Cartier เผยโฉมเรือนเวลารุ่นพิเศษ Tank Louis Cartier Bangkok Edition รังสรรค์ขึ้นสำหรับประเทศไทย เพียง 67 เรือนเท่านั้น
Cartier (คาร์เทียร์) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส เผยโฉมเรือนเวลาพิเศษ Tank Louis Cartier Bangkok Edition (แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ แบงคอก อิดิชัน) ที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับประเทศไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสมญานามของประเทศไทย “The Golden Kingdom” โดยเลือกใช้โทนสีทองที่สื่อถึงวัฒนธรรมไทย คงเอกลักษณ์ด้านดีไซน์และความสง่างามเหนือกาลเวลาของเรือนเวลาตระกูล Tank ไว้อย่างครบครัน และความพิเศษของเรือนเวลารุ่นนี้รังสรรค์เพียง 67 เรือนเท่านั้น
เรือนเวลาตระกูล Tank เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นไอคอนิกของคาร์เทียร์มาตั้งแต่ปีค.ศ.1917 ซึ่งเป็นปีที่ Louis Cartier (หลุยส์ คาร์เทียร์) รังสรรค์เรือนเวลาทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า อันเกิดจากความประทับใจในรูปทรงของรถถังฝรั่งเศส ด้วยรูปทรงเรขาคณิตของหน้าปัดและกรอบคู่แนวตั้งขนาบตัวเรือน เสมือนภาพจำลองของรถถังเมื่อมองจากมุมสูง ทำให้ดีไซน์ของแทงก์มีความโดดเด่นล้ำสมัย ต่างกับนาฬิกาส่วนใหญ่ในยุคนั้นที่มีหน้าปัดทรงกลม
ต่อมาในปีค.ศ.1922 คาร์เทียร์รังสรรค์เรือนเวลา Tank Louis Cartier (แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์) คงเอกลักษณ์ดีไซน์เรขาคณิตของแทงก์ ที่มีความแตกต่างที่กรอบข้างตัวเรือนด้วยความโค้งมนมากขึ้น สร้างชื่อเสียงจนพิชิตใจคนรักนาฬิกาทั่วโลก สู่การปรับเปลี่ยนโดยได้แรงบันดาลใจจากแทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ รุ่นแรก
ตัวเรือนขนาด 33.7 x 25.5 มิลลิเมตร ผ่านความเพรียวบาง 6.6 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับแทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ รุ่นลาร์จโมเดล แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะจากตัวเรือนและหน้าปัดโทนสีทอง โดดเด่นด้วยพื้นผิวที่มีชั้นเชิงของรายละเอียดบริเวณหน้าปัด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเรือนเวลารุ่น Tank Must Vermeil (แทงก์ มัสท์ เวอร์มิล) จากปีค.ศ.1980
บริเวณหน้าปัดคาร์เทียร์เลือกใช้ทองคำ ซึ่งมีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทานและเต็มไปด้วยความหรูหรา ผสานเข้ากับเทคโนโลยีของการเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูงแกะสลักหน้าปัดเป็นลวดลาย Sunray ที่แผ่กระจายความงดงามจากจุดศูนย์กลางดั่งแสงของพระอาทิตย์ สร้างมิติให้กับนาฬิกาเรือนนี้ โดยเม็ดมะยมประดับเพชร ทั้งหมดล้วนรังสรรค์จากช่างฝีมือชั้นครูของเมซง และอีกหนึ่งรายละเอียดสุดพิเศษของเรือนเวลารุ่นนี้ คือฝาตัวเรือนด้านหลังที่สลักคำว่า Bangkok และ Limited Edition of 67 pieces (ผลิตจำนวนเพียง 67 เรือน) โดยรหัส 67 สื่อถึง ปี พศ.2567 ของประเทศไทย นับเป็นชิ้นงานที่น่าสะสมเป็นอย่างมาก
นอกจากความสุนทรีย์ที่สวยงามมองเห็นได้จากภายนอก ขับเคลื่อนด้วยกลไกการทำงานระบบจักรกลไขลานด้วยมือ Calibre 1917 MC พลังสำรองลาน 38 ชั่วโมง ทนแรงดันน้ำได้ถึง 3 บาร์ (30 เมตร) สายสามารถถอดเปลี่ยนได้ถึง 2 แบบ ทั้งสายหนังจระเข้สีดำ และสายหนังจระเข้สีน้ำตาล
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF CARTIER