Hermès เผยความซับซ้อนผ่านเรือนเวลา Arceau Duc Attele ผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสไตล์และความเชี่ยวชาญของแบรนด์
Hermès (แอร์เมส) เผยความซับซ้อนของเครื่องบอกเวลาชั้นสูง (Haute Horlogerie) ผ่านเรือนเวลา Arceau Duc Attelé (อาร์โซ ดุค อัตเทอเล) ผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสไตล์ ความเชี่ยวชาญของแบรนด์ และสัญลักษณ์แห่งนักขี่ม้าผู้สง่ามาบรรจบภายในเรือนเวลาอันสลับซับซ้อนสูงเป็นครั้งแรก ด้วยองค์ประกอบอันมีเอกลักษณ์เฉพาะ ณ กลางหัวใจแห่งเรือนเวลา
สะท้อนงานออกแบบอันคลาสสิกของนาฬิกาอาร์โซ ที่สร้างสรรค์ทั้งเครื่องบอกเวลาและงานหัตถศิลป์ จากการออกแบบของ Henri d’Origny (อองรี ดอริญี) ในปีค.ศ.1978 รูปทรงกลมด้วยหูตัวเรือนทรงโกลนอสมมาตร ที่สืบทอดสไตล์ของรุ่นคลาสสิกเหนือกาลเวลาได้อย่างแท้จริง โดดเด่นด้วยตัวเรือนไทเทเนียมขัดเงาและโรสโกลด์ขนาด 43 มิลลิเมตร หนา 16 มิลลิเมตร ผสานความสลับซับซ้อนหลักเหล่านี้เข้ากับกลไกความถี่สูงเป็นครั้งแรก โดยทูร์บิญงกลางแบบสามแกน (triple-axis tourbillon) และจักรกลมินิต รีพีทเตอร์แบบ ‘ส้อมเสียง’ (‘tuning-fork’) ที่มีรายละเอียดทางเทคนิคและสไตล์อันพิถีพิถัน หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวเข้ากับโลกแห่งเครื่องบอกเวลาชั้นสูงและสุนทรียะความสง่าของนักขี่ม้าแอร์เมส
ส่วนบนด้านหน้าปัด ติดตั้งกระจกแซฟไฟร์โค้งนูนแบบโดม อยู่เหนือทูร์บิญงแบบสามแกน รวมถึงกรงไทเทเนียมขัดเงาแบบกระจกทั้งสามด้านที่ขึ้นรูป โดยการซ้อนกันของตัวอักษร “Hs” คู่อันเป็นสัญลักษณ์ของการรวมกันเป็นหนึ่งของ Émile Hermès (เอมิล แอร์เมส) และ Julie Hollande (จูลี ออลลองด์) ในปีค.ศ.1900 ตัวอักษรที่คล้องกันสะท้อนถึงการย่อส่วนจักรกลอันซับซ้อน ที่ทูร์บิญงนี้ได้ประกอบไว้ด้วยแกนแยกสามแกนและมีความเร็วในการหมุนต่างกัน (หมุนหนึ่งรอบสมบูรณ์ใน 30, 60 และ 25 วินาที)
โดยทำงานภายในวงแหวนชั่วโมงแบบเยื้องศูนย์และโค้ง แสดงชั่วโมงและนาทีด้วยตัวเลขอารบิกทรงเอียงดูคล้ายกับม้าที่กำลังควบกระโจน เสริมความสามารถในการมองเห็นถึงความสำเร็จด้านเครื่องบอกเวลาด้วยเข็มชี้รูปทรงกรงเล็บ (claw-shaped) ปรากฏอยู่รอบขอบวงแหวนบอกเวลา และองค์ประกอบเหลือบสีน้ำเงิน แสดงพลังงานสำรอง ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
Hermès Horloger Arceau Duc Attelé ตกแต่งด้วยลวดลายงานสลัก guilloché (กิโยเช่) สะท้อนถึงรูปทรงของค้อนมินิท รีพีทเตอร์ ซึ่งสลักเสลาเป็นดั่งรูปทรงของม้า โดยทำหน้าที่ตีเสียงบอกเวลาชั่วโมง 15 นาที และนาที ควบคุมผ่านตัวสไลด์ซึ่งออกแบบขึ้นเฉพาะและติดตั้งบนด้านข้างของตัวเรือน ค้อนเหล่านี้จะตีลงบนก้านรูปทรงตัวยู (U) ยืดยาวของฆ้องสตีลเนื้อแข็งขนาดยาวที่สามารถมองเห็นได้รายล้อมรอบขอบของหน้าปัด โดยมีโทนเสียงต่างๆ ส่วนโครงสร้าง ‘ส้อมเสียง’ สะท้อนอันก้องกังวานมากที่สุด ด้วยวัสดุที่นำมาใช้สำหรับตัวเรือนทั้งน้ำหนักเบา และมอบคุณสมบัติด้านเสียง
ฝาหลังตัวเรือนติดตั้งกระจกแซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อน ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture Calibre H1926 ความถี่บาลานซ์ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง (5 เฮิรตซ์) ผ่านความสลับซับซ้อนและความสวยงามของงานฝีมือการตกแต่งเฉพาะ โดยเฉพาะเกียร์เฟืองกับงานออกแบบสไตล์คcut-out ได้แรงบันดาลใจจาก Duc attelé (ดุค อัตเทอเล) รถม้าสี่ล้อ หลังคาด้านบนที่ลากโดยม้าสองตัว นับเป็นภาพที่ผูกพันอย่างใกล้ชิดกับแอร์เมส ทั้งได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดโดยจิตรกรนักวาดภาพสัตว์และผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการขี่ม้าชาวฝรั่งเศสแห่งศตวรรษที่ 19 ของ Alfred Dreux (อัลเฟรด ดเร็กซ์)
ขณะที่แท่นเครื่องและสะพานจักรของกลไกไขลานด้วยมือผ่านเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ผ่านการเคลือบ PVD สีแอนทราไซต์ ย้ำถึงเฉดสีอ่อนของจักรกลตีเสียงบอกเวลา ส่วนแร็คหัวและแผงคอม้า
รวมถึงเฟืองประกอบด้วยซี่ฟันเฟือง หยิบยืมมาจากสัญลักษณ์รถม้าของแอร์เมส ตลอดจนสะพานจักรของโครงสร้างจักรกลตีเสียงบอกเวลาที่ทำจากคริสตัลแซฟไฟร์แบบเปลือยโปร่ง openworked ซึ่งเสียงอันไพเราะของระบบมินิท รีพีทเตอร์ และเผยให้เห็นถึงงานฝีมือชั้นสูงของการตกแต่งกลไกอันประณีต รวมถึงชาตอง (chatons) ทอง ทับทิมขนาดใหญ่และสกรูขัดเงา ประกอบด้วยชิ้นส่วน 563 ชิ้น ทับทิม 54 เม็ด
สามารถสำรองพลังงานนานเฉลี่ย 48 ชั่วโมง กันน้ำได้ลึก 3 บาร์ (30 เมตร) จับคู่กับสายหนังจระเข้สีแอนทราไซต์แบบด้านหรือสีน้ำเงินเข้มแบบด้าน รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันภายในห้องปฏิบัติการของแอร์เมส และติดตั้งตัวพับล็อกสายแบบบานพับ
Hermès Horloger Arceau Duc Attelé โดยรุ่นนี้มีเวอร์ชันไทเทเนียมและโรสโกลด์ แต่ละเวอร์ชันผลิตเพียง 24 เรือน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF HERMÈS