Hermès รังสรรค์นาฬิกาพก Slim d’Hermès Pocket Mysterious Rider เผยความมีชีวิตชีวาของภาพกราฟิกผสานศิลปะญี่ปุ่นและวัฒนธรรมป๊อบสไตล์การ์ตูนคอมิก มีเพียง 3 เรือน
Hermès (แอร์เมส) รังสรรค์นาฬิกาพก Slim d’Hermès Pocket Mysterious Rider (สลิม เดอ แอร์เมส พ็อคเก็ต มิสทีเรียส ไรเดอร์) ที่มีเอกลักษณ์และซับซ้อนทันสมัย ถ่ายทอดภาพแห่งการสร้างสรรค์สู่โลกอนาคตที่เต็มไปด้วยสีสัน ผสานภาพกราฟิกรวมเข้ากับศิลปะญี่ปุ่นอันประณีตและวัฒนธรรมป๊อบสไตล์การ์ตูนคอมิก สร้างความมีชีวิตชีวาให้กับนักขี่ผู้แสนลึกลับ ขณะที่ฉากหลังเป็นภาพร้านค้าที่ชวนให้นึกถึงร้านแห่งตำนานและร้านประวัติศาสตร์ของ Hermès ซึ่งตั้งอยู่ ณ 24 Faubourg Saint-Honoré (เลขที่ 24 โฟบูร์ก แซงโตโนเร) ในกรุงปารีส โดยนาฬิกาพกนี้ตีความจากลวดลายบนผ้าพันคอไหม Mysterious Rider(มิสทีเรียส ไรเดอร์) ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นโดยนักวาดภาพประกอบและนักออกแบบ Viktor Hachmang (วิกเตอร์ ฮัคแมง) จากผู้เข้ารอบสุดท้ายในงาน Grand Prix du Carré Hermès (กรังด์ ปรีซ์ ดู แคร์รี แอร์เมส)
นับเป็นจุดบรรจบระหว่างความดั้งเดิมของไวท์โกลด์เรืองรองบนตัวเรือนตัวเรือนทรงกลม ขนาด 45 มิลลิเมตร ผสานความแวววาวละเอียดอ่อนของหน้าปัดลงยา และฝาเปิด-ปิดบนหน้าปัดที่สร้างสรรค์เป็นการผสมผสานอันสง่างามของหลักการอันซับซ้อนและถ่ายทอดด้วยสมดุลยภาพอันกลมกลืน
เส้นสายไร้ซึ่งกาลเวลาที่ออกแบบโดย Philippe Delhotal (ฟิลิปป์ เดโลตัล) ในปี ค.ศ.2015 แสดงถึงทักษะอันเชี่ยวชาญของแอร์เมสด้วยส่วนโค้งอันเพรียวบาง ที่เน้นถึงลวดลายอันหนักแน่นและเปี่ยมด้วยสไตล์เรียบง่าย อันเป็นเอกลักษณ์ โดยนาฬิกาเรือนนี้ ได้สะท้อนถึงโลกแห่งจินตนาการอันแสนสนุกสนานและธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวของห้วงเวลาแห่งแอร์เมส
ฝาเปิด-ปิด ถ่ายทอดด้วยภาพของไบค์เกอร์และมอเตอร์ไบค์อันทรงพลัง จากการรังสรรค์อย่างละเอียดอ่อนด้วยงานลงยาแบบ champlevé (ชองป์เลอเว) ซึ่งเป็นเทคนิคที่อาศัยทักษะและความเชี่ยวชาญโดยเชื่อมโยงถึงขั้นตอนต่างๆ ของการสลักผนังเล็กๆ ลงบนโลหะ และเติมด้วยผงกระจกสีที่ผสมเข้ากับน้ำมันธรรมชาติ ก่อนนำไปเผาไฟอีกหลายครั้งภายในเตาเผาที่อุณหภูมิสูงกว่า 800 องศาเซลเซียส เพื่อเป็นการยึดเกาะผงสีไว้กับที่ เติมเต็มไปด้วยสีสันและแวววาวประกายผ่านงานฝีมืออันประณีตพิถีพิถัน รังสรรค์กรอบหน้าปัดลงยาสีขาว โดยศิลปินช่างลงยาต้องบรรจงใช้การลงยาในหลากหลายชั้นอย่างละเอียดอ่อน ทั้งการทำให้แห้งและเผาไฟสลับกันไปอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะนำมาตกแต่งด้วยงานวาดด้วยมือเป็นตัวเลขต่างๆ รวมถึงเครื่องหมายบอกชั่วโมงสีแดงโดดเด่น
ภายในตัวเรือนแสดงฟังก์ชันบอกเวลาชั่วโมงและนาที ขับเคลื่อนด้วยจักรกลไขลานอัตโนมัติ Manufacture Hermès H1950 รังสรรค์ขึ้นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง สามารถกันน้ำได้ 3 บาร์ (30 เมตร) ทั้งประดับสายคล้องและกระเป๋าทำจากหนังจระเข้สีแดง Rouge H (รูจ เอช) แบบด้าน เผยถึงความต่อเนื่องของเฉดสีแดงโดยองค์รวมของผลงานสุดสร้างสรรค์นี้ได้อย่างสวยงาม มีเพียง 3 เรือน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF HERMÈS