Grand Seiko ฉลองครบรอบ 25 ปี เผยโฉมนาฬิกา GMT 2 รุ่น จากคอลเลกชัน Sport และ Elegance
Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก) เผยโฉมนาฬิกา รุ่น GMT 2 ฉลองครบรอบ 25 ปี ของการผลิตนาฬิกาจักรกล Caliber 9S Grand Seiko เปิดตัวนาฬิกา GMT จากคอลเลกชัน Sport และ Elegance โดยแต่ละรุ่นนำท้องฟ้าเหนือทิวเขาอิวาเตะ (Mount Iwate) บนเกาะฮนชูในจังหวัดอิวาเตะ ซึ่งนาฬิกาจักรกลทุกรุ่นของ Grand Seiko ประกอบขึ้นด้วยมือ โดยช่างฝีมือบุรุษและสตรีผู้ชำนาญ มาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง
การเปิดตัวครั้งแรกของ Caliber 9S ในปีค.ศ.1998 เข้าสู่ยุคแห่งการผลิตนาฬิกาจักรกลของ Grand Seiko เป็นกลไกที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ที่สามารถมอบความแม่นยำระดับสูงและความทนทานเป็นเลิศ อันเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Grand Seiko
ซึ่งกลไกนี้กลายเป็นพื้นฐานในการสร้างนาฬิกาจักรกลทุกรุ่นของ Grand Seiko และเกิดซีรีส์กลไกที่สมบูรณ์แบบด้วยรูปแบบฟังก์ชัน ระบบปล่อยจักรและระดับความซับซ้อนที่แตกต่างกัน รวมถึง Caliber 9SA5 ได้ปฏิวัติวงการด้วยระบบปล่อยจักรแบบ Dual Impulse Escapement และ Tentagraph กลไกโครโนกราฟจับเวลาชนิดจักรกลแบบแรกของ Grand Seiko มีนาฬิกา GMT อีกหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงนาฬิกาที่ใช้กลไก Hi-Beat ความถี่สูงอีกหลายรุ่นด้วยกัน
Grand Seiko Sport Collection Caliber 9S 25th Anniversary Limited Edition: SBGJ275
นาฬิกา Sport Collection GMT (สปอร์ต คอลเลกชัน จีเอ็มที) หน้าปัดที่แสดงภาพแห่งทะเลเมฆยามรุ่งอรุณ ก่อตัวเป็นเมฆหนาทึบซ้อนทับกันจนแลดูคล้ายกับผืนพรมอันงดงาม ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้าเหนือทิวเขาอิวาเตะ ยอดเขาที่มองเห็นได้จากสตูดิโอชิสุกุอิชิของ Grand Seiko ปกคลุมด้วยทะเลเมฆ
ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.2 มม หนา 14.8 มม. ติดตั้งกระจกแซพไฟร์ ทรงโค้งทั้ง 2 ฝั่ง เคลือบกันแสงสะท้อน ประดับเข็ม GMT วงขอบหน้าปัดหมุนได้รุ่นนี้ผนึกกระจกแซฟไฟร์คริสตัลทำสีน้ำเงินสลับกับสีขาว ถ่ายทอดความงดงามให้กับดีไซน์และทำให้อ่านค่าเวลาได้พร้อมกันถึง 3 เขตเวลา
โดยระบบภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกลอัตโนมัติ เป็นกลไก Hi-beat GMT Caliber 9S86 มอบความแม่นยำที่มีเสถียรภาพด้วยความถี่การทำงาน 36,000 ครั้ง/ชั่วโมง (10 บีท ต่อวินาที) ความแม่นยำ (อัตราเฉลี่ยรายวัน): +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน ติดทับทิม 37 ต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร พลังงานสำรอง: 55 ชั่วโมง สามารถกันน้ำได้ถึงระดับ 20 บาร์ (200 เมตร) ฝาหลังแบบเกลียว ด้านหลังกรุกระจกแซฟไฟร์คริสตัลแผ่นใส เผยโฉมโรเตอร์ไทเทเนียมที่ทำให้เป็นสีฟ้าอ่อนด้วยกระบวนการ Anodic Oxidation ซึ่งเป็นครั้งแรกของการนำฝาหลังชนิดกรุกระจกมาใช้กับนาฬิกาจักรกล Grand Seiko อีกด้วย ประดับคู่สายสเตนเลสสตีลตัวล็อกแบบบานพับ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกด รุ่นลิมิเต็ด เอดิชันผลิตเพียง 2,000 เรือน
Anodic Oxidation คือการกระทำกับพื้นผิวด้วยการนำโลหะเข้าสู่กระบวนการอิเล็กโทรลิซิส เป็นการผ่านกระแสไฟฟ้ากระแสโดยตรงจากภายนอกเข้าไปในสารละลายอิเล็กโทรไลต์ แล้วทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีจนเกิดเป็นฟิล์มออกไซด์เทียมขึ้นมา ฟิล์มไทเทเนียมออกไซด์จะเกิดสีขึ้นตามดัชนีการหักเหของแสง ซึ่งทำให้สามารถสร้างสีต่างๆ ขึ้นมาได้ด้วยระดับความหนาที่แตกต่างกันของฟิล์มออกไซด์
Grand Seiko Elegance Collection Caliber 9S 25th Anniversary Limited Edition: SBGM253
นาฬิการุ่น Elegance Collection หวนระลึกถึงท้องฟ้ากระจ่างใสของยอดเขาอิวาเตะ ปรากฏอยู่บนเรือนเวลา ลิมิเต็ด เอดิชันของหน้าปัดในโทนสีฟ้างดงามดุจท้องฟ้าประกายซันเรย์ โดดเด่นด้วยรูปร่างแบบคลาสสิกนำมาเป็นฐานในการเสริมแต่งรูปทรงงามสง่า ดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา
ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.5 มม. หนา 13.7 มม. หน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลรูปทรงกล่อง วงขอบตัวเรือนและตัวเรือนที่ขัดผิวแวววาวดุจกระจกเงา ตลอดจนแนวโค้งอันนุ่มนวลของขาตัวเรือนที่ตกแต่งผิวมาดุจกระจกเงาที่ไร้การบิดเบือนของภาพสะท้อน อันเป็นผลลัพธ์ของการขัดเงาด้วยเทคนิค Zaratsu (ซารัตสึ) ติดตั้งเข็ม GMT ผ่านความร้อนจนเป็นสีน้ำเงินของนาฬิการุ่นนี้
สามารถปรับตำแหน่งไปยังเขตเวลาใดก็ได้ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ เช่นเดียวกับรุ่น Sport Collection ในส่วนของสเกลเวลา 24 ชั่วโมง ที่พิมพ์ด้วยสีน้ำเงินลงบนหน้าปัดลายประกายซันเรย์สีฟ้าอ่อน สำหรับแสดงชั่วโมงของเขตเวลาที่สองนั้น เป็นรายละเอียดที่สามารถแยกแยะดีไซน์ของนาฬิกาฉลองวาระครบรอบรุ่นนี้ออกจากรุ่นอื่นได้อย่างชัดเจน
ภายในบรรจุระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Caliber 9S66 ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (8 บีทต่อวินาที) ความแม่นยำ (อัตราเฉลี่ยรายวัน) +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน ความต้านทานแม่เหล็ก 4,800 แอมแปร์/เมตร สะสมพลังงานสำรอง 72 ชั่วโมง สามารถกันน้ำได้ 3 บาร์ (30 เมตร) กลไกนี้ใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยเข็มชั่วโมงสำหรับบอกเวลาท้องถิ่น ที่สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างอิสระ ทำให้รักษาความแม่นยำในการบอกเวลาได้ แม้ในขณะทำการปรับตั้งเวลาตามเขตเวลาที่เปลี่ยนไปจากการเดินทาง ฝาหลังแบบเกลียว กรุกระจกใสให้สามารถมองเห็นกลไก GMT รูปแบบอันทันสมัย เผยโฉม Caliber 9S66 ติดตั้งโรเตอร์ไทเทเนียมสีน้ำเงินแห่ง Grand Seiko ซึ่งทำให้เกิดสีด้วยกระบวนการ Anodic Oxidation เช่นเดียวกับนาฬิกา GMT ทุกรุ่นของ Grand Seiko ตัวสายสเตนเลสตีล ติดตั้งล็อกแบบบานพับ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกด โดยรุ่นนี้ผลิตเพียง 1,700 เรือน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF GRAND SEIKO