ครั้งแรกที่ A. Lange & Söhne นำเสนอเรือนเวลา Odysseus เวอร์ชันไทเทเนียม กับการผสมผสานของศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกาและความสง่างามสไตล์แคชชวล
คอลเลกชัน Odysseus ของ A. Lange & Söhne (เอ. ลังเงอ แอนด์ โซเนอ) เปิดตัวแนะนำครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2019 ด้วยการเป็นนาฬิกาสปอร์ตแคชชวลสง่างาม โดยการเปิดตัวครั้งแรกนั้นมาพร้อมความพิเศษของตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีล ที่นับว่าหาได้ไม่ง่ายนักสำหรับคอลเลกชันเรือนเวลาของแบรนด์ที่ใช้เพียงวัสดุล้ำค่าในการรังสรรค์นาฬิกา และนับจากสามปีของการเปิดตัวครั้งแรกสำหรับ Odysseus ยังได้นำทางมาสู่การเผยโฉมครั้งใหม่และครั้งแรกในปีนี้ กับ Odysseus ในตัวเรือนไทเทเนียม ที่ออกแบบมาเพื่อการเป็นเรือนเวลาคู่ข้อมือในชีวิตประจำวันของผู้ที่ชื่นชอบสไตล์และความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Lange
สัมผัสที่นุ่มนวล แข็งแกร่งทนทาน และรับไปกับข้อมือโดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ต่อผิวหนัง นับเป็นคุณสมบัติหนึ่งของไทเทเนียมที่ A. Lange & Söhne ได้นำมาผสมผสานเข้ากับสไตล์แคชชวลสง่างามของนาฬิกา Odysseus นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคอนเซปต์ของเรือนเวลาแห่งงานหัตถศิลป์อันสวยงามสมบูรณ์แบบ บวกกับสมรรถนะ เช่นความแข็งแกร่ง และการกันน้ำได้ ขณะที่โฉมหน้าของนาฬิกายังคงไว้ด้วยการแสดงวัน และวันที่ขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถปรับตั้งได้อย่างง่ายดายผ่านปุ่มกดทรงเรียว ซึ่งล้วนเป็นงานออกแบบอันกลายเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาไทเทเนียมครั้งแรกสำหรับ A. Lange & Söhne ด้วย
โดยจุดเด่นนั้นต้องยกให้กับการรังสรรค์ตัวเรือนและสายของนาฬิกา Odysseus รุ่นที่สามนี้จากวัสดุไทเทเนียม ที่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัว โดยเฉพาะความมีน้ำหนักเบาของนาฬิกา ซึ่งไทเทเนียมนั้นมีความเบากว่าถึงประมาณ 43 เปอร์เซนต์จากสเตนเลสสตีล จึงเป็นการพัฒนาปรับปรุงด้านความสะดวกสบายระดับสูงให้กับการสวมใส่บนข้อมือ และด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 40.5 มิลลิเมตร และหนา 11.1 มิลลิเมตร นาฬิการุ่นใหม่นี้โอบรอบข้อมือได้อย่างเรียบเนียนสูงสุด มากไปกว่านั้น ไทเทเนียมยังมีความโดดเด่นด้านคุณสมบัติของความแข็งแกร่งทนทานสูง ซึ่งหากทำปฏิกิริยากับออกซิเจน จะทำให้เกิดชั้นออกไซด์บางใสที่เคลือบบนพื้นผิว เพื่อปกป้องวัสดุจากปัจจัยและผลกระทบภายนอกอื่นๆ ทำให้มีความทนทานสูงต่อการเกิดรอยขีดข่วนหรือสึกกร่อน ขณะที่โทนสีอันอบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงพาทิน่า (patina) เฉพาะของนาฬิกาแต่ละเรือนยังทำให้เกิดภาพอันสวยงามระหว่างการผสมผสานของพื้นผิวขัดเงา แบบด้าน และขัดด้าน และเหมือนกับนาฬิการุ่นสเตนเลสสตีลและไวท์โกลด์ ที่ Odysseus ในเวอร์ชันไทเทเนียมยังคงมีตัวเรือนกันน้ำได้ และเม็ดมะยมหมุนเกลียวล็อกที่ทำให้มีประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 12 บาร์ หรือ 120 เมตร
แน่นอนว่า ความโดดเด่นที่ถือว่าสะดุดตาและแตกต่างไปจากนาฬิกา A. Lange & Söhne ที่เราต่างคุ้นเคยนั้น ย่อมเป็นเรื่องของโทนสีของทั้งตัวเรือน สาย และแม้แต่หน้าปัด ซึ่งแม้จะมีความแตกต่าง แต่ในเวอร์ชันไทเทเนียมนี้ยังคงรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของโครงสร้างหน้าปัดแบบหลายส่วน โดยมาพร้อมกับเฉดสีไอซ์บลูใหม่ และพื้นผิวบนวงแหวนบอกชั่วโมงที่ต่างออกไป โดยรุ่นนี้มาพร้อมการตกแต่งด้วยงานแกะร่องกิโยเช่เป็นลวดลายโค้ง เพื่อให้เล่นกับแสงกระทบและมอบมิติความสวยงามได้อย่างดี ขณะที่ลวดลายนี้ยังนำมาใช้บนวงแหวนของหน้าปัดย่อยแสดงวินาที ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาอีกด้วย รวมถึงตัดกันกับพื้นผิวของโครงสร้างหน้าปัดด้านใน ส่วนวงแหวนบนขอบหน้าปัดโทนสีอาร์เจนเต้ (argenté) พร้อมสเกลนาทีได้สร้างรูปให้กับช่องว่างระหว่างแสงเงาและเพิ่มความชัดเจนให้กับการแสดงเวลาบนหน้าปัด กับตัวเลขอารบิกทุกห้านาทีที่เป็นสีดำ ต่างจากเลข 60 พิมพ์ด้วยสีแดง บรรจุด้วยเข็มชี้ชั่วโมงและนาทีสไตล์สปอร์ตด้วยรูปทรงหอกอันเป็นต้นฉบับของ Lange รวมถึงเครื่องหมายขีดทรงบาตอง (baton) เซาะร่องยังทำจากไวท์โกลด์ และเติมด้วยสารเรืองแสง
เรื่อยมาจนถึงสายของนาฬิกาไทเทเนียมรุ่นแรกนี้ ที่ A. Lange & Söhne ได้สร้างสรรค์สายสร้อยข้อมือไทเทเนียมจับคู่กันและผสานเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเรือนได้อย่างกลมกลืน โดยเหมือนกันกับสายสร้อยข้อมือสเตนเลสสตีลของนาฬิกา Odysseus รุ่นแรก ที่มีความสะดวกสบายในการสวมใส่ ทั้งยังมาพร้อมกับระบบปรับระดับสายได้ง่ายดายและรวดเร็ว ทำให้สามารถขยายความยาวของสายให้รับกับข้อมือได้มากสูงสุดถึง 7.0 มิลลิเมตร
ส่วนภายใน Odysseus ตัวเรือนไทเทเนียมนี้ มาพร้อมการขับเคลื่อนของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ L155.1 DATOMATIC ที่สามารถชื่นชมการทำงานและการตกแต่งชิ้นส่วนกลไก 312 ชิ้น ทับทิม 31 เม็ดอย่างประณีตสวยงามตามมาตรฐานของ Lange นั้นได้ทางฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ พร้อมทั้งการแกะสลักชื่อ DATOMATIC ที่มาจากคำว่า “date” และ “automatic” ส่วนโรเตอร์กลางชุบโรเดียมสีดำบางส่วนและตกแต่งแบบสเกเลตันนั้นมาพร้อมตุ้มถ่วงน้ำหนักทำจากแพลทินัม 950 เพื่อส่งกำลังเหวี่ยงในการขึ้นลานได้อย่างดี และเมื่อไขลานเต็ม นาฬิการุ่นนี้จะมีพลังงานสำรองได้ถึง 50 ชั่วโมง พร้อมทั้งมอบความเที่ยงตรง โดยความถี่การทำงาน 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 เฮิรตซ์ สะพานจักรผ่านการแกะสลักด้วยมือด้วยลวดลายคลื่น และชวนให้นึกถึงคุณสมบัติของการกันน้ำได้ถึง 120 เมตรของนาฬิกาสไตล์แคชชวลสง่างามอย่าง Odysseus รวมถึงชิ้นส่วนทั้งหมดที่ผ่านการตกแต่งด้วยมืออย่างวิจิตรสวยงาม อาทิ แท่นเครื่องทำจากเงินเยอรมัน ตกแต่งด้วยลวดลาย Glashütte ribbing และสกรูชาตอง (chaton) ทอง ขณะที่ทั้งกลไกยังผ่านการประกอบสองครั้งตามปรัชญาและมาตรฐานของนาฬิกา Lange
Odysseus ในเวอร์ชันไทเทเนียมนี้ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 250 เรือน พร้อมแกะสลักด้วยหมายเลขประจำตัวเรือน โดยมีจำหน่ายเฉพาะในบูติกของแบรนด์
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF A.LANGE & SÖHNE
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
