‘เดอมอนด์’ ไฟน์จิวเวลรี่เฮ้าส์ชั้นนำของไทยได้นำเสนอผลงานการสร้างสรรค์เครื่องประดับเพชรด้วยคุณภาพเพชรที่ดีเลิศ และความใส่ใจในทุกรายละเอียด
Der Mond Fine Jewelry กว่า 3 ทศวรรษแห่งความภาคภูมิใจที่ ‘เดอมอนด์’ ไฟน์จิวเวลรี่เฮ้าส์ชั้นนำของไทยได้นำเสนอผลงานการสร้างสรรค์เครื่องประดับเพชรด้วยคุณภาพเพชรที่ดีเลิศ และความใส่ใจในทุกรายละเอียด จนเป็นหนึ่งแบรนด์จิวเวลรี่ของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้งในเอเชีย ออสเตรเลีย และประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง ล่าสุดเดอมอนด์ขอนำเสนอมุมมองใหม่ของความเป็นลักซ์ชัวรี่ ที่มองว่าการสวมใส่ไฟน์จิวเวลรี่จะไม่เน้นที่จะบ่งบอกฐานะของผู้สวมใส่ แต่จะเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงออกถึงตัวตน และเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่มีความหมายสามารถส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่นได้ ซึ่งมุมมองนี้จะสร้างจุดยืนที่แตกต่างในการออกแบบเครื่องประดับเพชรให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น และเปลี่ยนไฟน์จิวเวลรี่ของแบรนด์ให้มีความเป็นปัจเจกบุคคล กลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย และสร้างอิสระที่จะใส่ไฟน์จิวเวลรี่ได้ในทุกวัน ให้ทุกคนได้สนุกไปกับการแต่งตัวในสไตล์ของตัวเองหรือสะสมเครื่องประดับที่ตัวเองชื่นชอบได้ รวมถึงเพิ่มโอกาสที่จะได้สร้างความทรงจำดี ๆ จากไฟน์จิวเวลรี่ของเราได้
นายสิรพัฐ พิพัฒน์วีรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของเดอมอนด์ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของเดอมอนด์ที่ก่อตั้งโดยคุณสุนทร และคุณสายสมร พิพัฒน์วีรวัฒน์ ผู้ที่อยู่ในครอบครัวที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจค้าขายเครื่องประดับเพชรและอัญมณีมาหลายรุ่น กล่าวว่า “กว่า 15 ปี ที่ผมทำงานในธุรกิจเครื่องประดับเพชร ทำให้ผมสังเกตได้ว่าความหมายของคำว่าลักซ์ชัวรี่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย สำหรับเดอมอนด์เอง ลักซ์ชัวรี่ คือ ความอิสระที่จะได้แสดงออกหรือทำสิ่งต่าง ๆ ในแบบที่เราอยากทำ และเป็นตัวเราจริง ๆ โดยที่เรามีความสุขไปกับมันและไม่ยึดติดกับภาพจำเดิม ๆ คำว่า ‘Reimagine Luxury’ จึงกลายเป็นแนวความคิดใหม่ของเราในการทำงาน เพื่อที่จะแสวงหาความลักซ์ชัวรี่ในมุมมองใหม่ ที่เน้นการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนและไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่มากขึ้น เดอมอนด์จึงนำเสนอเครื่องประดับในมุมมองใหม่ ๆ ด้วยจุดยืนที่แตกต่างนี้ โดยทั้งนี้ทางแบรนด์ยังต้องกลับมาคำนึงถึง Heritage ของเราไว้เสมอ เพื่อสร้างเป็น Timeless Treasures ที่สามารถเข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าของเราได้ เราตั้งใจจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของไฟน์จิวเวลรี่ให้เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งการแสดงออกถึงตัวตน และสัญลักษณ์แห่งความรักที่จะสามารถส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น เป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สนใจอยากใส่เพชร อยากให้ทุกคนได้รู้สึกสนุกกับการใส่ไฟน์จิวเวลรี่ และสร้างเดอมอนด์ให้เป็นแบรนด์จิวเวลรี่ของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล”
ปัจจุบันเดอมอนด์ได้นำเสนอไฟน์จิวเวลรี่ในสไตล์ที่ร่วมสมัย มีดีเทลที่เป็นเอกลักษณ์ และมีความหรูหราที่จับต้องได้ มีดีไซน์ที่เน้นเรื่องความสมดุลระหว่างฟังค์ชั่นการใช้งาน และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ประกอบกับมาตรฐานการผลิตที่ประณีตที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยคำนึงถึงความสวยงามและดูดีที่สุดเมื่อสวมใส่อยู่บนร่างกาย เพื่อสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่สวมใส่ได้ ทั้งยังควรค่าแก่การสะสมและส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งสิ่งสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้ถูกถ่ายทอดลงไปในไฟน์จิวเวอรี่ของเดอมอนด์ทั้ง 3 กลุ่ม คือ
1. เครื่องประดับคอลเลกชั่น เน้นดีไซน์ที่ไร้กาลเวลา สะท้อนความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์
คอลเลกชั่น ABSOLUTE DECO
เป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นเด่นของเดอมอนด์ มีผลงานทั้งในระดับ Fine Jewelry และระดับ Masterpiece ที่แสดงถึงความเป็นสุดยอดด้าน Craftsmanship ของงาน High Jewelry อย่างเต็มที่ โดยผลงานหลายชิ้นได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือ Rolls Royce Year Book 2013 และ 2018 โดยคอลเลกชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Art Deco ที่เป็นยุครุ่งเรืองที่สุดยุคนึงของงานศิลปะและเครื่องประดับเพชร โดยทางนักออกแบบได้นำดีไซน์ของเครื่องประดับและสถาปัตยกรรมต่าง ๆ จากยุคนี้มาประยุกต์ให้มีความร่วมสมัย ทำให้เกิดเป็นผลงานที่มีความหรูหรา สง่างาม แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี
คอลเลกชั่น DECO ELEMENT
คอลเลกชั่นไอคอนิกของเดอมอนด์ ที่ผสมผสานสัญลักษณ์จากยุค Art Deco ดัดแปลงให้เข้ากับลุคทันสมัย ให้มีความเรียบง่ายและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น โดยยังคงไว้ด้วย หรูหรา สง่างาม ไว้เป็นอย่างดี และสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ในทุกๆโอกาส
คอลเลกชั่น Chic
อีกหนึ่งคอลเลคชั่นที่มีความเรียบง่าย แต่เก๋ไม่เหมือนใคร ด้วยการใช้เพชรแฟนซีหลากหลายรูปทรง และมาจัดวางเส้นเพชรและช่องระยะอย่างลงตัวและงดงาม ดีไซน์โมเดิร์นและเรียบง่าย
2. เครื่องประดับคลาสสิค มีดีไซน์เรียบง่าย ประณีต มีคุณภาพ สง่างาม หรูหรา อ่อนช้อย ดีเทลที่ประณีต ฟังก์ชั่นและสวมใส่ได้ง่าย แต่สะท้อนให้บุคลิกภาพของผู้สวมใส่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น อาทิ แหวนแถวหรือสร้อยข้อมือ Tennis Bracelet ไปจนถึงต่างหูห่วง หรือ สร้อยคอที่ดูทันสมัยแบบ Classic with a Twist ซึ่งแสดงให้เห็นถึงงานฝีมือที่อาศัยความชำนาญสูงและความคิดสร้างสรรค์ เช่น ดีไซน์ Fancy Eternity ที่มีลูกเล่นแตกต่างจากงาน Classic ทั่วไป เป็นของ Must-Have ที่ทุกคนควรจะมีเก็บไว้ใส่ในวันที่เราอยากแต่งตัวสบาย ๆ หรือวันที่ไม่รู้ว่าจะหยิบเครื่องประดับชิ้นใหนมาใส่ ไฟน์จิวเวลรี่แบบคลาสสิกสามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับทุกลุค ด้วยความหลากหลายนี้จึงทำให้สินค้ากลุ่มนี้เป็น Best-seller ของเรา
3. เครื่องประดับสำหรับคู่แต่งงาน แหวนหมั้นทุกวงของเดอมอนด์ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยความพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ เพื่อให้แหวนทุกวงออกมามีสัดส่วนที่เหมาะสมกับผู้สวมใส่และเพชรเม็ดกลางของที่คุณเลือกมากที่สุด โดยตลอดระยะเวลา 31 ปี เดอมอนด์ได้สร้างสรรค์แหวนหมั้นอันทรงคุณค่ามาแล้วกว่า 2,800 คู่ และนอกจากแหวนหมั้นสุดเลอค่าที่เดอมอนด์ตั้งใจมอบให้กับคู่รักทุกคู่แล้ว เรายังมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ในการเลือกซื้อที่ดีที่สุดให้คุณลูกค้าทุกท่าน (Client Experience) ไม่ว่าจะมีความรู้เรื่องเพชรหรือไม่มีความรู้เรื่องเพชรมาก่อน เดอมอนด์ตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์การเลือกซื้อแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน ที่จะให้ลูกค้าเกิดความประทับใจกับแหวนวงสำคัญวงนี้ไปตลอดอายุการใช้งาน หรือกระทั่งส่งต่อให้รุ่นลูกหลาน
นายสิรพัฐ กล่าวเสริมว่า “เดอมอนด์มีความตั้งใจที่จะทำให้เครื่องประดับเพชรที่ดูเข้าถึงยากให้กลายเป็นง่าย ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงไฟน์จิวเวลรี่ได้และมีอิสระที่จะใส่ไฟน์จิวเวลรี่ได้ทุกวัน จึงอยากส่งเสริมให้ทุกคนได้สนุกไปกับการแต่งตัวในสไตล์ของตัวเองอย่างไร้ความรู้สึกกังวล เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสที่จะได้สร้างความทรงจำดี ๆ จากไฟน์จิวเวลรี่ของเรา และเป็น แรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สนใจอยากใส่เพชรมากยิ่งขึ้น ความเชื่อนี้ทำให้เราไม่หยุดพัฒนาและมักจะตั้งคำถามอยู่เสมอ ในอนาคตเราจะตั้งใจจะสร้าง Luxury Experience ของเราให้มีความเข้าถึงง่ายขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่การเริ่มออกแบบสินค้า ลักษณะการสวมใส่ การพรีเซนต์สินค้า การให้ความรู้ และการบริการ รวมไปถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ลูกค้าเข้ามาสัมผัส ให้มีความผ่อนคลายมากขึ้น และขยายขอบเขตของสิ่งเดิมที่มีอยู่ รวมทั้งเพิ่มแนวความคิดใหม่ ๆ ที่จะทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าน่าจดจำมากยิ่งขึ้น”
เกี่ยวกับเดอมอนด์
เดอมอนด์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 โดยคุณสุนทร และคุณสายสมร พิพัฒน์วีรวัฒน์ ผู้ที่อยู่ในครอบครัวที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจค้าขายเครื่องประดับเพชรและอัญมณีมาหลายรุ่น โดยยึดถือเรื่องคุณภาพเพชร ความใส่ใจ และจริงใจ ในการให้บริการมาหลายทศวรรษ ปัจจุบันคุณสิรพัฐ พิพัฒน์วีรวัฒน์ และคุณสุภาสินี พิพัฒน์วีรวัฒน์ ทายาทรุ่นที่ 2 ได้มาต่อยอดธุรกิจ โดยยังยึดถือเรื่องการใส่ใจในเรื่องการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการบริการ และขยายผลต่อในเรื่องของการพัฒนาการออกแบบ เทคนิคการผลิต รวมทั้งการสื่อสารกับผู้บริโภค ด้วยความเชื่อที่ว่าเครื่องประดับไม่ใช่เพียงแค่ของแต่งกายเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นปัจเจกบุคคลและเป็นตัวแทนของเรื่องราวความทรงจำต่าง ๆ ที่มีความหมายต่อชีวิต
ทั้งนี้คุณสิรพัฐ ซึ่งเรียนจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชา Industrial Design และปริญญาโทด้าน Business and Management ที่ Aston University และได้นำประสบการณ์ในการทำแบรนด์ดิ้งมาต่อยอดขยายเพื่อพัฒนาการออกแบบ เทคนิคการผลิต รวมทั้งการการตลาดและสื่อสารกับลูกค้า ด้วยความเชื่อที่ว่าเครื่องประดับไม่ใช่เพียงแค่ของตกแต่งร่างกายเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นปัจเจกบุคคล เป็นตัวแทนของเรื่องราวความทรงจำต่าง ๆ ที่มีความหมายต่อชีวิต เดอมอนด์ จึงใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์ผลงานทุก ๆ ชิ้น เพื่อให้ได้ไฟน์จิวเวลรี่ที่จะทรงคุณค่าเหนือกาลเวลาอยู่เสมอปัจจุบันร้านเดอมอนด์มีทั้งหมด 4 ทุกสาขา สยามพารากอน/ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์/ เมกา บางนา และเซ็นทรัล พัทยา บีท และค้นหาเรื่องราวและกิจกรรมของ “เดอมอนด์” ได้ที่ https://www.facebook.com/dermondjewelry/ หรือhttps://www.instagram.com/dermond_jewelry/ และhttps://www.dermond.co.th/
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF DER MOND
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
