Omega (โอเมกา) ฉลองครบรอบ 75 ปี เผยโฉมเรือนเวลาคอลเลกชัน Seamaster
OMEGA Seamaster 75 Years Anniversary Omega (โอเมกา) แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิส เริ่มต้นในปีค.ศ.1848 โดย Louis Brandt ช่างทำนาฬิกาหนุ่มวัย 23 ปี เกิดจากความหลงใหลที่ต้องการพัฒนาให้มีความเที่ยงตรงและแม่นยำ ที่มีคุณาพสูงจนเป็นที่ยอมรับในวงการนาฬิกา และสืบทอดผ่านลูกชายทั้ง 2 ของเขาจนมีชื่อเสียงระดับโลก
ทางแบรนด์เปิดตัว Seamaster ในปีค.ศ.1948 นาฬิกาเรือนนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความเชี่ยวชาญด้านการทหารของทางแบรนด์ และผลิตขึ้นมาเพื่อให้ทนทานต่อความท้าทายในทุกระดับ Seamaster มีคุณสมบัติกันน้ำยอดเยี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์ไร้ขีดความสามารถของคอลเลกชันนี้
Omega (โอเมกา) ฉลองครบรอบ 75 ปี คอลเลกชัน Seamaster (ซีมาสเตอร์) เผยโฉมเรือนเวลาพิเศษทั้งหมด 7 รูปแบบ 11 รุ่น สะท้อนตัวตนที่แตกต่าง ตั้งแต่นาฬิกาที่มีความเรียบหรูไปจนถึงการรังสรรค์นาฬิกาเพื่อการดำน้ำอย่างแท้จริง ความพิเศษอีกหนึ่งสิ่งที่นาฬิกาทุกรุ่นมีร่วมกันคือการตกแต่งด้วยสี Summer Blue (ซัมเมอร์ บลู) สะท้อนถึงคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมในการกันน้ำของเรือนเวลา Seamaster
โดยคอลเลกชันเรือนเวลา Omega Seamaster Summer Blue Edition ประกอบด้วยเรือนเวลาในตระกูล Seamaster ได้แก่ Aqua Terra มี 3 รุ่น โดยทุกรุ่นมอบคุณสมบัติกันน้ำได้ 150 เมตร ประกอบด้วย ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 38 มิลลิเมตร บรรจุกลไก Co-Axial Master Chronometer 8800 มากับคู่สายสเตนเลสสตีล ส่วนตัวเรือนสายสเตนเลสสตีลขนาด 41 มิลลิเมตร ภายในบรรจุด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer 8900 จับคู่สายสเตนเลสสตีลหรือสายยางสีน้ำเงิน
Aqua Terra Worldtimer ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 43 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยรูปแบบการแสดงเวลาเวิล์ดไทม์และแผนที่โลกบริเวณกลางหน้าปัดปรากฏใน 2 รุ่น ภายในทำงานด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer 8938 จับคู่สายสเตนเลสสตีลหรือสายยางสีน้ำเงิน
Seamaster 300 หนึ่งใน 3 เรือนเวลาของ Professional ที่เปิดตัวในปีค.ศ.1957 โดยรุ่นใหม่นี้ ตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีลขนาด 41 มิลลิเมตร บรรจุกลไก Co-Axial Master Chronometer 8912 มอบคุณสมบัติการกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร
Seamaster Diver 300 อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นไอคอนแห่งโลกของเรือนเวลาดำน้ำ ปรากฏในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 42 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer 8800 สามารถเลือกสวมใส่ระหว่างสายสเตนเลสสตีล หรือสายยางสีน้ำเงิน สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร
Planet Ocean 600M เปิดตัวในปีค.ศ. 2005 จากความโดดเด่นของขอบตัวเรือนสีส้ม ครั้งนี้เผยโฉมในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 39.5 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงิน ภายในทำงานด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer 8800 ลงตัวกับสายสเตนเลสสตีล สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 600 เมตร
Ploprof ชื่อคอลเลกชันมาจากคำว่า PLOngeur PROfessionnel อันเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า การดำน้ำระดับมืออาชีพ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความยอดเยี่ยมของเรือนเวลาดำน้ำเรือนนี้ได้เป็นอย่างดี ตัวเรือนผลิตจาก O-MEGASTEELภายในทำงานอย่างเที่ยงตรงด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer 8912 สวมใส่คู่สายยางสีน้ำเงินในสไตล์ยุค 70s สามารถดำน้ำลึกได้ถึงระดับ 1200 เมตร
Seamaster Ultra Deep สุดยอดเรือนเวลาดำน้ำที่สร้างประวัติศาสตร์ในการดำดิ่งสู่พื้นที่ที่ลึกที่สุดของโลก ในการร่องสมุทรมาเรียนา (Mariana Trench) ได้สำเร็จในปีค.ศ.2019 และหลังจากนั้นทางแบรนด์ Omega สร้างสรรค์เรือนเวลาคอลเลกชันนี้ ที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ 6,000 เมตร โดยสำหรับตัวเรือนเวลารุ่นใหม่นี้ตัวเรือนและสายผลิตจาก O-MEGASTEEL ขนาด 45.5 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer 8912 อีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าประทับใจคือ เมื่ออยู่ภายใต้แสง UV ในที่มืด พื้นหน้าปัดจะเผยลายมือเขียน ระบุตำแหน่งความลึกที่ 10,935 เมตร ที่นาฬิกา Seamaster Ultra Deep เคยทำได้
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF OMEGA
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon