ครั้งแรกที่คอลเลกชั่นสปอร์ตหรู อย่าง Piaget Polo พลิกโฉมสู่นาฬิกา Skeleton ที่เปลือยโปร่งให้เห็นแทบทุกตารางมิลลิเมตรของกลไกจักรกลภายใน
กว่าจะได้มาเป็นนาฬิการุ่น Skeleton ที่สวยสมบูรณ์แบบนั้น นอกเหนือจากความยากในการเนรมิตภาพของความเปลือยโปร่งจากภายในกลไกให้ออกมาเป็นความสวยงามบนหน้าปัดของนาฬิกาแล้ว ยังต้องนับรวมไปถึงการระดมเอาหลากหลายทักษะของช่างนาฬิกาและช่างฝีมือ ที่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้ทั้งกลไกจักรกลที่มีความโปร่งเปลือยสวยงามสะดุดตา ทว่ายังคงสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ และรักษาประสิทธิภาพการทำงานของนาฬิกาในทุกๆ ฟังก์ชั่นไว้ได้อย่างครบถ้วน ถึงแม้ว่าจะจำเป็นต้องฉลุหรือเกลาเอาเนื้อวัสดุของชิ้นส่วนสำคัญๆ ออกไป แต่ต้องควบคุมทั้งคุณสมบัติและหน้าที่เดิมของชิ้นส่วนนั้นๆ ไว้ได้อยู่
Piaget Polo (เพียเจต์ โปโล) เปิดตัวเมื่อปีค.ศ. 1979 ได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีการใช้ชีวิตแบบ เจ็ตเซ็ต (Jet Set) ชีวิตที่หรูหรา และการเล่นกีฬาแบบราชา คือ โปโล นั่นเอง เพียเจต์ เป็นผู้สนับสนุนรายการของการแข่งขันโปโลนัดใหญ่ๆ ทั่วโลก โดย Yves Piaget (อีฟส์ เพียเจต์ ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล) มักไปร่วมชมการแข่งขันโปโลแทบจะทุกครั้ง กีฬาที่เปี่ยมด้วยความสง่างาม อีกทั้งยังเป็นกีฬาที่ท้าทาย ต้องใช้เวลาฝึกฝนในการขี่ม้าอย่างคล่องแคล่ว พร้อมสามารถตีส่งลูกบอลได้อย่างแม่นยำ การฝึกฝนที่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายที่สูงลิบลิ่ว กีฬาแห่งราชา (the sport of kings) นี้คือแรงบันดาลใจในการออกแบบนาฬิกาเพียเจต์ รุ่นโปโล
บรรพบุรุษอย่าง Gérald และ Valentin Piaget ผู้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ภายใต้การนำของ Valentin ที่สร้างความแตกต่างและความโด่งดังแก่แบรนด์ โดยการคิดค้นกลไกลอัตโนมัติที่บางที่สุด เพื่อให้ได้นาฬิกา Men’s ultra-thin watches นาฬิกาเรือนบางเฉียบแนบไปกับข้อมือ
ณ เวิร์คช็อปของเพียเจต์ที่เจนีวา นอกจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านกลไกแล้ว ยังประกอบด้วยช่างทอง และช่างประดับอัญมณีผู้มีฝีมือประณีตอีกด้วย ปรัชญาของแบรนด์คือ “Do what has never been done before” ดังนั้นเพียเจต์จึงเป็นแบรนด์ที่หรูหรา ทันสมัย และไม่เหมือนใคร
เพียเจต์ (Piaget) นับเป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์นาฬิกา Skeleton เรือนแรกๆ ขึ้นในช่วงกลางยุค 1970s และเหมือนกับผลงานหลายๆ รุ่น ที่นาฬิกา Skeleton เหล่านี้สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างทันที และถูกเลือกไปประดับอยู่บนข้อมือของเหล่าคนดังอีกมากมาย
หนึ่งในนั้นคือตำนานนักดนตรีแจ๊สและนักทรัมเป็ตโด่งดัง อย่าง Miles Davis ที่เขามักปรากฏกายพร้อมกับ Briefcase ซึ่งพกพานาฬิกาหลายเรือนคู่ใจติดตัวไปด้วยเสมอ โดยเฉพาะเรือนเด่นอย่าง Skeleton watch ตัวเรือนทองของ Piaget ที่ Davis เลือกสวมใส่เป็นประจำบนเวทีสำคัญๆ ทั้งยังเป็นตัวแทนนาฬิกาที่เชื่อมโยงถึงวัฒนธรรมทางดนตรีของเขาไว้อย่างแนบแน่น ไม่ว่าจะในเรื่องความซับซ้อนและแนวคิดนอกกรอบที่ไม่ซ้ำใคร
เป็นที่ทราบกันดีว่า Piaget ยังเชี่ยวชาญในการผลิตกลไกที่มีความบางพิเศษมาอย่างยาวนาน และนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความยากในการสร้างสรรค์ เพราะหากรวมเข้ากับเทคนิคกลไกแบบ Skeleton ที่นอกจากจะต้องเปลือยแล้ว ช่างนาฬิกาและช่างตกแต่งกลไกยังต้องทำงานบนชิ้นส่วนที่ทั้งเล็กจิ๋วและบอบบาง เพราะแต่ละชิ้นล้วนมีความบางพิเศษอีกด้วย แต่ Piaget ก็ทำได้ พร้อมกับสร้างสถิติโลกไว้มากมายจากโจทย์อันแสนท้าทายนี้ โดยเฉพาะการผสมผสานกลไก Skeleton บางที่สุดในโลกเข้ากับจักรกลสลับซับซ้อนสูงสุด อย่าง Tourbillon หรือแม้แต่ Moon Phase ก็มีให้เห็นมาแล้ว ยังไม่นับรวมถึงความสวยงามจากศิลปะการตกแต่งอันประณีตละเอียดอ่อน เช่นการลงยาและประดับเพชรหรืออัญมณีไว้บนพื้นที่อันแสนจำกัดบนกลไกสุดเปลือยเช่นนี้ด้วย
แต่นั่นก็ไม่ยากเกินความสามารถของ Piaget ซึ่งล่าสุดเองแบรนด์ยังได้เผยโฉมนาฬิกา Skeleton รุ่นใหม่ และยังเป็นเรือนแรกที่ Skeleton ได้มาปรากฏภายในนาฬิกาลุคสปอร์ตหรู อันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชั่น Polo มานับตั้งแต่เปิดตัวในปีค.ศ. 1979 ซึ่งเป็นรุ่นไฮไลต์ของปีค.ศ. 2021 นี้
ในการพัฒนาครั้งนี้ ทีมดีไซเนอร์และวิศวกรออกแบบได้หยิบเอาคาแรกเตอร์เด่นๆ ของ Piaget Polo มาใช้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนโค้งมนที่ครอบไว้ด้วยดีไซน์ขอบตัวเรือนทรงกลม รับไปกับหน้าปัดทรงคุชชั่น แต่ได้ลดความบางของตัวเรือนลงถึง 30 เปอร์เซนต์ แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ พร้อมทั้งปรับแต่งกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ 1200S สู่ 1200S1 ด้วยความเปลือยโปร่งแบบ Skeleton อย่างสมบูรณ์ และหนาเพียง 2.4 มม. หรือเทียบเท่ากับความหนาของแผ่นเวเฟอร์บางๆ เท่านั้น
บรรจุภายในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 42 มม. ซึ่งหนาเพียง 6.5 มม. Piaget Polo Skeleton รุ่นใหม่นี้จะมีให้เลือกใน 2 เวอร์ชั่น ระหว่างรุ่นกลไก Skeleton สีน้ำเงิน (G0A45004) และรุ่นกลไก Skeleton สีเทา (G0A45001) โชว์ความเปลือยโปร่งแบบมองเห็นทะลุจากหน้าปัดจนถึงฝาหลัง ซึ่งติดตั้งด้วยกระจกแซฟไฟร์ โชว์ความหรูหราของโรเตอร์เยื้องศูนย์แกะสลักตราสัญลักษณ์ของ Piaget และความประณีตวิจิตรของงานตกแต่งบนทุกชิ้นส่วนของกลไก ลงตัวด้วยสายข้อมือดีไซน์รูปตัว H ที่สำคัญยังออกแบบมาเพื่อให้สามารถถอดเปลี่ยนสลับระหว่างสายสเตนเลสสตีล และสายหนังจระเข้เรียบหรูได้อย่างง่ายดาย แบบ “One Watch, Two Styles” ทั้งสวมใส่สบายและเข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ของแต่ละวัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF PIAGET
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่