เรือนเวลาที่ต่อยอดจากแนวคิดจากเรือนเวลาต้นแบบที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมเทคนิคกลไก เเละการใช้วัสดุที่ทันสมัย
Royal Oak (รอยัล โอ๊ก) คอลเลกชันเรือนเวลาสไตล์สปอร์ตหรูที่ออกแบบโดย Gérald Genta (เฌราลด์ ฌองตา) เป็นผลงานจาก Audemars Piguet (โอเดอมาร์ส ปิเกต์) ได้รับความนิยมมาตลอดตั้งแต่เปิดตัวในปีค.ศ. 1972 จนกระทั่งปีค.ศ. 2002 Audemars Piguet เสนอคอลเลกชัน Royal Oak ภายใต้ชื่อ Royal Oak Concept (รอยัล โอ๊ก คอนเซ็ปต์) เรือนเวลาต้นแบบที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมในแง่ของเทคนิคกลไก การใช้วัสดุที่ทันสมัยและการออกแบบแบบล้ำอนาคต มีการขยายเรือนเวลาต่อยอดจากแนวคิด โดยมี Royal Oak Concept Flying Tourbillon GMT (รอยัล โอ๊ก คอนเซ็ปต์ ฟลายอิ้ง ทูร์บิญง จีเอ็มที) เสมือนตัวแทนของเรือนเวลา Royal Oak แห่งยุคใหม่อย่างแท้จริง มาในโทนสีใหม่อย่างสีเขียว เน้นย้ำความไฮเทคโนโลยีของคอลเลกชันนี้อีกขั้น
Audemars Piguet ใช้วัสดุเซรามิกสีเขียวในเรือนเวลารุ่น Royal Oak Offshore ในปีค.ศ. 2018 เรือนเวลานี้ถือเป็นครั้งแรกที่คอลเลกชัน Royal Oak Concept รังสรรค์ด้วยเซรามิกสีเขียวอันทันสมัย มาในตัวเรือนไทเทเนียมขัดผิวแบบพ่นทราย ขนาด 44 มิลลิเมตร หนา 16.1 มิลลิเมตร เสริมขอบหน้าปัด เม็ดมะยม และปุ่มกดที่รังสรรค์ด้วยเซรามิกสีเขียว ตกแต่งด้วยรายละเอียดของการขัดลายซาตินและการขัดเหลี่ยมมุม
เซรามิกสีเขียวอันเรียบเนียนหล่อหลอมขึ้นจากผงเซอร์โคเนียมออกไซด์ (ZrO2) ผสมผสานกับสารยึดเกาะเฉพาะ และนำไปเผาผนึกที่อุณหภูมิกว่า 1,400 องศาเซลเซียส ด้วยเทคนิคลับเฉพาะของ Audemars Piguet จึงได้เป็นเซรามิกมีสีเนียนสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นความท้าทายในการผลิตวัสดุเซรามิกอยู่ที่การคงอุณหภูมิการเผา เพราะหากผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะส่งผลให้เซรามิกมีสีที่ไม่สม่ำเสมอได้ นอกจากนี้ ชิ้นส่วนเซรามิกทุกชิ้นยังได้รับการตกแต่งและขัดลายด้วยมืออย่างละเมียดละไม โดยเหล่าช่างทำนาฬิกาผู้เชี่ยวชาญแห่ง Le Brassus (เลอ บราส์ซูส์) เพื่อสร้างมิติทางสายตา เมื่อกระทบกับแสงทำให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ได้รับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่มีความน่าหลงใหล เผยการเคลื่อนไหวของกลไกขณะทำงาน โดยสามารถชมได้ผ่านทั้งทางหน้าปัดและฝาหลังโปร่งใส ชิ้นส่วนสะพานจักรมีความบางเฉียบอันได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ ตกแต่งด้วยการเคลือบ PVD สีดำและตกแต่งด้วยการเคลือบ CVD สีเขียว ทำให้ผิวของวัสดุมีความสม่ำเสมอทั้งชิ้นและไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีสัน อีกทั้งยังก่อให้เกิดความโดดเด่นเมื่อตกกระทบแสงด้วย
ตัวเรือนบรรจุด้วยกลไก in-house ไขลานด้วยมือ Calibre 2954 นี้ผสมผสานจักรกลที่ได้ชื่อว่ามีความสลับซับซ้อนสูงสุดอย่างฟลายอิ้ง ทูร์บิญงสเถียรภาพการทำงานอย่างเที่ยงตรง ไว้กับระบบแสดงเวลาไทม์โซนที่สอง หรือ GMT แสดงผ่านหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ให้สามารถอ่านค่าเวลาไทม์โซนที่สองได้ทันที ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนทั้งสิ้น 348 ชิ้น ทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง สามารถกันน้ำได้ลึก 100 เมตร และสะสมพลังงานได้ยาวนานถึง 10 วัน จากระบบบาร์เรลคู่ขนานที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Audemars Piguet สามารถป้อนพลังงานเข้าสู่เกียร์ได้ในเวลาเดียวกันด้วยปีกนกที่เชื่อมบาร์เรลทั้งสอง ทำให้สามารถส่งพลังงานได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีส่วนแสดงตำแหน่งของเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ด้วยตัวอักษร H, N และ R ตามลำดับ เพื่อบอกถึงการตำแหน่งในการปรับตั้งเวลา ตำแหน่งที่เป็นกลางและตำแหน่งการไขลานของนาฬิกา
Royal Oak Concept Flying Tourbillon GMT สวมใส่คู่กับสายยางสีเขียว และสีดำตกแต่งหัวหัวเข็มขัดกดพับล็อก ผลิตจากไทเทเนียมพ่นทรายซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Audemars Piguet
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF AUDEMARS PIGUET
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่