ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ร่วมกับ 608 Gallery จากประเทศเกาหลีใต้ ภูมิใจนำเสนอนิทรรศการ “Pop Korea: A Korean Group Exhibition in Thailand”
ป๊อปอาร์ต (Pop Art) ตามชื่อที่มาจากคำว่า ‘popular’ หรือเป็นที่นิยม ได้นำเสนอแนวคิดที่ว่า ใคร ๆ ก็สามารถสนุกกับศิลปะ สร้างสรรค์ และครอบครองมันได้ คำว่า ‘ป๊อป’ ซึ่งเป็นคำเลียนเสียงธรรมชาติและคำเลียนแบบ สามารถสร้างความรู้สึกที่น่าดึงดูดและรวดเร็วได้ ป๊อปอาร์ตได้ทำลายขอบเขตระหว่างศิลปะคลาสสิกและศิลปะที่เป็นที่นิยม ระหว่างศูนย์กลางและรอบนอก เมื่อศูนย์กลางทางวัฒนธรรมเคลื่อนมายังทวีปเอเชียในช่วงศตวรรษที่ 21 นี้ ป๊อปอาร์ตก็ได้พัฒนาก้าวข้ามกรอบของแนวทางศิลปะแบบเดิม ๆ เปิดโอกาสให้ความคิดและเอกลักษณ์ของศิลปินได้รับการตีความและเข้าใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ป๊อปอาร์ตได้กลายเป็นรูปแบบของศิลปะที่ครอบคลุมทุกสิ่งที่เป็น ‘ป๊อป’ ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมหรือบุคคล
ในนิทรรศการครั้งนี้ คุณจะได้รู้จักกับศิลปินชาวเกาหลีสามท่านคือ Manwook, Park Hyung Woong และ Yoo Jae Youn
การทำความเข้าใจผลงานของพวกเขาอาจเริ่มต้นจากสิ่งที่ดูเล็กน้อย เช่น เหตุใด Manwook ถึงใช้สีเรืองแสง เหตุใดต้นไม้ถึงเติบโตจากเท้าของหุ่นยนต์ในภาพวาดของ Park Hyung Woong หรือทำไมตัวละคร Kimsee ของ Yoo Jae Youn ถึงโหยหาช่วงเวลาแห่ง ‘Pink Time’ บางคนอาจชื่นชมผลงานเพราะความสวยงามทางสายตาและสะสมไว้ ในขณะที่บางคนอาจมองเห็นคุณค่าทางการค้าที่โดดเด่น และในขณะเดียวกัน บางคนอาจจะแขวนภาพเหล่านี้ไว้เพราะข้อความที่มันสื่อออกมา
Manwook ผู้ทำงานด้วยความเชื่อที่ว่า “โลกที่ฉันเชื่อมโยงไม่มีแรงโน้มถ่วง แต่มีออกซิเจนและแสง” ได้แนะนำตัวเองว่าเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่เมต้า (meta-space) ซึ่งเบลอขอบเขตระหว่างมนุษย์และสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ โดยมีการสนทนากับเครื่องจักรและสัตว์ การที่มนุษย์ (ศิลปิน) พูดกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ (สัตว์ เครื่องจักร พืช) นั้นเป็นรูปแบบหนึ่งของการพูดกับตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการรับฟังการตอบสนองจากสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือภาพวาดนั่นเอง
สำหรับ Park Hyung Woong ตัวตนที่เขาสร้างขึ้นในจินตนาการอย่าง BB ได้เริ่มการเดินทางเพื่อซ่อมหุ่นยนต์เจ็ดตัวที่พบในดาวโอไรออน s-273 ระหว่างการเดินทางในอวกาศ ความคิดสร้างสรรค์ของเขาได้เปิดออกเป็นฉากที่สะท้อนถึงความอยากรู้อยากเห็นและความหลงใหลในหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก รวมถึงความคิดอิสระเกี่ยวกับอนาคตที่เราอาจจะได้พบ และสิ่งที่เราควรระมัดระวัง
ในทางกลับกัน Yoo Jae Youn ได้นำเสนอตัวละคร Kimsee ผู้ซึ่งถึงแม้จะวิตกกังวล ไม่ประสีประสา และมีร่างกายอ่อนแอ แต่ก็ใช้ชีวิตแต่ละวันในการบ่มเพาะความชอบและรสนิยมของตัวเอง ลักษณะการแสดงออกของตัวละครที่ไม่สมมาตร ไม่เป็นระเบียบ และเกินจริงนั้น ทำให้เกิดมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปตามการรับชม
จินตนาการอันสดใสและตัวละครที่มีเอกลักษณ์ของศิลปินเหล่านี้ แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ล้วนทำลายความซ้ำซากจำเจในชีวิตประจำวันของเราและเบลอเส้นแบ่งระหว่างความตลกและความเศร้าโศก การสร้างสรรค์นี้ทำให้พวกเขาสามารถเชื่อมโยงกับผู้ชมและผู้อื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การมาของ 608 Gallery ในกรุงเทพฯ นั้นเป็นก้าวแรกสู่ความร่วมมือในอนาคตกับหลายแบรนด์ในประเทศไทย ผ่านการเปิดรับความร่วมมือและการสื่อสารกับผู้ชม ด้วยความหวังว่ากรุงเทพฯ จะ ‘ป๊อป’ ขึ้นมาเป็นศูนย์กลางของศิลปะเอเชีย ซึ่งจะร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ผ่านผลงานศิลปะไปกับแวดวงศิลปะทั่วโลก
เกี่ยวกับศิลปิน
Yoo Jae Youn
Yoo Jae Youn เป็นศิลปินที่ผสมผสานงานจิตรกรรมและเครื่องปั้นดินเผาเพื่อสร้างเรื่องราวป๊อปอาร์ตที่มีเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดของเธออย่าง “Kimsee” กลายเป็นจุดศูนย์กลางของการสำรวจทางศิลปะ ซึ่งแสดงออกถึงทั้งความเป็นสากลและความคลุมเครือ ชื่อ “Kimsee” เป็นการเล่นคำระหว่างนามสกุลทั่วไปของชาวเกาหลี “Kim” กับคำว่า “see” หรือการมองเห็น สะท้อนถึงเจตนาของยูในการจับภาพสาระสำคัญของผู้คนธรรมดาและประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของพวกเขา เธอพยายามกระตุ้นความรู้สึกคุ้นเคยและการใคร่ครวญผ่านผลงานของเธอเพื่อชักชวนให้ผู้ชมเชื่อมโยงกับตัวละครนี้ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ผลงานของ Yoo Jae Youn ได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่าไอคอนแห่งป๊อปอาร์ต โดยเธอได้สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวในผลงานของเธอผ่านการวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตร่วมสมัยที่แฝงความสนุกสนานและลุ่มลึก ตัวละคร “Kimsee” ของเธอจึงถูกออกแบบให้มีทั้งความคุ้นเคยและแฝงไปด้วยความลึกลับ เป็นตัวแทนของคนธรรมดาในชีวิตประจำวันซึ่งสามารถท้าทายมุมมองของผู้ชมได้ ความทวิลักษณ์นี้สะท้อนผ่านการแสดงออกที่คลุมเครือและเสน่ห์ที่เป็นสากลของ Kimsee ทำให้ตัวละครนี้สามารถเข้าถึงใจผู้ชมได้ กล่าวได้ว่าศิลปะของ Yoo Jae Youn สามารถจับความรู้สึกที่ซับซ้อนของชีวิตยุคใหม่ได้อย่างประณีต พร้อมเสนอภาพสะท้อนให้ผู้ชมได้มองเห็นประสบการณ์ของตนเองผ่านตัวละครนี้ได้อย่างแยบยล
Yoo Jae Youn ถูกจัดแสดงในสถานที่สำคัญหลายแห่ง เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเครื่องปั้นดินเผาจากมหาวิทยาลัยชุงอังในปี 2007 หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาเดียวกัน นอกจากนี้ เธอยังจัดแสดงผลงานมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวในปี 2024 ร่วมกับ 608 Gallery ในยางพยอง และนิทรรศการเดี่ยวในปี 2022 ร่วมกับ MGFS100 Gallery ที่จัดขึ้นในกรุงโซล รวมไปถึงนิทรรศการกลุ่มและงานศิลปะอีกหลากหลายอีเวนต์ เช่น ART BUSAN 2022 และ Affordable Art Fair ในประเทศฮ่องกงและประเทศสิงคโปร์ ไม่เพียงเท่านั้น ความสำเร็จของเธอครอบคลุมไปจนถึงการคว้ารางวัลประธานมูลนิธิศิลปะและการออกแบบแห่งเกาหลี (Korea Craft and Design Foundation Chairman’s Award) ในงาน Craft Trend Fair ปี 2018 อีกด้วย
ผลงานของ Yoo Jae Youn ที่ผสมผสานการอ้างอิงถึงวัฒนธรรมป๊อปและการแสดงความคิดเชิงลึกส่วนบุคคลยังคงเชื่อมต่อกับผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสามารถมอบมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับสิ่งธรรมดาและสิ่งพิเศษในชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้อย่างแยบยล ทำให้ผู้ชมสามารถมองเห็นความงดงามและความหมายลึกซึ้งที่ซ่อนเร้นอยู่ในสิ่งที่ดูธรรมดาทั่วไป
Emil
Emil หรือ Park Hyung Woong ได้สร้างโลกศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยได้ประสานความรู้สึกสมัยใหม่เข้ากับองค์ประกอบย้อนยุค ผลงานของเขามุ่งเน้นไปที่เรื่องราวของหุ่นยนต์ ซึ่งผสมผสานความทรงจำในวัยเด็กเข้ากับจินตนาการแห่งอนาคต เขาย้อนระลึกถึงความตื่นเต้นและจินตนาการเมื่อครั้งที่ได้พูดคุยเกี่ยวกับการ์ตูนหุ่นยนต์กับเพื่อน ๆ ในวัยเด็ก และได้เชื่อมโยงความรู้สึกบริสุทธิ์นั้นเข้ากับผลงานในปัจจุบัน โปรเจกต์ล่าสุดของเขามีผลงานที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของตัวเอกชื่อว่า ‘BB’ ผู้ออกเดินทางเพื่อซ่อมหุ่นยนต์เจ็ดตัว โดยได้สร้างให้ตัวละครนั้นตั้งอยู่ในฉากหลังของการเดินทางในอวกาศและการซ่อมหุ่นยนต์
ในผลงานชิ้นนี้ Emil ได้ผสานการเล่าเรื่องเข้ากับศิลปะภาพเพื่อสร้างสรรค์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในฉากหลังอันล้ำยุคของจักรวาล ผลงานของเขาแฝงไว้ด้วยความเป็นอนาคตและความลึกซึ้งทางอารมณ์ ชวนให้ผู้ชมจินตนาการว่าตัวเองกำลังอยู่ในโลกของศิลปะ ผ่านการแสดงออกที่เป็นเอกลักษณ์ของหุ่นยนต์และการเดินทางของ BB ที่เขาได้สำรวจปฏิสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์ของมนุษย์และโลกของเครื่องจักร ผลงานนี้จึงเป็นเป็นการสำรวจและความท้าทายครั้งใหม่สำหรับเขาที่แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในการคลี่คลายเรื่องราวด้วยภาพผ่านสื่อที่หลากหลาย
Emil สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยฮงอิก และได้นำเสนอผลงานของเขาในนิทรรศการเดี่ยวถึง 43 ครั้ง รวมถึงได้เข้าร่วมการจัดแสดงผลงานในนิทรรศการกลุ่มทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการ “With” ที่ Space UM ในปี 2024, นิทรรศการ “Journey Through the Garden: An Artistic Exploration” ที่ Orangery และ นิทรรศการ “BB’s Summer” ที่ Gallery Artcode ในปี 2023 นอกจากนี้ ผลงานของเขายังได้จัดแสดงในนิทรรศการเดี่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น แกลเลอรี Seoul Asan Medical Center และ Gallery Sun อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ศิลปินยังได้เผยแพร่โลกศิลปะของเขาอย่างกว้างขวางผ่านการเข้าร่วมในนิทรรศการกลุ่มและงานศิลปะทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลงานของเขาถูกเก็บรักษาไว้ในคอลเลกชันของสถาบันต่าง ๆ อาทิ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยแห่งชาติ, ทำเนียบประธานาธิบดี (บลูเฮาส์), และ Incheon Art Bank นอกจากนี้ Park Hyung Woong ยังขยายอิทธิพลทางศิลปะของเขาผ่านความร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Ottogi, Fendi และ MCM ประวัติผลงานนี้แสดงให้เห็นถึงการยืนหยัดอย่างมั่นคงของศิลปินท่านนี้ในวงการศิลปะ อีกทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการเป็นที่ยอมรับในกิจกรรมสร้างสรรค์ของเขาทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ
Manwook
Manwook สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอมนุษย์ โดยถ่ายทอดสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ผ่านธีม “[Dog-Human-Machine]” ในผลงานของเธอ ซึ่งในภาษาเกาหลี คำเหล่านี้มีการออกเสียงเหมือนกัน แต่มีความหมายที่แตกต่างกัน Manwook เน้นย้ำว่าความแตกต่างเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายมากกว่าการแบ่งแยก และเธอก็เชื่อว่าการที่เราจะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างแท้จริงได้นั้น เราต้องมองโลกจากมุมมองของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์
ในผลงานของ Manwook นั้น เครื่องจักรถูกนำเสนอในฐานะเพื่อนร่วมทางในระบบบันทึกชีวิต ไม่ใช่กลไกที่เย็นชา แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อบอุ่น Manwook ได้ให้นิยามกับตัวตนของมนุษย์ผ่านภาษารูปแบบใหม่ที่สามารถสื่อสารกับเครื่องจักรและสุนัข ผู้อยู่ร่วมกันในโลกใหม่ในฐานะมนุษย์ไร้เพศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการดำรงอยู่
Manwook จัดแสดงผลงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนิทรรศการเดี่ยวและกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น นิทรรศการ “Protected Area for Weeds” ที่ Gallery Meme ในปี 2024 นิทรรศการ “Comebackkkhyo(: Show)” ที่ Gallery Colorbit รวมไปถึง นิทรรศการที่โดดเด่นอย่าง “Rule of No Rule” ที่ PBG The Hyundai Seoul ในปี 2023 และ นิทรรศการ “Dog That One, System of Three Worlds (ː)” ที่ Gallery Daon ในปี 2022 ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นถึงโลกศิลปะของเธอได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ Manwook ยังได้ขยายขีดความสามารถทางศิลปะของเธอผ่านการเข้าร่วมในโปรแกรมศิลปินในพำนักหลากหลายแห่ง ประสบการณ์จากการเข้าร่วมในเทอมที่ 1 ของ Manwook ใน VITC Art Museum Residency ในปี 2020 และเทอมที่ 3 ของ Osan Cultural Foundation Residency ในปี 2016 ได้เพิ่มมิติให้กับผลงานของเขาได้อย่างแยบยล นอกจากนี้ Manwook ยังคงพัฒนาหลักการทางศิลปะของเขาผ่านการจัดแสดงผลงานในนิทรรศการกลุ่มและการตีพิมพ์อย่างอิสระ โดยมุ่งเน้นไปที่การสำรวจและเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตอมนุษย์ที่มีภาพลักษณ์โดดเด่นและชัดเจน
นิทรรศการ “Pop Korea: A Korean Group Exhibition in Thailand” เปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 6 – 24 พฤศจิกายน 2567 ที่ RCB Photographers’ Gallery ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
และนอกจากการนำผลงานศิลปะของเหล่าศิลปินมากความสามารถจากประเทศเกาหลีใต้มาจัดแสดงที่ประเทศไทยแล้ว ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ยังส่งเสริมแวดวงศิลปะด้วยการนำผลงานของศิลปินชาวไทยไปจัดแสดงนิทรรศการ “When the Wind Blows” ร่วมกับ All About Art Gallery ณ ประเทศสิงคโปร์อีกด้วย โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดของนิทรรศการเพิ่มเติมได้เร็ว ๆ นี้ที่ช่องทางของ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF RIVERCITY BANGKOK
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่