แรงบันดาลใจจากเสน่ห์ของป่าไวท์เบิร์ช หรือ Shirakaba ใกล้ๆ กับ Studio Shizukuishi ที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดการสร้างสรรค์และผลิตผลงานนาฬิกาจักรกลทุกเรือนของ Grand Seiko SLGH005
Grand Seiko SLGH005 รุ่นนี้ ได้แรงบันดาลใจจากต้น White Birch ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Shirakaba (ซิรากาบะ) เป็นต้นไม้ที่มีลำต้นเรียวยาวสีขาว ชอบอากาศหนาวเย็น มีแหล่งกำเนิดในทวีปยุโรปและเอเชียบางส่วน สำหรับ แกรนด์ ไซโก คอลเลกชั่นนี้ การออกแบบนอกจากจะเน้นศิลปะ เรื่องราวและความสง่างามตามสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว ยังแฝงด้วยความปราดเปรียวอีกด้วย
หลายคนคงพอคุ้นเคยกับความโด่งดังของต้นตำรับงานออกแบบที่รู้จักกันเป็นอย่างดีด้วยชื่อว่า Series 9 Design ซึ่งได้กลายเป็นส่วนสำคัญภายใต้เอกลักษณ์ของนาฬิกา Grand Seiko และ Grand Seiko Style ซึ่งกำหนดไว้นับตั้งแต่ปี 1967 กับการฉลองของรุ่น 44GS ซึ่งมีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์ของแบรนด์ กระทั่งกลายมาเป็นมรดกของงานออกแบบ ที่ให้ความรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความทรงพลัง และร่วมสมัย พร้อมจะก้าวไปสู่ยุคสมัยใหม่
และด้วยเหตุผลนี้ที่นำมาใช้กับนาฬิกาคอลเลกชั่น Heritage ของ แกรนด์ ไซโก ในปัจจุบันและต่อๆไป ไม่ว่าจะเป็นเข็มชี้อันทรงพลัง และหลักบอกชั่วโมงแบบเซาะร่อง ที่เสริมความโดดเด่นให้กับหน้าปัด รวมถึงเพิ่มความสามารถในการมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยตัดกับความเงาวาวราวกระจกเงาของงาน ขัดแบบ Zaratsu ซึ่งให้ความเงาวาวของพื้นผิวที่ปราศจากความผิดเพี้ยนของภาพสะท้อน และสลับด้วยลายบางๆ ของ hairline อันประณีต ที่เสริมให้ตัวเรือนนาฬิกามีทั้งความเรียบสุขุม และความเงาวาวซึ่งผสมผสานเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน อีกหนึ่งจุดเด่นยังรวมไปถึงหูเชื่อมสายแบบกว้าง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถสวมใส่นาฬิกาไว้บนข้อมือไ้ด้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมารวมตัวกันอยู่ในนาฬิกาข้อมือที่เราเห็นนี้ได้อย่างสมบูรณ์
กลับมาที่แรงบันดาลใจหลักที่น่าสนใจอีกหนึ่งจุดสำหรับ Grand Seiko SLGH005 ที่เกริ่นไปแล้วว่าได้ดึงเอาเสน่ห์ของป่าไวท์เบิร์ชหรือ Shirakaba ใกล้ๆ กับ Studio Shizukuishi ที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดการสร้างสรรค์ และผลิตผลงานนาฬิกาจักรกลทุกเรือนของ แกรนด์ ไซโก มาใช้ โดยจะเห็นได้ชัดเมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ บนผิวหน้าปัดซึ่งตกแต่งด้วยการถอดลวดลาย ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนกับได้มีโอกาสไปเยือนยังป่าไวท์เบิร์ชด้วยตนเอง ซึ่งต้นไวท์เบิร์ชนั้น มีเอกลักษณ์ของความสง่างามและสวยงาม จากลำต้นที่เรียวสูงโดดเด่น กับเปลือกไม้สีขาวที่มีให้เห็นทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว นำเสนอเป็นทิวทัศน์ที่ทอประกายความสวยงาม และดูลึกลับในคราวเดียวกัน ขณะที่ไวท์เบิร์ชยังเจริญเติบโตในพื้นที่ทางเหนือของประเทศญี่ปุ่น เช่นเดียวกับที่เติบโตขึ้นรายล้อมรอบบริเวณ Studio Shizukuishi ของ แกรนด์ ไซโก นั่นเอง
โดยความพิเศษที่นำมาถ่ายทอดไว้ในนาฬิการุ่นนี้คือความซับซ้อนของพื้นผิวบนหน้าปัด ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดของการตกแต่ง โดยเฉพาะเทคนิคชั้นสูงของงานฝีมือจาก แกรนด์ ไซโก เช่นเดียวกับความสวยงามของกลไก ที่ได้รับการขัดแต่งอย่างประณีต และเปิดโชว์ให้เห็นผ่านฝาหลังผนึกด้วยกระจกแซฟไฟร์ กับจุดเด่นอยู่ตรงที่สะพานจักรซึ่งมีโครงร่างอันโค้งมน ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของ Mt. Iwate กับความโค้งของ Shizukuishi River ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสตูดิโอสร้างสรรค์นาฬิกาแห่งนี้ และได้ร่วมถ่ายทอดเช่นกันถึงความสำคัญของ Studio Shizukuishi ซึ่งเป็นศูนย์รวมของทั้งนักออกแบบ วิศวกร และช่างนาฬิกา ที่ทำงานร่วมกันอย่างทุ่มเทเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ทางจักรกล เช่นเดียวกับสืบทอดไว้ซึ่งองค์ความรู้และประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาอันทรงคุณค่าของแบรนด์ ภายใต้โรงงานการผลิตแบบผสมผสานอย่างสมบูรณ์ ที่หลอมรวมไว้ด้วยทุกๆ ความเชี่ยวชาญ ศิลปะผนวกมาตรฐานคุณภาพทางเทคนิคและจักรกลอันเป็นเอกลักษณ์ของ แกรนด์ ไซโก ไว้ในทุกๆ ผลงานที่ออกมา
ขณะที่ภายใน Grand Seiko SLGH005 ขับเคลื่อนด้วยกลไกปฏิวัติอย่าง Caliber 9SA5 จาก Caliber 9S อันโด่งดังนับจากกลไกชุดแรก ที่เปิดตัวมาแล้วกว่าสองทศวรรษ และยังมีต้นกำเนิดมาจากสตูดิโอเดียวกันนี้ โดยเป็นกลไกจักรกลความถี่สูง Hi-beat 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง (10-beat movement) กับความเที่ยงตรง +5/-3 วินาทีต่อวัน และให้พลังงานสำรองที่ยกระดับขึ้นเป็น 80 ชั่วโมง ที่ได้มาจากการใช้พลังงานภายในจักรกลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หลังจากที่กลไก 9SA5 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 โดยประกอบด้วยการพัฒนาที่สำคัญ 3 ประการ คือชุดจักรปล่อยแรงแบบ Dual Impulse (Dual Impulse Escapement) พร้อมทั้งชิ้นส่วนใหม่ที่ผลิตขึ้นจาก MEMS Technology ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการส่งทอดพลังงานจาก mainspring และประสิทธิภาพของ escapement ให้ดียิ่งขึ้น จักรกลอกอิสระของ Grand Seiko (Free-sprung balance) ที่รับประกันได้ถึงความเที่ยงตรง และความเสถียรในการทำงานของจักรกลในระยะยาว และชุดเฟืองจักรวางตัวในแนวนอน (Horizontal Gear Train) ที่ให้ผลลัพธ์เป็นมาตรฐานใหม่ในการสร้างสรรค์กลไกจักรกลความถี่สูง ขณะเดียวกันก็นำเสนอความพิเศษเหนือชั้นด้วยชุดกลไกที่บางกว่ากลไก Hi-beat อื่นๆ ถึง 0.8 มม. หรือประมาณ 15% ซึ่งนั่นทำให้นาฬิกามีตัวเรือนที่บางและเพรียวยิ่งขึ้น
SGLH005 เป็นผลงานจากคอลเลกชั่น Heritage ของ แกรนด์ ไซโก ที่จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2021 นี้ มาพร้อมความสวยสง่าของตัวเรือนสตีล 40 มม. หนาเพียง 11.7 มม. คู่กับสายทำจากสเตนเลสสตีล รวมถึงคงประสิทธิภาพการกันน้ำได้ลึกระดับ 100 เมตร และป้องกันสนามแม่เหล็กได้ระดับ 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร วางจำหน่ายในราคา 321,000 บาท ผู้ที่ชื่นชอบและอยากชมนาฬิกาสามารถแวะไปที่ บูติก Grand Seiko ชั้น 1 เกษรวิลเลจ และ Grand Seiko Salon ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึง http://grandseikoboutiquethailand.com/
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF GRAND SEIKO
MUSIC: www.bensound.com
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับนาฬิกาชั้นสูงได้ ที่นี่