เมื่อความเครียดเล่นงานจนจิตใจและร่างกายเริ่มอ่อนล้า อย่ารอช้า รีบเก็บกระเป๋าไปฮีลใจที่ทะเลกันให้ไว ทำความรู้จักกับ Beach Therapy “ทะเลบำบัด” ชาร์จพลังชีวิตให้กลับมาเต็มที่อีกครั้ง พร้อมอัพเดทน้ำหอมแนวกลิ่น Aquatic สะอาดสดชื่นมีชีวิตชีวา
เมื่อความเครียดเล่นงานจนจิตใจและร่างกายเริ่มอ่อนล้า อย่ารอช้า รีบเก็บกระเป๋าไปฮีลใจที่ทะเลกันให้ไว ทำความรู้จักกับ Beach Therapy “ทะเลบำบัด” ชาร์จพลังชีวิตให้กลับมาเต็มที่อีกครั้ง พร้อมอัพเดทน้ำหอมแนวกลิ่น Aquatic สะอาดสดชื่นมีชีวิตชีวา
เวลาไม่สบายใจให้ไปทะเล เพราะทะเลจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งทุกอย่าง แค่นั่งมองทะเล ปล่อยให้ลมพัดผ่านหน้า นอนฟังเสียงคลื่น เพียงเท่านี้ก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย แต่ที่เป็นแบบนี้ มันเกิดจากเพราะทะเลมีส่วนช่วยเราจริงๆ หรือเป็นเพียงแค่ความรู้สึกของเราเองหรือเปล่า บอกเลยว่าความจริงแล้ว ทะเลนี่ล่ะเป็นตัวยาชั้นดีในการเยียวยาทุกความรู้สึกอย่างแท้จริง จึงกลายเป็นหนึ่งในศาสตร์การบำบัดที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Beach Therapy, Ocean Therapy หรือ Sea Therapy นั่นเอง
Beach Therapy ให้อะไรกับเราบ้าง
• เสียงคลื่นช่วยให้ผ่อนคลาย
เสียงของคลื่นนั้นส่งผลต่อความรู้สึกของเราอย่างนุ่มนวล เป็นเสียงที่มีการไล่ระดับมาอย่างลงตัว ซึ่งมีตั้งแต่โทนเสียงปานกลางถึงต่ำ หรือเป็นเสียงเบาและดังสลับกันไป ทำให้เมื่อไรก็ตามที่เราได้ฟังจึงเกิดความรู้สึกอบอุ่น สงบในจิตใจ ช่วยลดอาการเครียดและฟุ้งซ่านได้เป็นอย่างดี และหากนั่งฟังอยู่นิ่งๆ ปล่อยใจไปกับเสียงนั้น เมื่อรู้ตัวอีกทีความรู้สึกเครียดที่มีอยู่อาจจะสลายไปในพริบตา
• น้ำทะเลเยียวยาความเหนื่อยล้า
ในน้ำทะเลมีแร่ธาตุต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นแมกนีเซียม เกลือแร่ โซเดียม รวมไปถึงไอโอดีน ซึ่งแร่ธาตุทั้งหลายเหล่านี้มีประโยชน์ในการเปลี่ยนระดับน้ำตาลในเลือดให้กลายเป็นพลังงาน ทำให้เรารู้สึกสดชื่นได้มากขึ้น แถมยังมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายต่อระบบประสาทเป็นอย่างดี
• น้ำทะเลกับการดูแลผิวพรรณ
ในน้ำทะเลไม่ได้มีแค่เกลือหรือโซเดียมคลอไรด์ แต่มีแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม ซิลิคอน ซึ่งช่วยในการบำบัดเยียวยาผิวหนังได้ ซึ่งประโยชน์จากแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำทะเล ถูกนำมาใช้ในด้านการแพทย์ด้วย เรียกว่า Thalassotherapy คือการใช้น้ำทะเลบำบัดรักษาโรคต่างๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะในน้ำทะเลที่มีความเข้มข้นสูงจะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค (Antiseptics) และสยบอาการแพ้ (Antiallergic) แต่ก็ต้องเป็นน้ำทะเลที่สะอาด ปราศจากโลหะหนัก
• บรรเทาอาการต่างๆ จากโรคประจำตัว
การว่ายน้ำในทะเลจะช่วยกระตุ้นกระบวนการรักษาตัวเองของร่างกาย ซึ่งทำให้สามารถลดอาการของโรคประจำตัวได้หลายชนิด เช่น โรคหอบหืด โรคไขข้ออักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ โรคที่เกี่ยวกับการอักเสบ การปวดเมื่อยต่างๆ เพราะในน้ำทะเลอุดมด้วยแมกนีเซียมที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความเครียด กระตุ้นการนอนหลับ และช่วยลดความตึงเครียดของเส้นประสาท
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย
เพียงแค่เราได้กลิ่นอายทะเลที่เต็มไปด้วยไอออนประจุลบก็ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราทำงานได้ดีขึ้น และในขณะที่เราว่ายน้ำในทะเล รูขุมขนบนผิวจะขยายเพื่อดูดซึมแร่ธาตุและขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายไปพร้อมกันด้วย ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้การว่ายน้ำหรืออาบน้ำในทะเลอุ่นๆ จะช่วยฟื้นฟูสมดุลแร่ธาตุในร่างกายที่โดนทำลายจากความเครียด ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรง
• เติมพลังธรรมชาติ
ถ้าใครกำลังรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจ แนะนำให้ลองเดินเท้าเปล่าบนหาดทรายดู การที่ฝ่าเท้าได้สัมผัสกับเม็ดทรายทำให้ร่างกายได้ชาร์จพลังจากธรรมชาติ เพราะในทรายมีกระแสไฟฟ้าประจุบวกและประจุลบอ่อนๆ ที่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายและป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้เราเจ็บป่วยยากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า การเดินเท้าเปล่าบนพื้นทรายช่วยลดความเครียดและบรรเทาความเจ็บปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เช่นกัน
• ช่วยให้ออกกำลังกายได้อย่างมีคุณภาพ
การออกกำลังกายท่ามกลางบรรยากาศริมทะเล จะทำให้ปลดปล่อยพลังงานในตัวได้ดี เพราะนอกจากจะทำกิจกรรมได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง โยคะ หรือว่ายน้ำแล้ว การออกกำลังกายริมทะเลยังทำให้มีพลังงานในร่างกายเพิ่มขึ้น จึงมีพลังเหลือเฟือไว้สร้างกล้ามเนื้อได้นานกว่าการออกกำลังกายในห้องที่ปิดหรือในฟิตเนส
• สีของน้ำทะเลทำให้สบายตา
การที่เราได้นั่งมองทะเลสีฟ้า หรือเรียกอีกชื่อว่า Blue Space จากมุมที่นั่งอยู่บนชายหาดและมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา จะถือเป็นการพักสายตาได้เป็นอย่างดีเยี่ยม และยิ่งไปกว่านั้น จะช่วยทำให้เรามีสมาธิได้มากขึ้นกว่าเดิม แถมยังถือเป็นการพักผ่อนสายตาจากความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งในทางจิตวิทยาได้บอกไว้ว่า สีฟ้าเป็นสีที่ทำให้เราผ่อนคลาย แถมช่วยในเรื่องของสุขภาพจิตที่ดีด้วย
• พลังแห่งสายน้ำ
นอกจากน้ำจะให้ความรู้สึกชุ่มชื่นแล้ว ยังช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย และยิ่งเป็นผืนน้ำที่ทอดกว้างออกไปจนสุดลูกหูลูกตาอย่างน้ำทะเล ก็จะยิ่งรู้สึกสงบและผ่อนคลายได้มากขึ้นไปอีก ทั้งนี้ก็เพราะว่า ตามทฤษฎี “Blue Mind” เมื่อเราอยู่ใกล้กับน้ำ ไม่ว่าจะอยู่บนน้ำ อยู่ในน้ำ หรืออยู่ใต้น้ำ สมองจะสร้างสารโดปามีน เซโรโทนิน และออกซิโทซิน ซึ่งที่มีอิทธิพลต่อการทำงานของสมอง ทำให้จิตใจสงบ คลายเครียด และช่วยลดระดับคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด
เรียกว่าพลังของทะเลนั้นช่วยบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง และสามารถส่งต่อแรงบันดาลใจสู่การรังสรรค์ละอองความหอมในแนวกลิ่น Aquatic ที่สื่อถึงความทรงจำของฤดูร้อนด้วยกลิ่นที่ให้ความรู้สึกดั่งการเดินริมชายหาดที่ลมพัดปลิว เท้าทั้งสองได้สัมผัสกับทรายอันนุ่มนวล และคลื่นที่กระทบผิวกายไปตามจังหวะที่ก้าวเดิน ให้ความสดใส สดชื่น สะอาดสะอ้าน เย็นสบาย และล้ำลึกราวกับน้ำทะเล
แม้ว่าน้ำหอมแนวกลิ่น Aquatic จะมาในคอนเซ็ปต์เกลียวคลื่นและท้องทะเลอันแสนบริสุทธิ์ มอบความหอมสดชื่นมีชีวิตชีวาดุจพื้นน้ำสีคราม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เหล่าผู้ปรุงน้ำหอมต่างรังสรรค์ส่วนผสมอย่างพืชน้ำ มวลดอกไม้ และไม้หอมนานาชนิด เพื่อเพิ่มมิติให้กับแนวกลิ่น Aquatic แบบเดิมๆ ได้อย่างงดงามลงตัว และนี่คือ 10 กลิ่นหอมแนว Aquatic สำหรับซัมเมอร์นี้ที่ต้องมีไว้พร่างพรม!
ABBOTT The Cape Eau de Parfum สดชื่นอย่างมีสไตล์ด้วยใบมินต์และขิง มาพร้อมความนุ่มละมุนและอบอุ่นของอำพันและพิมเสน ปิดท้ายด้วยกลิ่นอายของท้องทะเลด้วยมอสอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ACQUA DI PARMA Blu Mediterraneo Mandorlo di Sicilia Eau de Toilette น้ำหอมกลิ่นรูทเบียร์โฟลทหอมหวาน โดดเด่นด้วยกลิ่นเครื่องเทศอย่างโป๊ยกั๊กผสมผสานเข้ากับไอศกรีมวานิลลาและอัลมอนด์ ชวนให้นึกถึงน้ำทะเลสีครามและแสงแดดอบอุ่นยามบ่ายบนเกาะซิซิลี
BOADICEA THE VICTORIOUS Aqua Sapphire Pure Perfume ประสบการณ์แห่งกลิ่น ที่เมื่อแรกดมจะสัมผัสถึงความลงตัวของกลิ่นฟรุ้ตตี้ตามแบบฉบับของผลไม้ เคล้ากลิ่นหอมอ่อนหวานของดอกไม้ ปิดสรุปขมวดบทส่งท้ายเหลือทิ้งไว้ด้วยกลิ่นอำพัน กับมัสก์แสนเลอค่า
DOLCE & GABBANA Light Blue Summer Vibes Eau de Toilette มอบความสดชื่นและความหอมอันเป็นธรรมชาติจากดอกบลูเบลล์ ชวนให้ระลึกถึงความสดใสในซัมเมอร์ของอิตาลีพร้อมความสดชื่นของไม้ไผ่ที่จะมอบความนุ่มนวล สะท้อนถึงความเพลิดเพลินในไลฟ์สไตล์แบบเมดิเตอร์เรเนียนอย่างแท้จริง
ELLIS BROOKLYN SALT Eau de Parfum น้ำหอมอันสดชื่นที่จะชวนระลึกถึงความทรงจำในฤดูร้อน และจิตวิญญาณแห่งท้องทะเล โดดเด่นด้วยกลิ่นน้ำทะเลอันฉ่ำชื่นผสานความซาบซ่านของเลมอนกับส้มแมนดาริน
JIMMY CHOO Aqua Eau de Toilette แนวกลิ่นวู้ดดี้ มารีน เปิดสัมผัสด้วยกลิ่นสดชื่นมีพลังจากเครื่องเทศเผ็ดร้อน ผสานเข้ากับความสดชื่นของเกรปฟรุ้ต ก่อนจะเผยกลิ่นของเจอราเนียมและแคลรี่เซจที่รวมกับกลิ่นมารีนซึ่งเป็นหัวใจหลักได้ลงตัว
MAISON FRANCIS KURKDJIAN Aqua Celestia Cologne forte Eau de Parfum กลิ่นหอมสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซาบซ่า สดชื่น ผสานแนวซิตรัสเกินคาดเดา เผ็ดร้อนด้วยเครื่องเทศหอมและงดงามยั่วยวนใจ
MAISON MARGIELA Sailing Day Eau de Toilette กลิ่นหอมโทน Aromatic และ Aquatic ที่ผสานดอกไอริสอันบริสุทธิ์เข้ากับสาหร่ายแดงที่พร้อมจะชวนนึกถึงความทรงจำอันเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาของท้องทะเลและคลื่นลมแผ่วเบา
MONTBLANC Explorer Ultra Blue Eau de Parfum พร้อมเริ่มต้นการเดินทางอันเปี่ยมล้นด้วยความเข้มข้นและเป็นอิสระด้วย เลมอน, มะกรูด, พริกไทยชมพู, Marine Accord, ใบไวโอเลต และกลิ่นสกัดหนังเข้มข้น
YSL L’Homme Cologne Bleue อบอุ่นและเผ็ดร้อน กลิ่นหอมของกระวานและใบโหระพาผสมผสานกับสนซีดาร์ที่นุ่มนวลเย้ายวน หลอมรวมสู่ละอองความหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่เข้มข้นสำหรับผู้ชายยุคใหม่
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF ABOTT, ACQUA DI PARMA, BOADICEA THE VICTORIOUS, DOLCE & GABBANA, ELLIS BROOKLYN, JIMMY CHOO, MAISON FRANCIS KURKDJIAN, MAISON MARGIELA, MONTBLANC, SAINT LAURENT
STOCK PHOTOS: Image by frimufilms on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่