MB&F เผยผลงานสุดสร้างสรรค์แห่งจินตนาการไปกับรุ่น Legacy Machine Perpetual Evo
MB&F (เอ็มบีแอนด์เอฟ) แบรนด์นาฬิกาหรูที่สร้างสรรค์การออกแบบและประดิษฐ์ ในการรังสรรค์นาฬิกาตามแนวคิดสุดขั้ว ซึ่งชื่อแบรนด์ย่อมาจาก Maximilian Büsser & Friends (แม็กซิมิเลียน บูซเซอร์ แอนด์ เฟรนด์ส) เผยผลงานสุดสร้างสรรค์ของแบรนด์ MB&F Legacy Machine Perpetual Evo ให้ผู้สวมใส่นาฬิการ่วมเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งอยู่บนแผนที่แห่งจินตนาการ โดย Maximilian Büsser คือนักเขียนแผนที่ผ่านภาพสเก็ตช์
ซึ่งนาฬิกาในคอลเลกชัน Evo ถือเป็นวิวัฒนาการครั้งสำคัญ สู่ผู้นำทางด้านไลฟ์สไตล์ที่ชวนให้ค้นหา ผ่านการเดินทางบนแผนที่แห่งชีวิตที่ควบคู่ไปกับนาฬิกาบนข้อมือ จากการออกแบบ เทคนิค และจิตวิญญาณ ดังนั้นนาฬิกาคอลเลกชันนี้สะท้อนวิวัฒนาการที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ MB&F The LM Perpetual Evo is not a watch for sports. It is a watch for life.
โดยในปีค.ศ. 2024 ทางแบรนด์ถ่ายทอดลงบนตัวเรือนขนาด 44 x 17.5 มิลลิเมตร ผลิตจากเซอร์โคเนียมหรือไทเทเนียม วัสดุโลหะผสมที่มีความแข็งแกร่งทนทานเหนือกว่าสเตนเลสสตีล หน้าปัดสีน้ำเงิน (Icy Blue)
การออกแบบของนาฬิการุ่นนี้ประกอบจากชิ้นส่วน 70 ชิ้น ได้รับการพัฒนาปรับเปลี่ยนโดยไม่มีขอบตัวเรือน เป็นการเปิดกว้างให้เห็นหน้าปัดนาฬิกาที่ช่วยในการอ่านค่าปฏิทินผ่านหน้าปัดย่อยและสามารถชมความงดงามของส่วนประกอบกลไกได้อย่างชัดเจน
ทั้งบาลานซ์วีลอันเป็นเอกลักษณ์ของ MB&F และสกรูควบคุมแบบดั้งเดิม ที่ตกแต่งด้วยมือถือเป็นสุดยอดงานศิลป์ที่แสดงความเคารพต่อประเพณีดั้งเดิมของการผลิตนาฬิกา เน้นงานแกะสลักด้วยมือฝีมือชั้นสูง และได้พัฒนากระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดม ในการปกป้องกลไกและรักษาความแข็งแกร่งของโครงสร้าง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ที่ประกอบเข้ากับตัวเรือนโดยตรง ซึ่งต้องคำนวณอัตราส่วนสูงต่อเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างแม่นยำ
ทาง MB&F เปิดตัวคอลเลกชันนาฬิกาผสมฃผสานกลไกสลับซับซ้อน และคงเอกลักษณ์ของการผสานประเพณีและนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ซึ่งอยู่ในจุดสูงสุดของความเชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกาของ MB&F นับตั้งแต่เปิดตัว และองค์ประกอบเพิ่มเติมของ LM Perpetual Evo คือ FlexRing ได้พัฒนาขึ้นมาพิเศษ ผลิตจากสเตนเลสสตีลแบบบล็อกเดียวเป็นรูปวงแหวนที่พอดีระหว่างตัวเรือนและกลไก ทำหน้าที่ป้องกันแรงกระแทกตามแกนแนวตั้งและด้านข้าง มอบความแข็งแกร่งให้กับกลไกของปฏิทินถาวร ซึ่งเป็นฟังก์ชันสะท้อนความคลาสสิกและความสง่างาม
ออกแบบโดย Stephen McDonnell (สตีเฟน แมคดอนเนลล์) ฟังก์ชันปฏิทินถาวรที่ได้รับรางวัล ถือเป็นนวัตกรรมที่มาแทนกลไกแบบดั้งเดิม ด้วยโครงสร้างของระบบโปรเซสเซอร์เชิงกล mechanical processor ที่ประกอบด้วยชุดดิสก์ที่ซ้อนทับกัน ด้วยคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่ช่วยตัดการเชื่อมต่อปุ่มกดตั้งค่าในระหว่างการเปลี่ยนวันที่ ดังนั้นแม้ว่าปุ่มกดจะทำงานโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะที่เปลี่ยนวันที่ ก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อกลไก
ส่วนปุ่มกดควบคุมฟังก์กันการทำงานของปฏิทินถาวร ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบสปริงสองชั้น ในการสัมผัสและปรับตั้งค่าได้อย่างสะดวกด้วยเม็ดมะยมแบบขันเกลียว มีแกนดันของก้านไขลาน ซึ่งจะปลดเม็ดมะยมออกจากกลไกการขึ้นลาน เมื่อดันเข้าและขันให้แน่น ช่วยลดโอกาสที่จะไขลานบาร์เรลเมนสปริงโดยไม่ตั้งใจ
โดยนาฬิการุ่นนี้ฟังก์ชันแสดงผล ทั้งชั่วโมง นาที วัน วันที่ เดือน ปีอธิกสุรทินและมาตรวัดพลังงานสำรอง ความถี่ 18,000 ครั้งต่อชั่วโมง / 2.5 เฮิร์ตซ ประกอบจากชิ้นส่วน 581 ชิ้น ทับทิม 41 เม็ด สามารถสำรองพลังงาน 72 ชั่วโมง กันน้ำได้ลึกถึง 80 เมตร หรือ 270 ฟุต ประกอบคู่สายยางที่โอบรับกระชับข้อมือ ติดตั้งตัวล็อคสายไทเทเนียมแบบหัวเข็มขัด
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF MB&F