Franck Muller เผยโฉมคอลเลกชัน Vanguard Beach ได้แรงบันดาลใจจากสีสันสดใสของชายหาดในบรรยากาศช่วงฤดูร้อน
Franck Muller (แฟรงค์ มุลเลอร์) เผยโฉมคอลเลกชัน Vanguard Beach (แวงการ์ด บีช) ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันสดใสของชายหาดในบรรยากาศช่วงฤดูร้อนเปรียบดั่งดวงอาทิตย์ คลื่นทะเลและผืนทราย โดยทางแบรนด์สร้างสรรค์ความโดดเด่น อันเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันและความสดใสชวนให้นึกถึงช่วงเวลาแห่ง la dolce vita (ลา โดลเซ วิตา) ภายใต้เฉดสีแดงเพลิง ฟ้าน้ำทะเลและซัมเมอร์กรีน ผ่านเรือนเวลาสไตล์โมโนโครมด้วยเฉดสีสปอร์ตผสมผสานแฟชั่นอันทันสมัยอย่างกลมกลืน สู่รูปทรงตัวเรือนนาฬิกาเฉพาะของแฟรงค์ มุลเลอร์อันเป็นเอกลักษณ์
Vanguard (แวงการ์ด) เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ. 2014 เผยความมีชีวิตชีวาสไตล์สปอร์ตอันเรียบง่าย ผ่านรูปทรงตอนโน (tonneau-shaped) โดยตัวเรือนทรงตอนโนโค้งของนาฬิกาได้มอบการปรากฏตัวที่ดูราวกับมีน้ำหนัก แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงสามารถสวมใส่ได้อย่างสะดวกสบายและกลมกลืน อันเป็นผลลัพธ์มาจากตัวเรือนแบบไร้หูเชื่อมสาย โดยคุณสมบัติเหล่านี้ได้สร้างให้ แวงการ์ด ได้รับความนิยม ซึ่งคอลเลกชันนี้เติบโตสู่การเป็นคอลเลกชันหลักของแบรนด์ และเดินหน้าสำรวจแนวคิดอันหลากหลายผ่านวัสดุ สีสันและความสลับซับซ้อนอันโดดเด่นที่มีความแตกต่าง
Vanguard Beach ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญของแบรนด์ ทั้งต่อการออกแบบและวิศวกรรมวัสดุ จากการเลือกสรรวัสดุสำหรับตัวเรือนแวงการ์ดอย่างพิถีพิถัน จากการรังสรรค์ glass fiber composite (กลาสไฟเบอร์คอมโพสิต) ด้วยคุณสมบัติเด่นทั้งน้ำหนักเบาและแข็งแกร่งทนทานสูง ด้วยความหนาแน่นเพียงหนึ่งในสามของสตีล แต่คงความแข็งแกร่งทางเทคนิค โดยกลาสไฟเบอร์คอมโพสิตนี้เป็นวัสดุอันสมบูรณ์แบบ สำหรับการสร้างสรรค์ตัวเรือนนาฬิกาที่ซึ่งออกแบบและผลิตขึ้นเฉพาะ เพื่อสร้างสรรค์ลวดลายของเส้นสายราวระลอกคลื่นทิ้งไว้บนผืนทรายแห่งชายหาดอันบริสุทธิ์ และเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์นี้ กระจกแก้วต้องผ่านการหล่อหลอมในขั้นแรกที่อุณหภูมิ 1,500 องศาเซลเซียส และสร้างสรรค์เป็นเส้นใยอันละเอียด ทำให้เย็นลงและสร้างรูปกลายเป็นแผ่นกระจก ณ อุณหภูมิต่ำลงที่ 700 องศาเซลเซียส จากนั้นแผ่นกระจกเหล่านี้จึงถูกย้อม ก่อนจัดวางเป็นชั้นและบีบอัดเข้าด้วยกันเป็นบล็อก ถึงจะสามารถผลิตขึ้นรูปเป็นตัวเรือนของนาฬิกา
ภายใต้กระบวนการผลิตในแต่ละขั้นตอนนั้น แฟรงค์ มุลเลอร์ควบคุมอย่างแม่นยำเพื่อให้ได้สีที่ต้องการของแวงการ์ด บีช ขณะเดียวกันคงสร้างสรรค์เป็นลวดลายของเส้นสายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหล่านี้ ในทางกลับกันได้กลายเป็นการจับคู่อันละเอียดอ่อนระหว่างหน้าปัดและสายนาฬิกาเฉดสีแบบ tone on tone อันโดดเด่นผ่านงานออกแบบของแวงการ์ด บีช ในสามเฉดสี ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากโทนสีฟ้าอันแวววาวเจิดจรัส และเฉดสีเขียวของท้องทะเล รวมถึงฉากของพระอาทิตย์ตกสีแดงเพลิงราวดั่งวาดไว้บนท้องฟ้า
Vanguard Beach ตัวเรือนขนาดกว้าง: 41 มม. x ยาว: 49.95 มม. x หนา: 12.2 มม. หน้าปัด สีแดง ฟ้าและเขียวพื้นผิวแบบด้าน ตกแต่งตัวเลขอารบิกบอกเวลาวาดด้วยมือสีขาว ฟังก์ชันชั่วโมง นาที วินาที วันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ติดตั้งกระจกแซฟไฟร์ ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Caliber MVT FM 800-DT ระบบโรเตอร์ขึ้นลานสองทิศทาง ชิ้นส่วน 165 ชิ้น ทับทิม 25 ตกแต่งกลไกด้วยลวดลาย Côtes de Genève (โกตส์ เดอ เชอแนฟ) บนสะพานจักรและแผ่นโรเตอร์ลวดลาย Perlage (เพอร์ลาจ) บนแท่นเครื่อง เม็ด ความถี่บาลานซ์วีลตั้งไว้ที่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง สามารถกันน้ำได้สูงสุด 30 เมตร ตกแต่งคู่สายผ้า Velcro ติดตั้งหัวเข็มขัดไทเทเนียมเคลือบ Epoxy
คอลเลกชันนี้ออกแบบมาเพื่อหลอมรวมพลังอันซึ่งไร้พรมแดนของชายฝั่งทุกห้วงเวลา เผยความมีชีวิตชีวา และเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณแห่งความสดใส และถ่ายทอดงานฝีมือและความสามารถด้านฟังก์ชัน สามารถสวมใส่ได้ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF FRANCK MULLER