ให้กลิ่นอายของความรักรายล้อมรอบกายไปกับละอองความหอม 12 แนวกลิ่นสุดโรแมนติก บูสต์ความสุขตลอดเดือนแห่งความรักให้เปล่งประกายในทุก ๆ วัน
ความสุขเกิดจากอะไร? ทำอย่างไรให้มีความสุข? อาจเป็นคำถามยอดฮิตในยุคปัจจุบัน อันที่จริงแล้ว ความสุขเกิดจากสารสื่อประสาท หรือ ฮอร์โมนในร่างกายของคนเรานั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อสื่อสารและทำหน้าที่ร่วมกันกับอวัยวะต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจของเราสามารถทำงานได้อย่างปกติ ด้วยเหตุนี้เอง ฮอร์โมนจึงสำคัญต่อร่างกายของเรา โดยเฉพาะฮอร์โมนที่ช่วยสร้างความสุขที่หลายคนพอจะคุ้นชื่อกันมาบ้าง
• โดพามีน (Dopamine) ฮอร์โมน ‘รู้สึกดี’ เป็นสารสื่อประสาทที่จะหลั่งเมื่อเราเกิดความรู้สึกประสบความสำเร็จ ช่วยกระตุ้นให้เราทำในสิ่งที่เราชอบ ทุกครั้งที่เรารู้สึกดี
• เซโรโทนิน (Serotonin) เป็นสารสื่อประสาทอีกชนิดหนึ่งที่หลั่งเมื่อเรารู้สึกผ่อนคลาย หรือรู้สึกมีความสุขสงบ และการออกมารับแสงแดดในตอนเช้าทำให้อารมณ์แจ่มใส กระปรี้กระเปร่า จะช่วยให้ร่างกายหลั่งเซโรโทนินออกมา
• เอ็นโดรฟิน (Endorphin) หรือที่เราเรียกกันกว่า ‘สารสุข’ เปรียบเสมือนมอร์ฟีนธรรมชาติที่ร่างกายหลั่งขึ้นมาก็ต่อเมื่อเรามีความสุข ความพึงพอใจ ผ่อนคลาย และหลั่งเพื่อกระตุ้นความรู้สึกในแง่บวกเมื่ออยู่ในภาวะเครียดฮอร์โมนชนิดนี้ก็จะลดลง
โดยการกระตุ้นสารเหล่านี้เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นการได้รับความรัก การทำสิ่งที่ชอบจนประสบความสำเร็จอย่างที่เราต้องการ หรือการได้ทานอาหารอร่อย ฟังเพลงที่ชอบ ดูหนังเรื่องโปรด การออกกำลังกายและยังรวมไปถึงการได้กลิ่นหอมที่ผ่อนคลาย
ในทางวิทยาศาสตร์เมื่อเราสูดดมกลิ่นหอม โมเลกุลของกลิ่นหอมจะผ่านเข้าไปทางจมูก กระตุ้นเซลล์ประสาทรับความรู้สึกด้านกลิ่นที่อยู่ในโพรงจมูก และไปยังศูนย์รับรู้กลิ่นในสมองแล้วผ่านไปยังส่วนของสมองที่เรียกว่า Limbic system ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมการเรียนรู้ ความจำ อารมณ์ ความหิว และอารมณ์ทางเพศ กลิ่นที่เข้ามากระตุ้น Limbic system จะทำให้สมองปล่อยสารเอ็นดอร์ฟิน ช่วยลดความเจ็บปวด ช่วยส่งเสริมให้อารมณ์ดีและเซโรโทนิน ช่วยทำให้สงบ ผ่อนคลาย
การได้รับกลิ่นจึงสามารถช่วยทำให้เรามีความสุขได้ และนี่คือ 6 กลิ่นหอมที่ช่วยบูสต์ความสุขได้แบบสุดปัง
1. กลิ่นลาเวนเดอร์
ลาเวนเดอร์มักจะถูกใช้เป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับการบำบัดความเครียดด้วยสูตรธรรมชาติ เพราะสารลินาลูล (Linalool) ที่อยู่ในลาเวนเดอร์มีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาความวิตกกังวลได้ดี ลองใช้น้ำมันหอมระเหยที่มีส่วนผสมของลาเวนเดอร์นวดเพื่อผ่อนคลาย หรือจะใช้ง่าย ๆ ด้วยการสูดดมเป็นประจำ กลิ่นหอมหวานก็จะช่วยปรับสมดุลของอารมณ์ให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น
2. กลิ่นตระกูลซิตรัส
กลิ่นผลไม้ในกลุ่มซิตรัสคือผลไม้รสเปรี้ยวต่าง ๆ เช่น ส้ม มะนาว เลม่อน เป็นโทนกลิ่นที่ชวนให้นึกถึงฤดูร้อนที่สดใส กลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้ในกลุ่มซิตรัสจะช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่นมากขึ้น เป็นกลิ่นที่จะช่วยเพิ่มความสุขให้กับวันอันแสนน่าเบื่อได้เป็นอย่างดี
3. กลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์
น้ำมันเปปเปอร์มิ้นท์มีคุณสมบัติในการยกระดับอารมณ์ บรรเทาอาการวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า สามารถช่วยเพิ่มอารมณ์และการทำงานของจิตใจ พร้อมทั้งยังช่วยลดความเครียด ความเหนื่อยล้า ให้กลับมามีชีวิตชีวาได้แบบสบาย ๆ
4. กลิ่นวานิลลา
กลิ่นหอมหวานของวานิลลา จะช่วยให้ร่างกายและสมองรู้สึกผ่อนคลาย แต่ถ้าได้รับกลิ่นในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้เลี่ยนได้ และถ้าหากว่าใครที่ได้รับกลิ่นวานิลลาในช่วงเวลาที่กำลังมีความสุข กลิ่นก็จะช่วยให้เรารู้สึกดีได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
5. กลิ่นหญ้าตัดใหม่
หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่าทำไมเวลาเพิ่งตัดหญ้าเสร็จใหม่ ๆ จะมีกลิ่นที่สดชื่นลอยมาแตะจมูก จากงานวิจัยพบว่า สารเคมีที่ปล่อยออกมาจากหญ้าเวลาที่ถูกตัดใหม่ ๆ สามารถทำให้มีความสุขและผ่อนคลายได้ อีกทั้งยังช่วยหลีกเลี่ยงสภาวะจิตเสื่อมในวัยชราได้อีกด้วย
6. กลิ่นกุหลาบ
อีกหนึ่งกลิ่นที่หลาย ๆ คนคงคาดไม่ถึงว่าสามารถให้ผลในทางกลิ่นบำบัดได้เช่นเดียวกัน โดยมีผลวิจัยแล้วว่าน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากกุหลาบนั้นจะช่วยทำให้ผ่อนคลาย บรรเทาอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ บรรเทาอาการอ่อนเพลีย และช่วยทำให้สดชื่นมีชีวิตชีวา และที่สำคัญที่สุดช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวลได้
ทั้งหมดนี้คือ 6 กลิ่นหอมที่ช่วยบูสต์ความสุข ลองมองหาน้ำหอมที่มีส่วนผสมเหล่านี้รับรองว่าช่วยอัพพลังชีวิตให้กลับมาสดชื่นเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา แต่ก่อนจะไปเลือกน้ำหอมกลิ่นที่ใช่ เราขอแชร์ทริคที่ช่วยให้น้ำหอมติดทนนานมาฝากกัน
• ฉีดน้ำหอมทันที หลังอาบน้ำเสร็จ
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวหมาด ๆ ให้รีบฉีดน้ำหอมทันที เพราะช่วงที่อาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ผิวยังมีความชุ่มชื้นอยู่ ทำให้ดูดซึมกลิ่นได้ดีกว่า วิธีนี้จะทำให้น้ำหอมกลิ่นติดผิวได้ทนมากยิ่งขึ้น
• ฉีดน้ำหอมใส่หวี ก่อนจะหวีผม
สาว ๆ คนไหนอยากหอมสดชื่นไปทั้งวัน ลองฉีดน้ำหอมใส่หวีก่อนจะหวีผมรับรองเวิร์ค เพราะหากเราฉีดน้ำหอมลงไปตรง ๆ บนเส้นผม หรือหนังศีรษะ กลิ่นจะไม่กระจายตัว หรือบางคนอาจจะเกิดอาการแพ้บริเวณหนังศีรษะก็เป็นได้
• ทาโลชั่น หรือปิโตรเลียมเจลลี่ที่จุดต่าง ๆ ก่อนฉีดน้ำหอม
แนะนำให้ทาโลชั่นที่ไม่มีกลิ่น หรือปิโตรเลียมเจลลี่ในจุดต่าง ๆ ก่อนที่จะฉีดน้ำหอมลงไป หรือจะใช้วิธีแต้มก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดทน เพราะผิวที่ชุ่มชื้นจะติดดีกว่าผิวแห้ง
• ฉีดน้ำหอมให้ห่างจากตัว
ฉีดน้ำหอมให้ห่างจากตัว หรือฉีดในอากาศ ฉีดพ่นไปข้างหน้าตัวเอง หลังจากนั้นให้รีบเดินผ่านเพื่อให้ละอองน้ำหอมติดตัวทั่ว และฟุ้งกระจาย ทำแบบนี้จะช่วยให้น้ำหอมมีกลิ่นติดทน และไม่ฉุนจนเกินไป
• ฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร
การฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจรต่าง ๆ เช่น ข้อมือ ข้อพับ ซอกคอ เพราะจุดชีพจรเหล่านี้มีความอุ่นจากการหมุนเวียนเลือด ทำให้กลิ่นทนกว่า และกระจายตัวได้ดีกว่า
12 BEST VALENTINE’S DAY FRAGRANCES
1. AERIN Rose De Grasse Rouge Eau de Parfum
Base notes: Honeycomb accord, Musk
Middle notes: Red rose, Rose centifolia
Top notes: Rose water, Violet leaves
2. ARMANI Stronger With You Absolutely Eau de Parfum
Base notes: Vanilla, Cedarwood
Middle notes: Lavender
Top notes: Rum accord
3. BOND NO. 9 New York Forever Eau de Parfum
Base notes: Musky labdanum, Earthy moss
Middle notes: Spicy-sweet vanilla, Honeyed amber
Top notes: Fresh cinnamon bark, Indonesian patchouli oil
4. CREED Carmina Eau de Parfum
Base notes: Frankincense, Myrrh, Amber, Musk
Middle notes: Rose de mai, Violet, Cashmere wood, Peony
Top notes: Black cherry, Saffron, Pink pepper
5. DOLCE & GABBANA Devotion Eau de Parfum
Base notes: Madagascar vanilla
Middle notes: Orange blossom
Top notes: Candied lemons
6. ESTÉE LAUDER Knowing Legacy Eau de Parfum
Top notes: Raspberry, Black currant
Middle notes: Rose damascena, Orris concrete
Base notes: Patchouli, Sandalwood, Vetiver, Amber (labdanum), Styrax
7. GUERLAIN Santal Pao Rosa Eau de Parfum
Base notes: Sandalwood, Oud, Myrrh, Patchouli
Middle notes: Rose essence, Rose absloute, Incense
Top notes: Pink peppercorn, Cardamom, Fig
8. JO MALONE LONDON Rose Blush Cologne
Base notes: White musk, Amberwood
Middle notes: Rose, Geranium
Top notes: Basil grand vert, Lychee
9. ORMONDE JAYNE Sakura Eau de Parfum
Base notes: Sandalwood, Madagascan Vanilla, Musk, Amber, Cedar Wood, Tonka bean
Middle notes: Cherry Blossom, Waterlilies, Osmanthus, Rose, Freesia, Cyclamen Violet
Top notes: Green notes, Pink Pepper, Bergamot, Lime, Mandarin, Coriander Seed
10. PENHALIGON’S Liquid Love Eau de Parfum
Base notes: Cashmeran, Sandalwood, Musk
Middle notes: Green hazelnut, Ultimate rose, Chilli
Top notes: Pink pepper, Ginger, Turmeric
11. RALPH LAUREN Polo Red Eau de Toilette
Base notes: Rich woods accord, Guaiac wood oil, Cedarwood oil, Benzoin resinoid, Opoponax resinoid
Middle notes: Lavender oil, Clary sage oil, Cistus absolute, Elemi resinoid
Top notes: Ginger oil, Red grapefruit oil, Cranberry accord
12. YSL Black Opium Eau de Parfum Over Red
Base notes: Coffee accord, Vanilla, Patchouli
Middle notes: Jasmine, Black tea, Orange blossom absolute
Top notes: Cherry accord, Mandarine essence
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF AERIN, EMPORIO ARMANI, BOND NO.9, CREED, DOLCE & GABBANA, ESTÉE LAUDER, GUERLAIN, JO MALONE, ORMONDE JAYNE, PENHALIGON’S, RALPH LAUREN, SAINT LAURENT
STOCK PHOTOS: Image by Freepik
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่