ผลงานเรือนเวลาสุดพิเศษที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของศิลปะปารีเซียง ถ่ายทอดความรัก ความฝันและความวิจิตรในแบบฉบับของ Van Cleef & Arpels
Van Cleef & Arpels (แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์) จัดแสดงผลงาน Watches and Wonders ประจำปีค.ศ. 2025 รังสรรค์ผลงานเพื่อเป็นที่ระลึกถึงปารีสในฐานะมหานครก่อตั้ง มอบแรงบันดาลใจให้แก่เมซงในฐานะตัวแทน “มหานครแห่งความรัก” เมซงถ่ายทอดความงดงามของชีวิต สรรค์สร้างเครื่องประดับพยานรักล้ำค่าหลากรูปแบบและนาฬิกาข้อมือตกแต่งรัตนชาติ ก่อกำเนิดเรื่องราวความรักสุดโรแมนติกผ่านเรือนเวลา
คอลเลกชันนาฬิกาข้อมือ Poetic Complications นับตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 เมซงสรรค์สร้างนาฬิกาข้อมือระบบซ้อนกลไก (complication watch) ขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนความวิจิตรบรรจงเชิงประดิษฐกรรม ถ่ายทอดทักษะ ความชำนาญด้านกลไกบอกเวลาผสานร่วมกับวัสดุเลอค่า โดยอาศัยความเป็นเลิศของหัตถศิลป์ชั้นสูง สะท้อนเรื่องราวอันงดงามในชีวิตผ่านรายละเอียดตกแต่งบนหน้าปัด “สะพานแห่งความรัก” รุ่นต่างๆ ในคอลเลกชัน Pont des Amoureux สี่ออารมณ์โรแมนติกตามช่วงเวลานัดพบของคู่รักบนสะพาน โดยอาศัยการซ้อนระบบระหว่างกลไกเข็มตีกลับบอกชั่วโมง กับกลไกเข็มตีกลับบอกนาทีเพื่อขับเคลื่อนคู่รักจากต่างปลายสะพานให้มาพบ และจูบกันในตอนเที่ยงวันและเที่ยงคืน ซึ่งอากัปแห่งรักนั้น ราวจะหยุดนิ่งอยู่ประมาณสามนาทีก่อนแต่ละฝ่ายจะแยกจากกัน กลับไปตั้งต้นบอกชั่วโมง และนาทีอีกครั้ง ผ่านหน้าปัดที่ถ่ายทอดความงามของธรรมชาติ แสงอ่อนของอรุณรุ่ง ความสดใสยามเช้า สีทองของอาทิตย์ หรือประกายแสงจันทร์กลางคืน
Lady Arpels Bal des Amoureux Automate








เปล่งประกายเจิดจรัสด้วยรายละเอียดตกแต่งบนหน้าปัด ถ่ายทอดเทคนิคงานฝีมือลงยาผงสีก่อเงาแสงหรือ grisaille (กรีซายล์) สะท้อนจิตรกรรมสีน้ำอันละเมียดละไมหลากเฉดสีเผยฉากหลังจำลองทัศนียภาพอันโดดเด่นแก่สะพานประติมากรรมทองคำฉลุลาย ผสานเทคนิค enamel decal (รูปลอกลงยา) ฝาหลังตัวเรือนผสานหัตถกรรมสลักทอง คือสายคาดโครงตาข่ายโอบกระชับและยืดหยุ่น ประดับงานฝังเพชรสลับไพลินไล่เฉดสีตามการตีความหมายของผลงานในแต่ละชิ้น

สานต่อเรื่องราวสุดโรแมนติกบน “สะพานแห่งความรัก” นาฬิกาข้อมือ Pont des Amoureux เมซงจารึกนัดพบอีกครั้งในงานลีลาศผ่าน “นาฏกรรมแห่งความรัก” งานออกแบบหน้าปัดนาฬิกาข้อมือหุ่นกล Lady Arpels Bal des Amoureux Automate รังสรรค์บรรยากาศชวนฝันของลานเต้นรำในคาเฟชานเมืองปารีส สถานที่ยอดนิยมของหนุ่มสาวทั้งหลายระหว่างศตวรรษที่ 19


โดยกลไกขับเคลื่อนหุ่นกลคู่รักให้มาจูบทักทายแก่กันยามเที่ยงวันและเที่ยงคืน อีกทั้งมีปุ่มกดบนตัวเรือนสั่งงานระบบดำเนินฉากรักแสนหวานนี้ได้ทุกเวลาตามต้องการ ในขณะเดียวกับที่กลไกเข็มตีกลับซ้อนระบบ (double retrograde system) สัญลักษณ์เฉพาะตัวของคอลเลกชัน ติดตั้งดาวสองดวงสำหรับทำหน้าที่แยกกันบอกชั่วโมงและนาที
ท่ามกลางการประดับตกแต่งหน้าปัดห้าระนาบมิติความลึก จากการใช้ศิลปะไล่เฉดในงานลงยาผงสีก่อเงาแสง สู่จิตรกรรมค่าต่างแสง (chiaroscuro) ภาพผืนฟ้าประดับดาวยามราตรี
จำลองแบบผ่านงานฝีมือต่างเทคนิค ทั้งลงยาจุดสี ประติมากรรมทองคำขาว สะท้อนความพิถีพิถันเหนือชั้นของช่างศิลป์ประจำเมซง ด้านหลังตัวเรือนสร้างสรรค์ด้วยเทคนิค enamel decal (รูปลอกลงยา) บนแก้วไพลินร่วมกับงานแกะสลักร่องลายสองหนุ่มสาวจับคู่เต้นรำ

เมซงถ่ายทอดงานออกแบบ Poetry of Time หรือ “บทกวีบอกเวลา” ถ่ายทอดผ่าน“ศิลปะวัตถุ” ล้ำค่า ตัวแทนสุนทรียศิลป์แนวคิดในการบอกเวลาของการออกแบบจำลองมิติเร้นลับแห่งห้วงจักรวาล เต็มเปี่ยมไปด้วยลูกเล่นจุดประกายจินตนาการเกินฝัน สะท้อนทักษะ ความชำนาญเหนือชั้นของเมซง สู่ประดิษฐกรรมหุ่นกล จากการการคัดสรรและนำหลากวัสดุมาแปรรูปหลอมรวมเป็นโครงสร้างประดิษฐกรรม ทุกผลงานคือบทพิสูจน์ที่เมซงอนุรักษ์และสืบสานการพลิกแพลงทักษะแขนงต่างๆ ถ่ายทอดผ่านสองผลงานหัตถศิลป์ Extraordinary Object นาฬิกาตั้งโต๊ะหุ่นกล Naissance de l’Amour automaton (กามเทพกำเนิดรัก) และ นาฬิกาตั้งโต๊ะจักรกล Planétarium automaton (ดาราจักรจำลอง)
Naissance de l’Amour automaton (นาฬิกาตั้งโต๊ะหุ่นกล “กามเทพกำเนิดรัก”)

นาฬิกาตั้งโต๊ะหุ่นกล Naissance de l’Amour automaton (เนซองซ์ เดอ ลามูโรโตมาต็อง) หรือ “กามเทพกำเนิดรัก” คือผลงานต่อเนื่องในคอลเลกชันของเมซง โดกามเทพ ในทุกตำนานต่างอารยธรรมทั่วโลกล้วนยกย่องตรงกันให้เป็นเทพแห่งความรัก คือศูนย์กลางของทุกองค์ประกอบ ถ่ายทอดความอ่อนหวานและอ่อนโยนของห้วงอารมณ์ โดยอาศัยหัตถศิลป์ไขแว็กซ์เขียวเป็นจุดตั้งต้น ประติมากรรมหล่อแบบทองคำสีขาว ทองคำสีกุหลาบและทองคำสีเหลืองประดับเพชร


ติดตั้งกลไกขับเคลื่อนให้ลอยตัวขึ้นจากวงล้อมขนนกจำลองเคลือบเงาสีไล่เฉดเหลื่อมโทน ชั้นเชิงของงานออกแบบกลไกซ้อนระบบสำหรับนาฬิกาตั้งโต๊ะหุ่นกลรุ่นนี้ เป็นผลจากกระบวนการพัฒนา สร้างสรรค์ร่วมกับสตูดิโอของ François Junod studios (ฟรองซัวส์ ฌูโนด์) แซงเตอะ-ครัวส์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อให้กามเทพบนเสาทองคำสีกุหลาบประติมากรรมกรีก ท่ามกลางปุยเมฆทองคำสีขาวประดับเพชรกับไพลินสีชมพูสามเฉด ลอยตัวขึ้นมาอย่างงามสง่าและขยับปีกลงยาลายฉลุ plique-à-jour (ปลิกาฌูร) ไปตามท่วงทำนองของชุดระฆัง ตกแต่งมิติทรงเป็นอ่างยึดกรงขนนกเคลือบเงาสีประกอบกลไกขับเคลื่อนให้กางออกและหุบเข้าตามระบบสั่ง วัสดุต่างๆ ล้วนผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เผยคุณลักษณ์รายละเอียดในเนื้ออย่างชัดเจน ส่วนแกนวงแหวนหมุนได้คาดรอบแท่นฐานทรงกระบอก สำหรับขนนกฝังเพชรสองเส้น ทำหน้าที่บอกเวลาชี้ตัวเลขและจุดนาทีสีทองไล่ตำแหน่งต่อเนื่อง
นาฬิกาตั้งโต๊ะจักรกล “ดาราจักรจำลอง” Planétarium automaton

เมซงถ่ายทอดงานออกแบบ Poetry of Time หรือ “บทกวีบอกเวลา” ถ่ายทอดผ่าน“ศิลปะวัตถุ” ล้ำค่า ตัวแทนสุนทรียศิลป์แนวคิดในการบอกเวลาของการออกแบบจำลองมิติเร้นลับแห่งห้วงจักรวาล เต็มเปี่ยมไปด้วยลูกเล่นจุดประกายจินตนาการเกินฝัน สะท้อนทักษะ ความชำนาญเหนือชั้นของเมซง สู่ประดิษฐกรรมหุ่นกล จากการการคัดสรรและนำหลากวัสดุมาแปรรูปหลอมรวมเป็นโครงสร้างประดิษฐกรรม ทุกผลงานคือบทพิสูจน์ที่เมซงอนุรักษ์และสืบสานการพลิกแพลงทักษะแขนงต่างๆ ถ่ายทอดผ่านสองผลงานหัตถศิลป์ Extraordinary Object นาฬิกาตั้งโต๊ะหุ่นกล Naissance de l’Amour automaton (กามเทพกำเนิดรัก) และ นาฬิกาตั้งโต๊ะจักรกล Planétarium automaton (ดาราจักรจำลอง)
Planétarium automaton (ปลาเนตารียอม โอโตมาตง) หรือ นาฬิกาตั้งโต๊ะจักรกล “ดาราจักรจำลอง” โดดเด่นสะดุดตาด้วยมิติโครงสร้าง ขนาดความสูง 50 เซนติเมตร และเส้นผ่านศูนย์กลาง 66.5 เซนติเมตร คือเวทีแสดงวิถีโคจรรอบดวงสุริยะเสมือนจริงของดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบที่สามารถมองเห็นจากโลกได้ด้วยตาเปล่า จากใต้ผืนฟ้าเหนือจัตุรัสว็องโดม



สู่ความประทับใจที่เมซงมีต่อหมู่ดาวกลางห้วงเวหนอันกว้างใหญ่ ในการสร้างสรรค์อาณาจักร Poetic Astronomy หรือ “จินตศิลป์ดาราศาสตร์” ถ่ายทอดจินตนาการรังสรรค์ย่อส่วนงานต้นแบบ “ท้องฟ้าจำลอง” ระหว่างศตวรรษที่ 18 มาสู่ระบบสุริยจักรวาลขนาดจิ๋ว มีพระอาทิตย์เป็นศูนย์กลางวิถีโคจรของโลก ดวงจันทร์บริวารและดาวเคราะห์อื่นๆ อยู่ภายในกรอบตัวเรือนนาฬิกาข้อมือ สู่หุ่นกลขนาดใหญ่สำหรับเป็นของตกแต่งประดับโต๊ะ
Van Cleef & Arpels ได้พัฒนามิติสัณฐานเชิงโครงสร้างดาราจักรจำลองของนาฬิกาประดับโต๊ะเรือนนี้ให้มีความสมจริงตามระบบสุริยจักรวาล เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนตามสั่งให้จังหวะการเคลื่อนตัวตามทำนองดนตรี สามารถเริ่มต้นตามความต้องการของผู้สั่งงานได้ตลอดเวลา ภายใต้โดมแก้วครอบฐานจักรกลจำลองวิถีสุริยะจักรวาล จะโคจรไปบนวิถีของตนตามเวลาจริง เมื่อระบบขับเคลื่อนกลไกการทำงานได้เริ่มต้น
จุดบรรจบระหว่างประดิษฐกรรมนาฬิกาข้อมือและหัตถศิลป์เครื่องประดับชั้นสูง คือเส้นทางสู่การสร้างสรรค์ อันนำมาซึ่งอาณาจักร “เครื่องประดับบอกเวลา” ของ Van Cleef & Arpels โดดเด่นและเป็นเลิศในการพลิกแพลงทักษะความชำนาญงานเครื่องประดับมารังสรรค์สู่นาฬิกาข้อมือ ผ่านลูกเล่นซ่อนหน้าปัดหลากรูปแบบของตัวกลัดซ่อน และชั้นเชิงทางเทคนิคประกอบชิ้นส่วน หลอมรวมสายนาฬิกาสง่างาม มอบความยืดหยุ่น โอบกระชับรอบสรีระข้อมือ บรรดารัตนชาติล้วนผ่านการคัดสรรตามมาตรฐานคุณภาพอย่างพิถีพัน
นาฬิกาข้อมือ Cadenas

นาฬิกาข้อมือ Cadenas (กาเดอนาส์) กำเนิดในปีค.ศ. 1935 ตัวแทนหัตถศิลป์บอกเวลาของ Van Cleef & Arpels หลอมรวมความงามสง่าทางการออกแบบเข้ากับประโยชน์ใช้สอย สู่ความโดดเด่นเป็นหนึ่งของโครงสร้างสายโซ่คู่ขนานทรงปล้องท้องงูยึดตัวเรือนหน้าปัดนาฬิกาจำลองแบบมิติทรงแม่กุญแจ มอบความยืดหยุ่นโอบกระชับรอบโค้งข้อมืออย่างแนบเนียน ส่วนฐานหน้าปัดบอกเวลาจะมองเห็นอย่างแยบยลผ่านอากัปพลิกข้อมือเพียงเล็กน้อย ในขณะที่สายตาของบุคคลอื่นรอบข้าง นี่คือเครื่องประดับข้อมือสุดภูมิฐานอย่างแท้จริง



สืบสานความประดิษฐกรรม อันถือเป็นมรดกศิลป์เลอค่าและทรงคุณค่าในฐานะผลงานประวัติศาสตร์แห่งเมซง ได้รังสรรค์ผลงานจากการประกอบสายคาด “ปล้องท้องงู” ทำจากทองคำสีเหลืองประกอบตัวเรือนกรอบหน้าปัดฝังเพชรเกล็ดหิมะจิกไข่ปลาตัดขอบกับไพลินสีน้ำเงินเจียระไนเหลี่ยมจัตุรัสมุมแหลม (princess-cut) เรียงแถวเดี่ยว ลูกเล่นสีตัด บนชิ้นส่วนตัวกลัดซ่อนของสายคาดโดยใช้งานฝังไพลินเหลี่ยมจัตุรัสแถวเดี่ยว ในขณะที่พื้นหน้าปัดนาฬิกาทองคำสีขาวรองรับงานฝังเพชรเหลี่ยมเกสรระยิบระยับ
นาฬิกาข้อมือแถบริบบินซ่อนเวลา Ruban Mystérieux

ศิลปะในการตัดเย็บ เป็นอีกหนึ่งแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจให้แก่เมซง สู่ผลงานสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือเครื่องประดับชั้นสูงแถบริบบินซ่อนเวลา Ruban Mystérieux (รูบอง มีซเตอริ เยอซ์) ถ่ายทอดความอ่อนช้อยที่โอบรอบข้อมือได้อย่างแนบเนียน ด้วยโครงสร้างตัวเรือนวงกำไลแถบริบบินรองรับเพชรเดี่ยวคุณภาพ DIF เจียระไนทรงวงรีขนาด 3.72 กะรัตประกอบกลไกเลื่อนเผยหน้าปัดผลึกแก้วคริสตัล ติดตั้งเข็มบอกชั่วโมงและนาทีท่ามกลางงานล้อมเพชร ขับเคลื่อนการทำงานของระบบด้วยกลไกไขลานด้วยมือ อาศัยความละเอียด พิถีพิถันและแม่นยำอย่างสูงในการประกอบทุกชิ้นส่วนเข้ากรอบตัวเรือน

สำหรับผลงานชิ้นนี้ ตัวเรือนโลหะทองรองรับงานฝังเพชรเหลี่ยมเกสรชิดขอบ สมือน “พรมหิมะ” ฝังไพลินและมรกตซ่อนหนามเตย หรือ Mystery Set อันเป็นเทคนิคของเมซงที่จดสิทธิบัตรคุ้มครอบเมื่อปีค.ศ. 1933
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF VAN CLEEF & ARPELS