกล้เคียงกับขนาดของดวงตาและเหมาะกับความยาวขนตามากที่สุด นอกจากนี้ อย่าลืมคำนึงถึงองศาความโค้งของเบ้าดัดด้วย เพราะถ้าองศาไม่รับกับดวงตา เวลาใช้งานจริงก็จะเหลือส่วนหัวกับหางตาที่เป็นพื้นที่แคบเข้าถึงยาก หรืออาจจะหนีบหนังตาได้ พร้อมทั้งควรตรวจสอบกลไกของที่ดัดขนตาว่าไม่บิดไม่งอ ไม่หลวมและไม่ฝืดจนเกินไปที่จะจับได้ถนัดมือ
นอกจากความแตกต่างเรื่องความยาวของเบ้าตาแล้ว ลักษณะชั้นตาก็สำคัญเช่นกัน สำหรับคนที่มีตาชั้นเดียวหรือสองชั้นหลบใน แนะนำให้เลือกที่ดัดขนตาที่มีเบ้าดัดค่อนข้างเรียบ ส่วนคนตาสองชั้นหรือมีเบ้าตาลึกให้เลือกเบ้าดัดโค้งลงรับกับดวงตาเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน รูปแบบของหางตาคนเราก็มีผลต่อการดัดขนตาด้วย ดังนั้น เวลาเลือกซื้อ แนะนำให้ลองทาบที่ดัดขนตานี้เข้ากับเบ้าตาจริง เพื่อตรวจสอบดูว่าองศาพอดีกับเบ้าตาของเราหรือไม่
2. เลือกประเภทที่ดัดขนตาให้เหมาะกับจุดประสงค์การใช้งาน
• ที่ดัดขนตาแบบทั่วไป : ปรับระดับความงอนได้ แต่ต้องออกแรงดัดมาก
สามารถครอบขนตาได้ทั้งหมด ใช้งานได้ด้วยการจับที่ดัดให้มั่นคงและออกแรงด้วยมือของเราเอง นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับความงอนของขนตาได้จากการออกแรงดัด ถ้าอยากได้งอนมากก็อาจต้องออกแรงดัดมากขึ้น แต่ก็ควรให้อยู่ในระดับที่พอดี ค่อยๆ ดัดค่อยๆ นวด และประคองทรงของขนตาให้ได้รูปโค้งงอนสวยจากโคนไปปลาย ข้อควรระวังคือ หากออกแรงดัดมากจนเกินไปก็อาจจะทำให้ขนตาหักหรือขาดได้ โดยที่ดัดขนตาลักษณะนี้มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ จึงเป็นประเภทที่ครอบคลุมทุกรูปแบบเปลือกตา
• ที่ดัดขนตาแบบสปริง : ช่วยผ่อนแรง ไม่ทำร้ายขนตา
สำหรับที่ดัดขนตาแบบสปริงจะมีหน้าตาเหมือนๆ กับที่ดัดขนตาแบบทั่วไป แต่จะมีสปริงเพิ่มขึ้นมา โดยบางรุ่นจะมีสปริงเกี่ยวไว้ตรงฐานและขาข้างหนึ่งของที่ดัดขนตาเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น ทำให้การคอนโทรลที่ดัดขนตาง่าย ช่วยให้เวลาดัดไม่เจ็บ ขนตาไม่หัก ขนตาโค้งงอนได้รูป ซึ่งสปริงนี้จะทำหน้าที่ช่วยผ่อนแรงในการใช้งาน จึงให้ขนตาที่โค้งงอนสวยโดยไม่ต้องออกแรงมากในการดัดขนตา และที่สำคัญ ที่ดัดขนตาแบบสปริงนี้ยังเสี่ยงต่อการทำร้ายขนตาน้อยกว่าที่ดัดขนตาแบบอื่นๆ นับว่าเป็นที่ดัดขนตาที่เหมาะสำหรับคนที่กะแรงในการกดไม่ค่อยถูกหรือคนที่มือหนักเป็นที่สุด
• ที่ดัดขนแบบเฉพาะจุด : ดัดได้ทุกส่วนที่ต้องการ
ในส่วนของผู้ที่มีตาชั้นเดียว ตาสองชั้นหลบใน หรือผู้ที่หาที่ดัดขนตาให้พอดีกับเบ้าตาของตัวเองไม่ค่อยได้ แนะนำที่ดัดขนตาแบบเฉพาะจุด เพราะมีเบ้าดัดเล็ก ทำให้ดัดได้ทุกรูปแบบและทุกส่วนที่ต้องการ แม้ในพื้นที่แคบอย่างบริเวณหัวหรือหางตาก็ยังเข้าถึงได้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ลดความเสี่ยงต่อการหนีบหนังตา จึงเหมาะสำหรับคนที่หาที่ดัดขนตาให้เข้ากับรูปตาของตัวเองไม่ค่อยได้ และสำหรับคนที่ดัดขนตาแล้วเก็บไม่หมด เนื่องจากไม่ทำให้ขนตาหักและยังช่วยให้การปัดมาสคาร่านั้นง่ายขึ้น จนได้ขนตางอนเด้งสวยเป๊ะทุกจุด
นอกจากนี้ ที่ดัดขนตาแบบเฉพาะจุดยังสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีกว่าแบบอื่นๆ จึงเหมาะกับการใช้เสริมควบคู่ไปกับที่ดัดขนตาแบบทั่วไปหรือแบบสปริง เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้ขนตา
TRY THIS!
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF DIOR, HOURGLASS, LAURA MERCIER, NARS, SHISEIDO, TWEEZERMAN
STOCK PHOTOS: Image by valuavitaly on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่